‘สุทิน’ อภิปรายสรุปมัดรวมความผิด “ประยุทธ์ – 10 รมต.” สับอวดตัวเลขมายา ย้อนแยงสภาพปากท้อง ปชช. หยันใช้หนี้มากเพราะอยู่นานกว่าเพื่อน

เวลา 19.40 น. เมื่อวันที่ 22 ก.ค.65 นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายสรุปว่า ล่าสุดผลโพลที่ทำคู่กับเรา โดยเป็นผลโหวตของทีวี 4 ช่องไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี 89% ไว้วางใจเพียง 11% สวนกับความเป็นจริง ขณะที่ทางโซเชียลก็ด่า ยังไม่นับรวมผลโหวตของกลุ่มราษฎร การอภิปรายครั้งนี้พิเศษ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ภาคประชาชนจะโหวตพร้อมเรา เป็นระบบสภาที่เปิดกว้าง ไม่ปิดหูปิดตาเหมือนช่วงรัฐบาลเผด็จการ

วันนี้ชาวบ้านบอกรัฐมนตรีตอบแล้วฟังยากทุกคน แม้รัฐมนตรีจะพูดเก่ง แต่เมื่อดูภาษากาย ดูอากัปกิริยา พยานแวดล้อม ดูประวัติความเป็นมา จะชี้ได้ว่าคนนั้นจะไว้วางใจได้หรือไม่ มีรัฐมนตรีหลายคนหนีไปตั้งหลัก แล้วอีกวันค่อยมาตอบ ถ้าเป็นศาลซักโจทก์ ซักพยาน อีกฝ่ายลุกลี้ลุกลน ศาลจะเชื่อว่าผิด ถ้าภาษาชาวบ้านเรียกหอบหัววิ่งก่อน ส่วนรัฐมนตรีอีกกลุ่มใช้ตัวช่วย พอจะจนมุม เอาเรื่องอื่นมากลบปิดปากไม่ให้ฝ่ายค้านพูดต่อได้ โดยเฉพาะเคสจำนำข้าว ใครที่ใช้มุขแบบนี้คือพวกจนมุม

ซัด ‘กัญชาเสรี’

นายสุทิน อภิปรายว่า สำหรับข้อกล่าวหาของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ที่ร่วมมือกับ พล.อ.ประยุทธ์ ผลิตนโยบายกัญชาเสรี เป็นกระดุมเม็ดแรกที่กลัดผิด ท่านละเมิดอนุสัญญาเดี่ยวยาเสพติดให้โทษปี 1961 ของยูเอ็น ทั้งที่เราไปเซ็นกับเขา ซึ่งกัญชายังเป็นเสพติดร้ายแรง เมื่อเราปลดล็อกเท่ากับเราละเมิดยูเอ็นซึ่งผิด รัฐมนตรีก็ตอบอ้อมแอ้ม เหมือนรับสารภาพ ที่บอกว่ามีความจำเป็นอะไรที่เราต้องทำเหมือนประเทศอื่น พูดแบบนี้เรียบร้อยเลย ยอมรับว่าละเมิดกติกาแต่กลับบอกไม่ละเมิด ที่ท่านบอกใช้กัญชาทางการแพทย์ก็ยังดึงดันโกหก

ส่วนที่ท่านบอกว่ากัญชาเสรีเป็นกัญชาทางการแพทย์นั้นผิดถนัด หากต้มกินหรือปรุงอาหาร ไม่ใช่ทางการแพทย์แน่นอน ขณะที่ พ.ร.บ.สาธารณสุขฯ บอกสูบได้เสพได้แต่ไม่ใช่ที่สาธารณะหรือห้ามขายให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ตำรวจจะจับยังต้องทำตาปริบๆ เมื่อสังคมคลางแคลงทำไมไม่เลื่อนประกาศกฎกระทรวงสาธารณสุขออกไปก่อน สังคมตั้งข้อสังเกตว่าหวังระบายสินค้าอะไรหรือไม่ เรื่องการควบคุม เซฟชีวิต ให้การศึกษาประชาชนก็ยังไม่ทำ ต่อให้ออกเป็นพระราชบัญญัติก็เอาไม่อยู่ นอจากนี้เอาบริษัทในตระกูลมาทำธุรกิจนี้ เป็นผลประโยชน์ทับซ้อน ท่านก็ไม่ตอบ

