นายดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรคทวงคืนผืนป่าประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ขณะนี้ว่า บ้านเมืองเราวันนี้มีความคิดเห็นของนักการเมืองต่างๆมากมาย เพราะคสช.ใจดี น่าสังเกตว่ามีพรรคใหญ่ออกมาพูดจาอย่างน่าผิดสังเกต โดยเฉพาะเรื่องพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯกับนาฬิกาหรู ตนเห็นว่าเป็นเรื่องของขบวนการมุ่งล้มบุคคล เรื่องนาฬิกานั้นขอเปรียบเทียบให้เห็นว่า ในแวดวงคุณหญิงคุณนายมีการหยิบยืมตุ้มหูต่างๆเป็นเรื่องปกติ ในแวดวงข้าราชการมีการหยิบยืมรถราต่างๆมาใช้ รถเบนซ์รถดีๆยืมกันเป็นธรรมดา ตนเองก็ยืมรถเพื่อนมาขับ เวลาที่รถส่วนตัวเสียเป็นเรื่องธรรมดา

จึงเห็นว่าการหยิบยืมกันเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่เอามาตีเป็นประเด็นกันทำให้เกิดสับสน อ้างอิงมาตรฐานจรรยาบรรณสูงแต่ลืมดูตัวเองบางคน ยกตัวอย่าง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รู้สึกว่าจะรีบร้อนมากเกินไป ความจริงเรื่องการตรวจสอบ เป็นหน้าที่ของป.ป.ช. อีกทั้งตามคำชี้แจงก็ชัดว่าไม่ใช่คนให้มาหรือไปปล้นใครมา พล.อ.ประวิตรบอกว่าเป็นการยืม ยืมกันใช้เป็นปกติ

การให้กับการยืมนั้นไม่เหมือนกัน การให้นั้นมีการรับมอบเป็นสมบัติส่วนตัว อยากย้อนเหตุการณ์โด่งดังของนายอภิสิทธิ์ กับกรณีงาช้างที่บุรีรัมย์ มีคนให้งาช้างแล้วก็รับมาครอบครองแล้วถึงนำกลับไปคืน ลองไปดูกฎหมายป.ป.ช.ว่าความผิดสำเร็จแล้วหรือไม่ เรื่องงาช้างเป็นการรับของมาคนระดับนายกฯไม่รู้หรือว่างาช้างกิโลกรัมละกี่บาท คู่ละกี่แแสน แค่งาเทียมคู่ละเกือบหมื่นบาท แต่คราวนั้นเป็นงาช้างแท้มอบให้ต่อหน้าสาธารณชน อาจพูดได้ว่าไม่มีเจตนา แต่ในแง่กฎหมายทำอย่างนั้นไม่ได้

ตนจึงบอกว่าในเรื่องนาฬิกา นายอภิสิทธิ์รีบร้อนมากเกินไป ในแง่การเมืองคิดได้หลายแบบแล้วแต่มุมมองของแต่ละพรรคแตกต่างกันไป แต่หัวหน้าประชาธิปัตย์รีบร้อนมากไป สมัยที่นายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ ก็มีคดีร้องเรียนถึงป.ป.ช.มากมาย เรื่องแป้งมัน เรื่องโรงพัก ก็ไม่เห็นว่านายอภิสิทธิ์จะลาออก แล้วที่ให้สัมภาษณ์ถึงลูกพรรคลาออกก็เป็นการพูดเหมือนดูดีแต่พูดไม่หมด กรณีนั้นเป็นเรื่องทุจริตแต่เรื่องนาฬิกาเขาต่อสู้กันอยู่ว่าเรื่องยืมจึงยังต่างกันมาก

นายดำรงค์กล่าวว่า กรณีนี้ พล.อ.ประวิตร ทำเรื่องตอบป.ป.ช.ไปแล้ว ชี้แจงไปแล้ว เพียงแต่ป.ป.ช.ยังไม่สรุป ยังไม่เปิดออกมา ดังนั้นอย่าเพิ่งรีบร้อน ตนเองไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพล.อ.ประวิตรในวันนี้ แต่ในอดีตสมัยที่เป็นอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ ได้ทำงานร่วมกับพล.อ.ประวิตร ซึ่งเป็นประธานมูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ตนเองทำงานเรื่องป่า ได้อาศัยกำลังทหารมาช่วยปราบปรามปกป้องป่า เลยได้รู้จักกับพล.อ.ประวิตร เห็นในขณะนั้นว่าทำเพื่อประเทศชาติ รู้สึกชอบอกชอบใจกันในเรื่องปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ เห็นว่ามีความตั้งใจดี

แต่ขณะนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกัน เพียงแต่การเมืองวันนี้ตนอยากให้สงบ เพื่อจะได้เลือกตั้ง พรรคทวงคืนผืนป่าของตนนั้นไม่ได้รับการสนับสนุนจากพล.อ.ประวิตรแต่อย่างใด พรรคนี้เป็นพรรคเล็กทำเรื่องทรัพยากรธรรมชาติอย่างเดียว ทำในเรื่องที่รู้อย่างเดียว คงไม่มีใครสนใจมาสนับสนุน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน