เพื่อไทย จวกรัฐบาลไม่แมน โยนเผือกร้อนให้ ‘ชัชชาติ’ อัดพรรคร่วมบูลลี่ผู้ว่าฯกทม. แต่ถึงเวลาประชุม ครม.แก้ปัญหาสายสีเขียว กลับบอยคอต
เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2565 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียวของกทม.ว่า ถ้าเป็นรัฐบาลสุภาพบุรุษ ก็ไม่ควรโยนเผือกร้อนให้นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. ไปแก้ไขปัญหาเพียงคนเดียว แถมยังใช้องคาพยพของพรรคการเมืองไปบูลลี่ผู้ว่าฯ กทม. ดูยังไงก็การเมือง เรื่องผลประโยชน์แสนล้าน เป็นเรื่องที่ไม่แฟร์ ไม่จริงใจแก้ไขปัญหา ทอดเวลา ให้เผือกร้อนมาอยู่ในมือผู้ว่าฯ กทม.
ที่ผ่านมามีประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อแก้ปัญหา ก็บอยคอตไม่เข้าประชุม ครม. แทนที่จะเข้าไปเพื่อแก้ไขปัญหาให้สมกับที่ประชาชนเลือกมา กลับปล่อยเรื่องนี้ให้คนอื่นไปแก้ไข เพราะไม่ว่าจะแก้ไขออกมาอย่างไรก็โดนตำหนิ ตนเห็นว่ารัฐบาลโดยเฉพาะกระทรวงคมนาคมน่าจะมีปัญหา
อย่างกรณีล้มประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม มีนบุรี บางขุนนนท์ ตนให้เขียนแปะข้างฝาไว้เลยว่า ไม่สามารถเปิดให้บริการได้ทัน คาดว่าจะล่าช้าไม่น้อยกว่า 2 ปี ทำให้ประเทศไทยเสียหายตามที่สภาพัฒนฯแจ้งไว้ 40,000 กว่าล้านบาท ก็ยังไม่เห็นมีใครรับผิดชอบใดๆ ตนจะรอดูคำพิพากษาของศาลอาญาทุจริตประพฤติมิชอบ ที่จะพิจารณาคดีรถไฟฟ้าสีส้ม ในวันที่ 4 ก.ค.นี้ว่า จะมีคนซวยกี่คน ขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ อย่าลอยตัว โปรดลงมาแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อย่างจริงจัง
นายจิรายุ กล่าวต่อว่า รถไฟฟ้าสายสีเขียววิ่งยาวมากจากคูคต จ.ปทุมธานี ไปจนถึงบางปู จ.สมุทรปราการ เกือบ 50 สถานี มีจุดกึ่งกลางอยู่ที่สยามสแควร์ จากสถิติมีจำนวนน้อยที่ใช้บริการวิ่งตั้งแต่บางปูไปลงคูคต เพราะนั่งผ่าเมืองใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง แต่หากจะนั่งยาว 50 สถานีเฉลี่ย สถานีละ 1 บาท 15 สตางค์ ก็ประมาณ 60 บาทตลอดสาย ถูกกว่านั่งรถเมล์หลายต่อ ถูกกว่าแท็กซี่กว่า 200 บาท ถูกว่าแกร็บเกือบ 300 บาท แต่หากนั่งแค่ไม่กี่สถานี ราคาควรจะเบาๆ 15-30 บาทได้
ตนจึงขอฝากไปยัง ผู้ว่าฯ กทม. ไปให้สุด ทำเพื่อคนกรุงเทพฯ ให้เต็มที่ เพราะที่ผ่านมาหากรัฐบาลแก้ไขปัญหาไปก่อนหน้านี้ ก็ไม่มีปัญหาใดๆ