นายสุทิน อภิปรายต่อว่า ที่เราไว้วางใจไม่ได้เพราะกัญชาจะเต็มบ้านเต็มเมือง ลูกหลานจะอยู่อย่างไร เราไม่ได้ด้อยค่ากัญชา มีประโยชน์รักษาหลายโรค แต่ต้องไม่ละเลยพูดถึงโทษ ที่บอกมี 6 ต้นแล้วขายได้นั้นสุดท้ายขายไม่ได้ เท่ากับว่าท่านโกหก แล้วนายกฯ เอาอย่างไรในเมื่อขัดยูเอ็นไม่ได้ ท่านต้นทุนต่ำ เห็นใจแต่ก็สมน้ำหน้า คนคบน้อยแล้วยังไปทะเลาะกับยูเอ็นอีก

แล้วตามมาตรา 14 ใครละเมิดอนุสัญญาฯ จะถูกลงโทษทางเศรษฐกิจ ที่มีปัญหาวันนี้เจรจาค้าขายไม่ได้เพราะมีปัญหา ถ้า 194 ประเทศภาคีแซงก์ชั่น เราจะทำอย่างไร นายกฯ ก็ไม่ตอบบอกเอาไว้ก่อนคืออะไร รอท่านพ้นไปก่อนหรือ รอให้คนมาทีหลังมาแก้หรือ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงการอภิปรายนายอนุทิน นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ลุกขึ้นประท้วงและชี้แจงว่ากัญชาเสรีไม่ละเมิดยูเอ็น ขณะที่ฝ่ายค้าน อาทิ นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วง นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาคนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานว่าปล่อยให้นายศุภชัยลุกขึ้นพูดได้อย่างไร เป็นประธานฝ่ายกฎหมายสภาหรือ ไม่ใช่หน้าที่ ทำให้นายศุภชัยโต้กลับว่าขอให้นายวิสารใจเย็น ใช้คำพูดรุนแรงแบบนี้หรือส่งมีดให้สักเล่มดีไหม จากนั้นประธานที่ประชุมยืนยันว่าให้นายศุภชัยพูดได้ เพราะถูกพาดพิงและได้รับความเสียหาย

ขยี้นอมินี ‘ศักดิ์สยาม’

จากนั้น นายสุทิน อภิปรายต่อถึงนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ซึ่งโดนข้อกล่าวหาว่าใช้นอมินีคือ บ.บุรีเจริญฯ ซึ่งท่านยังเป็นเจ้าของอยู่ ซึ่งท่านบอกขายหุ้นไปแล้ว ไม่เกี่ยว แต่ท่านโอนหุ้นไม่จริง ยักย้ายถ่ายเทให้นอมินี ซึ่งบริษัทนี้รับงานกระทรวงคมนาคมหลายพันล้าน หากไม่ใช่บริษัทท่านก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเป็นบริษัทท่านเท่ากับซุกหุ้น ทับซ้อน พออีกวันท่านกลับมาตอบอีกว่าขายหุ้นจริง โดยเอาหนังสือรับรองจาก ธ.ธนชาติมายืนยัน

แต่คณะทำงานศึกษาแล้วมีพิรุธ ไม่น่าเชื่อถือ เพราะไม่มีหัวกระดาษแบงก์ ลายเซ็นเหมือนตัดแปะตกขอบ รายการโอนหุ้นทำไมโอนเงินก่อนซื้อขายหุ้น 5-6 เดือน เมื่อไปดูประกอบการชี้แจงทรัพย์สินกับ ป.ป.ช.และหลักฐานการเสียภาษี สรุปว่าไม่ได้ซื้อขายหุ้นจริง เอกสารไม่น่าเชื่อถือ เป็นเรื่องไม่จริง เท่ากับ บ.บุรีเจริญยังเป็นของท่าน เอามารับงาน มีผลประโยชน์ทับซ้อน ความเป็นรัฐมนตรีต้องหลุดแล้ว

ชี้ ‘สุชาติ’ เงินประกันสังคมปั่นหุ้น

นายสุทิน อภิปรายต่อถึง นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ที่มีข้อกล่าวหาใช้เงินกองทุนประกันสังคมไปซื้อหุ้นเอกชนรายหนึ่งแล้วปั่นหุ้น แล้วแจกให้บริษัทเล็กแล้วบริษัทเล็กวนกลับมาซื้อหุ้นบ้านนายสุชาติ รวมทั้งนำเข้าแรงงานต่างชาติ มีการเรียกรับเงิน ซึ่งท่านตอบว่าไม่รับทราบ ส่วนที่มีการเอาเงินกองทุนฯ ไปปั่นหุ้น ท่านตอบว่าไม่มีความรู้ ซึ่งคณะทำงานของเรายืนยันว่าไม่น่าเชื่อถือ

นายสุทิน อภิปรายว่า ส่วน นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย มีข้อกล่าวหามีส่วนรู้เห็นโครงการเดินสำรวจออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินในเกาะนุ้ยนอกและอีกหลายเกาะทางภาคใต้ ซึ่งเป็นที่หลวง ไม่อยู่ในเกณฑ์ออกเอกสารสิทธิ์ และคนที่ได้เอกสารสิทธิ์คือคนใกล้ชิดนายนิพนธ์ ซึ่งนายนิพนธ์ต้องไปทำอะไรสักอย่าง ถือเป็น สปก.ภาค 2 ดีๆ นี่เอง เหมือน สปก.4-01 ซึ่งนายนิพนธ์ตอบว่าไม่รู้จักคนพวกนี้ ซึ่งคณะทำงานลงมติว่ามองอย่างไรเป็นพวกเดียวกัน ใช้อำนาจเอื้อพวกพ้อง

ฉะ ‘ชัยวุฒิ’ ยาวเหยียด

นายสุทิน อภิปรายต่อว่า ส่วน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งโดนข้อกล่าวหาไร้ประสิทธิภาพ ไร้จริยธรรม ซึ่งภัยคุกคามใหม่ของคนไทยและทั่วโลกคืออาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ สร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจนับแสนล้านบาท วันนี้สถิติการแจ้งความภัยที่เกิดจากกลุ่มนี้ สูงเป็นอันดับสองรองจากยาเสพติด และกำลังจะแซงแล้ว คนในสภาฯ ก็โดนกันหมด ท่านก็ตอบยอมรับว่ามีกันทั่วโลก แล้วบอกว่าทำสุดความสามารถแล้ว แต่ภัยนี้ก็เกินมือท่านแสดงว่าท่านหมดความสามารถ

สิ่งที่ควรทำก็ไม่ทำแต่ที่ไม่ควรทำกลับทำ เช่น สอดแนมและปราบปรามเด็กหรือฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองมากกว่า นอกจากนี้มีพฤติกรรมตั้งเพื่อนคนสนิทมาเป็นที่ปรึกษา แถมรับงานศูนย์เศรษฐกิจดิจิทัลชุมชน 700 กว่าแห่ง จัดซื้อจัดจ้างเข้าทำนองฮั้ว รัฐมนตรียอมรับว่าเป็นเพื่อนจริง แต่เพื่อนท่านรับงานท่าน เท่ากับเอื้อประโยชน์พวกพ้อง

นอกจากนี้ยังขาดจริยธรรมยกย่องหญิงอื่นเสมือนภรรยา เข้าทำนองมีชู้ ท่านกลับบอกว่าพูดเรื่องต่ำ หากเรื่องนี้ไม่ควรพูด ก็ไปแก้กฎหมายประมวลจริยธรรม เลิกใช้ไปเลย และหากไม่มีคนทำเรื่องต่ำจะมีคนพูดเรื่องต่ำหรือ เรื่องนี้ผู้ชายหากทำแบบไม่ไว้หน้าไว้เกียรติภรรยา เท่ากับว่าเราไม่ละอายต่อบาป

ฟาด ‘จุรินทร์’ ปมถุงมือยาง

นายสุทิน อภิปรายว่า ส่วนนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ที่โดนข้อกล่าวหาเรื่องเดิมและต่อเนื่องเรื่องจัดซื้อถุงมือยางในองค์การคลังสินค้า (อคส.) โดยคนทุจริตเป็นเครือข่าย ซึ่งประธาน อคส.เป็นคนสนิทนายจุรินทร์ วงเงินแสนกว่าล้าน เบิกจ่ายไปแล้ว 2 พันกว่าล้าน สุดท้าย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ไปยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. และก็ฟันเปรี้ยงเพราะมีมูล สั่งจัดการประธาน อคส.ซึ่งเราต้องนำเงินที่เบิกไปแล้วกลับคืนมา

ซึ่งนายจุรินทร์น่าจะมีส่วนได้ด้วย แต่กลับมีการปกป้องลูกน้องโดยปล่อยให้ประธาน อคส.ทำงานจนครบวาระทั้งที่ถูกชี้มูล และเงิน 2 พันล้านที่โอนไปหลายทางเหมือนยักย้ายถ่ายเทหนี โดยไม่ยอมอายัดเงินคืน ทำรัฐเสียประโยชน์ ซึ่งนายจุรินทร์ตอบได้แต่มีพิรุธ ไม่ยอมตอบเรื่องเส้นทางการเงินเลย แต่ตอบว่าทำตามขั้นตอน เร่งไม่ได้ แต่เมื่อไปดูขั้นตอนของท่านมันคร่อมกับการยักย้ายถ่ายเทเงิน เหมือนแกล้งจับผิดจับถูก แล้วก็มาพูดวกเรื่องจำนำข้าว เป็นการหาตัวช่วย มีพิรุธ แสดงให้เห็นว่านายจุรินทร์ไม่สุจริตจริงตามที่เรากล่าวหา

อัด ‘จุติ’ โครงการบ้านการเคหะหลายแสนล้าน

นายสุทิน อภิปรายต่อว่า ส่วน นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่โดนข้อกล่าวหาไม่สุจริตในโครงการบ้านการเคหะหลายแสนล้าน มี บ.สุขประชาฯ และ บ.แซมโก้ (SAMCO) ที่รับงานประจำเยอะในการเคหะ ทั้งที่ไม่มีคุณสมบัติด้านนี้ ความสามารถไม่สูงแต่รับงานเยอะ โดยเฉพาะเรื่องการถมดิน 38 โครงการ ซึ่งวันแรกท่านเผ่น อีกวันกลับมาตอบว่าบริษัทนี้รับงานได้ เพราะเป็นบริษัทลูกในการเคหะฯ แต่การถมดินมีการซอยสัญญาทีละ 50 ล้านบาท บางที่ถมดินโดยไม่มีโครงการ ซึ่งท่านตอบแบบมีพิรุธ ทำให้เราไว้วางใจไม่ได้

‘สันติ’ ข้อกล่าวว่าทุจริตโครงการท่อส่งน้ำอีอีซี

นายสุทิน กล่าวว่า นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ถูกตั้งข้อกล่าวว่าทุจริตโครงการท่อส่งน้ำอีอีซี ซึ่งกำลังจะเป็นสุสานการลงทุนของรัฐบาล ที่มีกรมธนารักษ์เข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะในช่วงที่สัญญาของบ.อีสต์วอเตอร์ฯ กำลังจะหมดจะเป็นโอกาสทอง ที่พบพิรุธว่าพบสัญญาจะหมดก็ให้วิจัยศึกษา ว่าต่อไปนี้จะให้ใครเป็นคนทำต่อ และก็สร้างกติกาหาวิธีจัดซื้อจัดจ้างโดยไม่ต้อประมูล คัดไปคัดมาจนมาลงที่บ.วงษ์สยาม จำกัด ก็เลยกลายเป็นว่าการที่ทำมาแต่ต้นมีธงเอาวงษ์สยาม

นายสันติบอกว่าบริษัทวงษ์สยาม ให้ผลตอบแทนรัฐเยอะกว่า แต่ความจริงหากเปิดกว้างให้ประมูล รัฐอาจจะได้รับผลประโยชน์ถึง 3 หมื่นล้านบาท จึงเชื่อได้สนิทใจว่าไม่ชอบมาพากล นายกฯ ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ ถ้ายอมแบบนี้ก็สมประโยชน์แก่เขา นายสันติ จึงเป็นอีกคนที่เราไม่อาจไว้วางใจได้ แม้จะบอกว่ายังไม่เซ็นสัญญาก็ตาม เพราะเราทักเสียก่อน พฤติกรรมมันเตรียมการแล้ว

‘ประวิตร’ ทำหน้าที่ไร้ประสิทธิภาพ-ขาดความสามารถ

นายสุทิน กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ทำหน้าที่อย่างไร้ประสิทธิภาพ และขาดความสามารถ ที่ไม่สามารถแก้ปัญหายาเสพติดได้ พอส.ส. ถามก็บอกว่ารัฐบาลทำอยู่ และสถานการณ์ดีขึ้น แต่เมื่อดูข้อมูลการวิจัยที่จัดขึ้นโดยคณะนิติศาสตร์ มธ. 2565 ระบุว่าปริมาณยาเสพติดขยายตัวขึ้นอย่างน่าตกใจ ซ้ำยังขยายอายุเริ่มจากเยาวชนตั้งแต่ 10 ขวบขึ้นไป ถือเป็นข้อมูลที่น่าตกใจ และวันนี้ประเทศไทยเป็นอันดับหนึ่งของอาเซียน จนนักโทษในเรือนจำ 81% มาจากคดียาเสพติด กลายเป็นที่ 2 ในโลก รองจากสหรัฐอเมริกา ส่วนราคาก็ถูกลงมาถึง 20 บาทต่อเม็ด เรื่องนี้พล.อ.ประวิตร และพล.อ.ประยุทธ์ ต้องรับผิดชอบ เราจึงไม่ไว้วางใจ

หลายคนบอกว่าพล.อ.ประวิตร เป็นคนที่มีบารมีมาก เราจึงอยากให้พล.อ.ประวิตรใช้บารมีนักประสานสิบทิศช่วยแก้ปัญหาให้หน่อย ตอนนี้ทุกชุมชนมีลูกติดยา รีดขอเงินจากพ่อแม่ และต้องโทษระบบการบำบัดอ่อนแอ ที่ไม่สามารถทำให้เลิกยาเสพติดได้ พล.อ.ประวิตร ต้องเร่งแก้ปัญหา เพราะเกี่ยวกับความเป็นความตายของประชาชน ส่วนพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เกี่ยวข้องกับการทุจริตโครงการประปาปทุมธานี มูลค่าเป็นหมื่นล้านบาท ที่มีผลประโยชน์ไม่น้อยกว่าอีอีซี เมื่ออภิปรายแล้ว พล.อ.อนุพงษ์ ก็หยุดถือว่าประโยชน์เกิดจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

ซัด ‘ประยุทธ์’ เป็นหัว ผิดพลาดแบบไม่น่าให้อภัย

นายสุทิน กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ที่เป็นหัว มีความผิดพลาดแบบไม่น่าให้อภัย ทำให้ประเทศลำบาก เรื่องที่ผิดพลาดที่สุดคือ เรื่องเศรษฐกิจ ก่อนโควิด-19 จีดีพีตกต่ำไม่ไหวจะไปแล้ว พอโควิด-19 มาก็หนักกว่าเดิม ฝ่ายค้านก็เตือนว่า ต้องแก้โควิด-19 แบบรักษาสมดุล ทั้งสุขภาพ และเศรษฐกิจ วันนี้โควิด-19 กำลังจะหมดไป นายกฯ ต้องยอมรับ ว่าต่อให้โควิด-19 ไป ท่านก็ไม่ฟื้น เพราะมีความอื่นแอเดิม ทั้งที่ หลายประเทศฟื้นกันแล้ว แต่เราฟื้นช้ากว่าทีรอื่น

นายสุทิน อภิปรายว่า นายกฯ บอกว่าการลงทุนดี ขึ้นมา 2% ก็ถือว่าโอเค เพราะมาจากจุดต่ำสุด เป็นการโงหัวที่ก้นเหว ที่ยังสาหัสอยู่ ยังไม่สามารถพึ่งพาอาศัยได้ ส่วนที่นายกฯ บอกว่าชำระเงินกู้ได้มากที่สุด ดูก็น่าภูมิใจ แต่เมื่อดูหลักคิดจริงๆ พบว่าใช้หนี้เยอะเพราะอยู่นานกว่าเพื่อนจึงต้องใช้หนี้มากกว่าเพื่อน ตลอด 8 ปี ท่านสมัครใจ หรือคึกคะนองไปใช้หนี้หรือไม่ ก็ไม่ใช่ ที่ต้องใช้เพราะกฎหมายบังคับ แต่นายกฯ ก็กำปั้นทุบดิน ที่พูดแบบนี้ แย่กว่านั้นคือ ที่ใช้หนี้ๆ ก็กู้หนี้ใช้สิน เอาบัตรเครดิตของอีกธนาคารหนึ่งมาจ่ายให้อีกธนาคารหนึ่ง

ชาวบ้านบอกเราว่า ท่านอยู่เราตาย ท่านไปเรารอด เพราะวันนี้ค่าครองชีพสูงขึ้นทุกอย่าง ตัวเลขที่ท่านเอามาโชว์คือตัวเลขมายา เพราะชีวิตจริงชาวบ้าน คือเศรษฐกิจของจริง บ้านเรามีความเหลื่อมล้ำสูง จนจนแทบไม่มีแม้แต่บาทเดียว ชาวบ้านหนี้ท่วมหัวไม่มีจะกิน และต้องหนีหนี้นอกระบบหัวซุกหัวซุน ถ้าสินค้าเกษตรดีจริงไม่เป็นแบบนี้หรอก ไม่รู้จะบรรยายอย่างไรกับความยากลำบากที่เกิดขึ้นกับประชาชน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน