เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ที่พรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.) นายภราดร ปริศนานันทกุล อดีต ส.ส.อ่างทอง พรรคชาติไทยพัฒนา แถลงเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ให้วงเงินเพื่อคนที่มีรายได้ต่ำตามเกณฑ์กำหนด รายละ 200-300 บาทต่อเดือนเท่ากันทั่วประเทศ สำหรับนำไปใช้เป็นส่วนลดหรือใช้รับสวัสดิการรัฐ และนำไปซื้อสินค้าและบริการต่างๆ ในร้านธงฟ้าประชารัฐ และร้านค้าอื่นๆที่เข้าร่วมโครงการ เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจและมาตรฐานค่าครองชีพผู้มีรายได้น้อยพื้นที่เมืองและพื้นที่ชนบทไม่เท่ากัน เพื่อสร้างมาตรฐานการให้สวัสดิการจากรัฐ ตามสถานะของบุคคลที่ถูกจำแนกว่าเป็นคนจนที่มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์หรือต่ำกว่ามาตรฐานรายได้

“ขอให้รัฐบาลพิจารณานโยบายการช่วยเหลือผู้ยากจนอย่างตรงจุดของ นายสี จิ้น ผิง ประธานาธิบดีจีน ที่ให้เจ้าหน้าที่รัฐทั่วประเทศกว่า 2 ล้านคน ออกสัมภาษณ์ผู้ยากไร้ทั่วประเทศและทุกหลังคาเรือนว่าสาเหตุและปัญหาของความยากจนแต่ละครัวเรือนเกิดจากอะไรบ้าง ทำให้รัฐบาลมีข้อมูลถึง 89 ล้านชุดและมี 89 ล้านโครงการเพื่อนำมาแก้ปัญหา และเป็นทางออกให้กับประเทศจีน โดยการประกาศนโยบายของจีนดังกล่าว ตั้งแต่ปี 2558 ถึงปัจจุบัน ทำให้คนจีนหายจนมากถึงปีละ 10 ล้านคน คิดว่าหากประเทศไทยจะนำมาทำ อาจมีปัญหาเรื่องบุคลากร จึงควรมอบหมายให้เอกชนเข้าร่วมดำเนินการได้ เพราะเรื่องนี้จะเป็นทางออกที่ดีและมีประสิทธิภาพสำหรับการแก้ปัญหาความยากจนมากกว่าการแจกเงินเพียงอย่างเดียว”นายภราดร กล่าว

ด้านนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ อดีตส.ส.ศรีสะเกษ พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ขอเสนอให้รัฐบาลเป็นช่างตัดเสื้อผ้าที่ไม่ใช่เสื้อโหล แต่ต้องเป็นเสื้อผ้าที่ทุกคนใส่แล้วพอดี โดยเฉพาะการมีแนวทางแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ความยากจนที่รัฐบาลต้องใส่ใจรายละเอียด โดยเฉพาะแต่ละพื้นที่ที่มีปัญหาที่แตกต่าง เช่น กรณีกำหนดค่าแรงขั้นต่ำที่แต่ละพื้นที่มีสภาพเป็นอยู่แตกต่างกัน ดังนั้นรัฐบาลควรให้อำนาจกับท้องถิ่นในการตัดสินใจแก้ปัญหามากกว่า ขณะที่รัฐบาลเป็นผู้กำกับดูแล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน