บิ๊กตู่ลุกโต้อภิปราย ยันไทยไม่เป็นแบบศรีลังกาแน่ แจงตนมาตามระบบรัฐสภา ตามกติกา แจงไม่เคยมีใครเจอปัญหาแบบตน ไทยยังมีเสถียรภาพ
วันที่ 21 ก.ค.2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมลุกขึ้นชี้แจงว่า ที่มีผู้อภิปรายบอกตนมาได้อย่างไร ยืนยันมาตามระบบรัฐสภา กติกาว่าอย่างไรก็ว่าตามกติกา ตนไม่สามารถสั่งใครได้ สิ่งที่ตนฟังมาตั้งแต่วันแรกของการอภิปรายคือเศรษฐกิจพังพินาจ ยืนยันว่าไทยไม่ได้ป่วยรั้งท้ายของภูมิภาค ยืนยันว่าเราไม่เกิดเหตุการณ์แบบศรีลังกาแน่นอน
เรามีจีดีพีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองในสิบของอาเซียน ในปี 65-66 จีดีพี มีแนวโน้มโตขึ้น3.3 และ 4.3 ตามลำดับจากการคาดการณ์ของไอเอ็มเอฟ สอดคล้องกับการประเมินของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ส่วนการว่างงานก็ต่ำสุดในอาเซียน
ส่วนเรื่องงบประมาณ ที่บอกว่าตนไปขอนั้น ตนจำไม่ได้เพราะไม่รู้จักใครเลย สมัยตนเป็นเพียง ผบ.ทบ.ไม่ได้ขออะไรเป็นพิเศษ ไม่เคยขออะไรเป็นการส่วนตัวในเรื่องเหล่านี้ อีกทั้งเรายังเป็นที่น่าสนใจของนักลงทุนจากต่างประเทศ มียอดเงินลงทุนเพิ่มเติม
สำหรับการกำหนดทิศทางของรัฐบาลก็มีการให้เงินสนับสนุนอุตสาหกรรมใหม่ คาดจะได้ผลตอบแทนในระยะต่อไป ขณะที่สถิติการเปิดกิจการเดือนเม.ย.2565 เพิ่มขึ้นจากเดือน เม.ย. 2564 จำนวน 700 กว่าเปอร์เซ็น ถือเป็นการกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง ตนไม่ได้บอกทำทุกอย่างเรียบร้อยเก่งที่สุดไม่เคยพูด
การอภิปรายว่านายกฯ นำการท่องเที่ยวไปสู่ความล่มจม เมื่อมีโควิดห้ามเข้าห้ามออกคนไม่กล้าไปเที่ยว ตอนนี้ก็ฟื้นมาได้เยอะ และขณะนี้ตัวเลขนักท่องเที่ยวก็เริ่มกลับมาเพิ่มขึ้น ทราบว่ามีการจองมากขึ้น อย่างไรก็ตาม สถานการณ์โควิดทำให้เกิดอาฟเตอร์ช็อคทางเศษฐกิจ แต่ตนไม่ได้นิ่งนอนใจ อะไรทำให้ดีขึ้นได้ก็ทำ อะไรที่เสี่ยงก็ค่อยทยอยทำ แต่กว่าจะกลับมาตั้งหลักใหม่ได้ต้องใช้เวลาพอสมควร
เรื่องโควิดประเทศไทยใช้หลักการสาธารณสุขควบคู่ไปกับปากท้องให้เกิดความสมดุล ช่วยทำให้ยอดตายเราน้อยกว่าทุกประเทศ แต่ใครตายตนก็เสียใจเพราะทุกคนคือคนไทย ในห้องนี้คือคนไทยทุกคน จะไปทำร้ายหรือเกลียดได้อย่างไร จะผิดหรือถูกก็พร้อมรับฟังและนำมาแก้ไขให้ดีขึ้น ขณะนี้เราเครียดจากโควิดและเศษฐกิจมากพอแล้ว
ถ้ายังขัดแย้งกันอีกก็จะหนักกว่าโควิด ไม่อยากเป็นรัฐบาลที่มาแก้ปัญหาแบบนั้นอีกแล้ว รัฐบาลทำทุกวิถีทางในการกู้วิกฤติโควิด โดยใช้เงินกู้กว่า 8.5 แสนล้านบาทแก้ปัญหา ช่วยเหลือเยียวยาคนได้รับผลกระทบ โดยโอนเงินไปให้กลุ่มเป้าหมายกว่า 45 ล้านคน
ไม่มีรัฐบาลไหนเจอปัญหาเช่นตนเจอ ท่านเป็น ส.ส.มากี่ปี เคยเจอแบบนี้หรือไม่ ตนไม่อาจกล่าวว่าทำได้ดีที่สุด แต่ก็ทำงานเต็มที่มาโดยตลอด เพื่อประคับประคองประเทศให้ผ่านพ้นวิกฤติ ประเทศส่วนใหญ่จะกู้เงินมากในช่วงโควิด ประเทศเรายังมีเสถียรภาพ แม้จะต้องพึ่งพาพลังงาน และยังรอนักท่องเที่ยว
เราพร้อมรับมือทุกวิกฤติ เพียงแต่ต้องร่วมมือและสามัคคีกัน เรามีหนี้ในระดับต่ำ คงความน่าเชื่อถือการเงิน มีการเงินการคลังที่ดี มีเงินสำรองอยู่ในอันดับ 12 ของโลก เป็นประเทศผลิตอาหาร มีอาหารเพียงพอ ไม่อดตาย มีค่าครองชีพที่ค่อนข้างต่ำ มีที่ดิน ค่าที่อยู่อาศัยถูก หลายคนอยากมาเที่ยว มาพักผ่อน
ไม่ต้องกลัวเขาจะมาอยู่ประเทศไทย เพราะหลายคนก็อยากไปอยู่ต่างประเทศ คงพอดีกันมั้ง
