เรืองไกร จ่อยื่นป.ป.ช.สอบญัตติซักฟอกฝ่ายค้านเถื่อนหรือไม่ เหน็บ ไม่รู้เพราะศักดิ์ศรีหรืออะไร ทำไมไม่แก้แล้วยื่นใหม่ให้บริสุทธิ์ เหตุของเดิมมีตำหนิ

เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2565 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางหลังจากยื่นนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ตรวจสอบญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านว่าเถื่อนหรือไม่ จะมีการยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาฯ ระบุว่านายชวนจะส่งหนังสือไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.)

ซึ่งการส่งหนังสือไปโดยให้หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านทั้ง 7 พรรค เซ็นรับรองรายชื่อตามบัญชีแนบท้าย ต้องดูว่าหนังสือไปถึงครม.อย่างไร และนายชวนบรรจุวาระอย่างไร หากไปรับรองรายชื่อเดิมให้เป็นรายชื่อของญัตติ 11 คน ตนจะร้องป.ป.ช.ต่อ เพราะถือว่าไม่น่าจะทำได้

เมื่อถามว่า มองว่าญัตติของฝ่ายค้านไม่ถูกต้องด้วยเหตุผลใด นายเรืองไกร กล่าวว่า เพราะเจตนาเดิมของเขา เป็นญัตติที่รัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายมี 10 คน ตามคำให้สัมภาษณ์ของนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) เมื่อมาเพิ่มเป็น 11 คน ก็ต้องเซ็นใหม่ตามแนวทางคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่ให้ไปรับรองว่าที่เซ็นของ 10 คนนำมาใช้สำหรับ 11 คนก็ได้ ตนคิดว่าไม่ถูกต้อง และหลายคนเห็นตรงกันว่าเป็นเรื่องใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้น

หากดูตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่น่าจะเป็นญัตติที่ถูกต้อง เพราะเท่ากับญัตติ 11 คนแต่เดิม ไม่มีคนเซ็นมา มีเฉพาะนพ.ชลน่านเซ็นมา เพราะการเซ็นชื่อเสนอญัตติต้องอ่านและเซ็นชื่อว่าเห็นด้วย แต่นี่เป็นกรณีที่ให้เขาเซ็นลอย ซึ่งเมื่อนายชวนส่งหนังสือถึงครม. เพื่อให้กำหนดวันอภิปรายกลับมายังสภาฯ และต้องมีการบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ตรงนี้จะเป็นเงื่อนไขที่ต้องให้ป.ป.ช.เข้ามาตรวจสอบด้วย

นายเรืองไกร กล่าวว่า หากญัตติไม่ถูกต้องก็จะเป็นญัตติที่ไม่ชอบตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ต้องไปวินิจฉัยว่าการใช้ญัตติที่ไม่ชอบ เข้าข่ายจงใจปฏิบัติหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและกฎหมายหรือไม่ และเป็นความผิดตามมาตรฐานจริยธรรมหรือไม่ ทั้งนี้ สำหรับคนที่เซ็นชื่อไปจะมีผลอะไรหรือไม่นั้น จะบอกว่าผู้ที่เข้าชื่อทั้ง 182 คนนั้นเป็นผู้เสียหายไม่ได้ คนที่เสียหายเป็นรัฐมนตรีที่ถูกเข้าชื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะต้องมาตอบญัตติที่เขาเห็นว่าไม่ถูกต้อง ก็ต้องมีมุมที่ต้องมองเพื่อความเป็นธรรม

เมื่อถามว่า หากเป็นเช่นนี้สามารถยื่นใหม่ได้หรือไม่ นายเรืองไกร กล่าวว่า “นั่นเป็นสิ่งที่เรามีความเห็นไปว่าทำไมไม่ถอนทำให้ญัตติตกแล้วยื่นใหม่ ซึ่งมีข้อดีกว่าเยอะ แค่พิมพ์ขึ้นมาใหม่ แก้วันที่เท่านั้นเอง ทำไมต้องไปดึงดันให้ต้องเป็นวันที่ 15 มิ.ย. ยื่นใหม่ แก้วันที่ใหม่ เข้าชื่อเข้ามาใหม่ ก็เป็นสิ่งที่บริสุทธิ์แล้ว

ของเดิมมันมีตำหนิ มันไม่บริสุทธิ์ ไม่รู้เพราะศักดิ์ศรีหรือเพราะอะไร ผมก็ไม่เข้าใจ ของมันน่าจะแก้ไขให้มันง่ายขึ้น ไม่ต้องไปผิดแล้วผิดอีก หากไม่ถูกก็ต้องพร้อมให้เขาตรวจสอบ จะมาบอกว่าเรืองไกรหยุดได้แล้วมันไม่ถูกต้อง เพราะเวลานี้ผมก็ไม่ได้ทำเพื่อเอาใจรัฐบาล เพราะผมไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน