จับตา! รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ เข้าพบ บิ๊กตู่ วันอาทิตย์นี้ หลังรับตำแหน่ง เผย ครม.เห็นชอบร่างแถลงการณ์พันธมิตรและหุ้นส่วนไทยและสหรัฐ มอบ‘ดอน’ลงนาม

เมื่อวันที่ 6 ก.ค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ในวันอาทิตย์ที่ 10 ก.ค.นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มีกำหนดให้การต้อนรับ นายแอนโทนี บลิงเคน รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ ที่เข้าเยี่ยมคารวะ ที่ห้องสีงาช้าง โดยวานนี้ (5 ก.ค.) เจ้าหน้าที่หน่วยรักษาความปลอดภัยของสหรัฐฯ ได้เข้ามาสำรวจพื้นที่รอบทำเนียบรัฐบาล โดยเฉพาะที่ตึกไทยคู่ฟ้า

ทั้งนี้ นายแอนโทนี บลิงเคน มีกำหนดเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของกระทรวงการต่างประเทศ ระหว่างวันที่ 9-10 ก.ค.65 โดยนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกฯและรมว.ต่างประเทศ จะพบหารือทวิภาคี และเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อเป็นเกียรติแก่รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ และคณะ

นอกจากนี้ รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ มีกำหนดจะเข้าเยี่ยมชมการดำเนินงาน ที่ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และสถานคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ จ.ปทุมธานี ซึ่งจะเน้นย้ำความสำคัญของความเป็นหุ้นส่วนไทย-สหรัฐฯ ในด้านสาธารณสุขและด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์

การเยือนครั้งนี้ เป็นการเดินทางเยือนไทยครั้งแรก นับตั้งแต่รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ เข้ารับตำแหน่ง และเป็นโอกาสเสริมสร้างความเป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างไทยกับสหรัฐฯ รวมทั้งกระชับความร่วมมือในประเด็นสำคัญต่างๆ บนพื้นฐานของค่านิยมและผลประโยชน์ร่วมกัน ทั้งในระดับทวิภาคีและภูมิภาค

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า นอกจากนี้ ในการประชุมครม. เมื่อวันที่ 5 ก.ค. มีมติเห็นชอบร่างแถลงการณ์ว่าด้วยความเป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกา (Thailand – United States Communique on Strategic Aliance and Partnership) โดยหากมีการแก้ไขร่างแถลงการณ์ฯ ในส่วนที่มิใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศไทย ให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาดำเนินการโดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากครม.อีก รวมทั้งอนุมัติให้ นายดอน ร่วมลงนามในร่างแถลงการณ์ดังกล่าว

โดยประเด็นสำคัญในร่างแถลงการณ์ ครอบคลุมการเสริมสร้างความร่วมมือในด้านต่างๆ ทั้งนี้ ร่างแถลงการณ์ฯ สะท้อนถึงเจตนารมณ์และวิสัยทัศน์ของทั้ง 2 ฝ่ายในการกระชับความร่วมมือระหว่างไทยกับสหรัฐฯ และแนวทางนโยบายในด้านต่างๆ (โดยไม่มีการระบุถ้อยคำหรือบริบทใดที่มุ่งก่อให้เกิดพันธกรณีภายใต้ระเบียบ/ข้อบังคับของกฎหมายระหว่างประเทศ จึงไม่เข้าข่ายเป็นสนธิสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศ และไม่เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญ 2560)

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน