‘อั๋น-คำผกา’ เห็นด้วย ต่างชาติครองที่ดิน-อสังหาริมทรัพย์ ไทยได้ประโยชน์ อย่ามองแค่ขายชาติ ควรกังวลเรื่องความโปร่งใสของรัฐบาลมากกว่า

เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 12 ก.ค. 2565 ข่าวสดออนไลน์ จัดรายการ “ข่าวจบ คนไม่จบ” ดำเนินรายการโดย อั๋น ภูวนาท คุนผลิน และแขก ลักขณา ปันวิชัย หรือ คำ ผกา ในหัวข้อ “มท.จ่อชง ดึงต่างชาติถือครองคอนโด-ที่ดิน”

อั๋น ภูวนาท กล่าวว่า ทางกระทรวงมหาดไทยพิจารณาเพิ่มโควตาให้ชาวต่างชาติถือครองที่ดินหรือถือกรรมสิทธิ์ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย เพื่อหารายได้ให้กับภาครัฐ ทั้งการลงทุน ภาษี เม็ดเงินจากต่างชาติให้ไหลเข้ามา ช่วยแก้ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจของประเทศไทย แต่บางคนมองว่า เรากำลังจะขายแผ่นดินไทยให้กับชาวต่างชาติ มีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ในหลายประเทศทำเรื่องนี้ล่วงหน้าเราไปแล้ว เช่น อังกฤษ ญี่ปุ่น มอนเตโนโกร ตุรกี ส่วนตัวคิดว่าให้ได้ แต่ต้องมีโควตา และให้อย่างมีเงื่อนไข

ด้าน คำ ผกา กล่าวว่า ตนเฉยๆ กับเรื่องนี้ เพราะรู้สึกว่าควรทำตั้งนานแล้ว คนไทยอย่าใช้คำว่าขายชาติพร่ำเพรื่อ ความน่าเป็นห่วงของนโยบายเหล่านี้หรือทุกนโยบาย คือเมื่อใดก็ตามที่ทำภายใต้รัฐบาลที่เราตรวจสอบไม่ได้ 100% เราไม่ไว้ใจสักเรื่อง ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับการให้กรรมสิทธิ์ต่างชาติถือครองที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์

คำ ผกา กล่าวต่อว่า คนไทยไปซื้อบ้านอยู่อังกฤษและอเมริกาเยอะแยะ ไม่เห็นมีใครบอกว่าคนอังกฤษขายชาติ อย่างชัชชาติก็ซื้อบ้านให้ลูกอยู่ที่อเมริกา พอลูกเรียนจบก็ขาย ไม่เห็นมีใครสนใจว่า ทำไมคนไทยไปซื้อบ้านอยู่อเมริกาได้ ถ้าเรามีเงินก็อยากไปซื้อบ้านหรืออสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศเป็นการลงทุน

คำ ผกา กล่าวอีกว่า ตอนนี้เราไม่แน่ใจอนาคตของประเทศไทยว่าจะมีจุดจบแบบศรีลังกาหรือไม่ แค่เรามีเงินแค่ 40-50 ล้านบาท เราก็อยากเอาไปลงทุนที่โปรตุเกส แล้วเราได้วีซ่า ได้พาสปอร์ต หรือพาสปอร์ตมอลต้า ก็อยู่ในอียูด้วย การถือพาสปอร์ตอียู มันทรงพลังมาก จะขอวีซ่าไปประเทศไหนบนโลกใบนี้ก็ได้ มันเป็นเรื่องปกติมาก ไม่ได้เกี่ยวกับการขายชาติใดๆ ทั้งสิ้น

คำ ผกา กล่าวต่อว่า คนไทยควรจะเลิก 1.หวงสัญชาติ กลัวมาก กลัวคนต่างชาติได้สัญชาติไทย ตนคิดว่าสัญชาติไทยไม่ได้มีค่ามากบนโลกใบนี้ ที่ใครๆ ก็อยากได้ แต่ตัวเองกลับอยากได้สัญชาติอังกฤษ อียู แคนาดา ออสเตรเลีย อยากได้มาก แต่พอต่างชาติจะมาลงทุนทำธุรกิจ มาทำอะไรที่ทำให้เกิดนวัตกรรม เจริญรุ่งเรือง กลับคิดว่าให้ไม่ได้ หรือจะให้สัญชาติคนง่ายๆ ได้ไง

คำ ผกา กล่าวอีกว่า ตนฟังที่นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด พูดตอนเป็นตัวแทนไปรับรางวัลของกลุ่ม “CARE คิด เคลื่อน ไทย” บก.ลายจุด สงสัยว่า ทำไมเด็กชาวเขารอบออฟฟิศที่เกิดในประเทศไทย แตไม่มีใครได้สัญชาติไทยเลย พอไปถามทางอำเภอบอกว่า เพราะเด็กเหล่านี้พ่อแม่ไม่ได้เป็นคนไทย อพยพมาจากที่อื่น แล้ว บก.ลายจุด บอกว่าพ่อแม่เขาก็โล้สำเภามาจากเมืองจีน ทำไมเราเกิดเมืองไทย แล้วได้สัญชาติไทยโดยอัตโนมัติ








Advertisement

คำ ผกา กล่าวต่อว่า ส่วนพ่อแม่เด็กชาวเขาพวกนี้ก็อพยพมา แล้วเด็กพวกนี้เกิดเมืองไทย เรียนหนังสือไทย อยู่ในระบบไทยทุกยอ่าง ทำไมไม่ได้สัญชาติไทย แล้ว บก.ลายจุด ก็ใช้เวลาหลายปีมาก ในการคุยกับนักกฎหมาย คุยกับ ส.ส. นักการเมือง กระทั่งรู้ว่ามันเป็นกฎหมายที่เขียนมาตั้งแต่ปี 2490 กว่าๆ แล้วพอปี 2540 กว่า มันยังไม่ได้แก้กฎหมายอันล้าหลังนี้

“ปรากฏว่าในสมัยรัฐบาลชวน หลีกภัย มีการออกกฎหมายออกมาแก้กฎหมายฉบับนี้ แล้วก็ปลดล็อกทำให้มีคนได้สัญชาติไทยเยอะมาก พอสมัยรัฐบาลทักษิณ รมต.มหาดไทยขณะนั้น คือ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ก็ปลดล็อกอีกรอบ มีคนได้สัญชาติไทย ประมาณ 7 แสนคน คนที่อยู่แบบไม่มีสัญชาติ และเป็นพลเมืองชั้น 2 มาตลอด ได้เป็นคนไทย ทำมาหากิน เป็นคนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เด็กมีอนาคต เข้ามหาวิทยาลัย สมัครงานได้ นี่เป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มาก”

คำ ผกา กล่าวอีกว่า เราควรจะเลิกคิดเรื่องแผ่นดินไทยห้ามใครมาเหยียบย่ำ โลกทุกวันนี้เป็นโลกที่เชื่อมต่อกันแบบโลกาภิวัฒน์ สิ่งที่เราควรคำนึง คือ ประเทศเราปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยหรือไม่ การบริหารงานของรัฐบาลโปร่งใสตรวจสอบได้ไหม เรามีช่องทางการตรวจสอบเรื่องการคอร์รัปชั่นได้มากน้อยแค่ไนห รัฐบาลสามารถบริหารประเทศ สร้างความมั่งคั่งให้กับเราในฐานะประชาชนคนไทยที่เสียภาษาให้กับประเทศมากน้อยแค่ไหน เขาดูแลสวัสดิการหรือการเกษียณเราดีไหม ทั้งเรื่องการศึกษา สาธารณสุข ระบบประกันสุขภาพ เราควรโฟกัสเรื่องพวกนี้ อย่าไปโฟกัสแค่เรื่องขายชาติ

คำ ผกา กล่าวต่อว่า ทั้งเรื่องวีซ่าพำนักในประเทศไทยหรือวีซ่าทำงานที่ทำได้ยาก ถือเป็นอุปสรรคต่อการค้าการลงทุนอย่างมหาศาล วันนี้ที่มีการบุกจับร้านทำผมที่ทองหล่อ แล้วหิ้วตัวช่างทำผมชาวเกาหลี 3 คน เพราะมีกฎหมายตกค้างสมัยจอมพล ป. ว่าอาชีพทำผมสงวนไว้ให้แค่คนไทยเท่านั้น แล้วตอนนี้ใครๆ ก็อยากดัดผมเกาหลี พอมีคนเกาหลีมาดัดผมให้ คุณก็จับเขา คุณต้องการอะไร

ด้านอั๋น ภูวนาท กล่าวเสริมว่า มันเป็นกฎหมายล้าหลังมาก ต้องปรับแล้ว ตนเห็นด้วยในเรื่องนี้ แล้วจริงๆ คนที่จะสามารถเข้าซื้อที่ดินหรือลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยได้ ต้องเป็นคนที่มีเงินมาพอสมควร ต้องเป็นคนคุณภาพที่เราอ้าแขนต้อนรับได้ตามสมควรแล้ว ดีกว่าคนที่หนีเข้าประเทศมา แต่ไม่ได้แปลว่าใครอยากได้ก็ได้ มันควรให้อย่างมีเงื่อนไขตามสมควร ตนไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะไม่ได้คิดว่าจะมีคนหลั่งไหลเข้าประเทศไทยจนเขาซื้อที่ดินหมดประเทศ คงไม่เกิดสิ่งนั้นขึ้น

คำ ผกา กล่าวว่า ข้อที่ 1 ประเทศเราไม่ได้มีใครอยากย้ายมาอยู่ขนาดนั้น ข้อ 2 สิ่งที่ควรเป็นห่วงคือ ความไม่โปร่งใสหรือสิ่งที่ตรวจสอบไม่ได้ เพราะอยู่ภายใต้รัฐบาลที่เราไม่สามารถตรวจสอบได้ ถ้าสิ่งเหล่านี้อยู่ภายใต้รัฐบาลที่ชัชชาติเป็นนายกฯ ทุกคนอาจจะมั่นใจว่ากฎหมายเหล่านี้คนไทยจะได้ประโยชน์สูงสุดแน่นอน และจะไม่มีใครนำไปใช้ในทางที่ผิด เรียกกินหัวคิว หรือเรียกเก็บใต้โต๊ะ มันเป็นเรื่องความคิดที่มีต่อผู้นำประเทศ หรือถ้าชัชชาติเป็น รมต.มหาดไทย แล้วประกาศเรื่องนั้นออกมา คนก็ต้องบอกว่าต้องดีแน่ๆ เลย

อั๋น ภูวนาท กล่าวเสริมว่า ตนมาฝรั่งเศส เจอคนไทยที่ย้ายมาอยู่ฝรั่งเศส แล้วทำงานจนได้สัญชาติฝรั่งเศสเยอะมาก ขณะเดียวกันพอมองย้อนกลับมาประเทศไทย ตนไม่รู้เหมือนกันว่าเราหวงอะไรของความเป็นไทย ทำไมเราจะไปต่างประเทศแต่ละครั้ง เราต้องวุ่นวายทำวีซ่าทั่วโลก เกือบจะไม่มีศักดิ์ศรีอะไรเลย ไปอเมริกาก็ไม่ได้ ออสเตรเลียก็ไม่ได้ ไปยุโรป หรืออังกฤษ ตนต้องจ่ายค่าทำวีซ่า 3 ปี จ่ายไป 1 แสนบาท

“ทำไมเราไม่พัฒนาเรื่องศักดิ์ศรีของพาสปอร์ตเราเลย แล้วเราภูมิใจกับสัญชาติไทยตรงไหนอยู่ ผมไม่ได้ไม่ภูมิใจในความเป็นไทย เรามีเรื่องน่าภูมิใจอยู่ แต่เราต้องอยู่กับความเป็นจริงกันว่าบางเรื่องเรายังไม่มีความน่าภูมิใจอยู่ในนั้น เราไม่ได้มีเกียรติมากพอด้วยซ้ำ” อั๋น ภูวนาท กล่าว

คำ ผกา ทิ้งท้ายว่า มีคอมเม้นต์น่าสนใจ คือ พึงระวังเรื่องการดันค่าอสังหาริมทรัพย์ที่สูงเกินจริง การถือครองไว้เกร็งกำไร เหมือนที่เกิดขึ้นในนิวยอร์คหรือไต้หวัน เราแสดงความกังวลอย่างนี้โอเค แต่ต้องไม่โฟกัสประเด็นขายชาติ ถ้าเขามาเกร็งกำไร เราจะทำอย่างไร ภาครัฐคิดหรือยัง ตนอยากจะให้แสดงความกังวลเรื่องนี้ ในแง่ของสถานการณ์เศรษฐกิจ การเกร็งกำไร ฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์ แต่ไม่ใช่เรื่องขายชาติ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน