ศาล มทบ.23 สอบพยานโจทก์ “ไผ่ ดาวดิน” นัดสุดท้าย 22 มี.ค. ขณะที่ทนายความตั้งทีมสู้ เบิกพยานฝ่ายจำเลย 4 ปาก ขึ้นให้การ เม.ย.นี้ ตามความผิดขัดคำสั่ง คสช. จากการจัดกิจกรรมต่อต้านรัฐประหาร

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 22 ม.ค.2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาล มทบ.23 อ.เมือง จ.ขอนแก่น ได้ทำการนัดสอบพยานฝ่ายโจทก์ นัดที่ 2 ในคดีขัดคำสั่ง คสช.ที่ 3/2558 โดยมีการเบิกตัว นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน จากทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่น มาทำการสืบพยานโจทก์ ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยห้ามไม่ให้สื่อมวลชนหรือผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ารับฟังการสอบพยานหรือเข้ามาในห้องพิจารณาคดีบนชั้น 2 ของ ศาล มทบ.23 แต่อย่างใด ขณะที่กำลังสารวัตรทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครอง ยังคงมีการวางกำลังโดยรอบศาล มทบ.23 เพื่อห้ามไม่ให้ผู้ที่มาให้กำลังใจหรือผู้ที่มาให้การสนับสนุนผู้ต้องหากระทำการใดๆโดยผิดกฎหมายภายในเขตอำนาจศาล

นายอานนท์ นำภา ทนายความ กล่าวว่า คดีความดังกล่าวนี้นั้นศาลได้นัดสอบพยานฝ่ายโจทก์นัดนี้เป็นครั้งที่ 2 โดยอัยการทหาร มทบ.23 ได้เบิก พ.ต.ท.นรวัฒน์ คำภิโล รอง ผกก.(สส.) สภ.เมืองขอนแก่น ขึ้นให้การตลอดทั้งวัน โดยมีทีมทนายความซักค้าน ตามข้อกล่าวหาที่ตั้งไว้คือขัดคำสั่ง คสช.ที่ 3/2558 จากเหตุการณ์การจัดกิจกรรม ครบรอบ 1 ปี รัฐประหาร ที่ บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยการนัดสอบพยานโจทก์ครั้งนี้แล้วเสร็จ ตุลาการทหาร จึงมีคำสั่งควบคุมนายจตุภัทร์ กลับไปคุมขังที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่นทันที

“ศาล มทบ.23 มีคำสั่ง นัดสอบพยานโจทก์ ปากสุดท้าย ตามที่อัยการทหารได้เบิกขึ้นให้การทั้งหมด 5 ปาก โดยพยานคนสุดท้ายคือพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ในฐานะเจ้าของคดี โดยนัดสอบปากคำในวันที่ 22 มี.ค.2561 ขณะที่ผู้ต้องหาที่ร่วมในคดีความดังกล่าวขณะนี้อยู่ในระหว่างการประกันตัวคือนายภาณุพงษ์ ศรีธนานุวัฒน์ หรือ ไนซ์ ดาวดิน ศาล มทบ.23 นัดสอบพยานนัดแรกในวันที่ 19 ก.พ.ที่จะถึงนี้ อย่างไรก็ดี ขณะนี้ผา ถูกจำคุกแล้วเกือบ 1 ปี ตามความผิดประมวลกฎหมายอาญา ม.112 และ พรบ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งคดีความดังกล่าวหากตัดสินมาอย่างไรก็จะมีการนับควบการคุมขังต่อไปซึ่งประเด็นดังกล่าวนี้ทนายความได้เสนอต่อศาล เนื่องจากเป็นคดีด้านความมั่นคง”

นายอานนท์ กล่าวต่ออีกว่า หลังเสร็จสิ้นการสอบพยานฝ่ายโจทก์ ในวันที่ 22 มี.ค.2561 จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนของการสอบพยานฝ่ายจำเลย โดยทีมทนายความที่รับผิดชอบคดีนี้จากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้แต่งตั้งทีมทนายความรับผิดชอบคดีดังกล่าวนี้ทั้งหมด 3 คน โดยมีตนเองเป็นหัวหน้าทีม โดยในการนัดสอบพยานฝ่ายจำเลยนั้นคาดว่าจะมีขึ้นในเดือน เม.ย. ซึ่งฝ่ายจำเลย ได้ขอเบิกพยานทั้งหมด 4 ปาก ซึ่งคาดว่าการนัดสอบพยานฝ่ายจำเลยนั้นจะสิ้นสุดในอีก 4 เดือนต่อจากนี้จากนั้นก็จะเข้าสู่การพิจารณาคดี ซึ่งคดีความนี้มั่นใจว่าจะสิ้นสุดและตัดสินภายในปี 2561

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ทันทีที่การสอบพยานฝ่ายโจทก์แล้วเสร็จ ตุลาการศาล มทบ.23 ได้มีคำสั่งให้ควบคุมตัวนายจตุภัทร์ เดินทางกลับทัณฑสถานบำบัดพิเศษ ทันที โดยในช่วงของการควบคุมตัวลงมาจากห้องพิจารณาคดีชั้น 2 เจ้าหน้าที่ สารวัตรทหาร มทบ.23 ได้ควบคุมตัวอย่างเข้มงวด พร้อมทั้งการสั่งห้ามการไลฟ์สดหรือการถ่ายทอดสัญญาณภาพภายในเขตอำนาจศาลแต่อย่างใด ซึ่งในระหว่างการเดินขึ้นรถบริเวณด้านหน้าของศาลฯนั้น นายวิบูลย์ และนางพริ้ม บุญภัทรรักษา พ่อและแม่ ของไผ่ ดาวดิน ได้เดินเข้ามาขอกอดลูกอีกครั้ง โดยทั้งทุกคนอยู่ในอาการที่ยิ้มแยมแจ่มใส โดยมีสาชิกกลุ่มดาวดิน และผู้ที่มาให้กำลังใจนั้นเดินเจข้ามาขอถ่ายรูปและเดินเข้ามาเพื่อสวมกอดไผ่อย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งถึงเวลาอันสมควรเจ้าหน้าที่จึงทำการควบคุมตัวผู้ต้องหาขึ้นรถ นำส่งทัณฑสถานบำบัดพิเศษต่อไป และในการนัดสอบพยานครั้งนี้จ่าศาล ได้นำประกาศคำสั่งของศาล มทบ.213 มาทำการติดตั้งในป้ายประกาศประชาสัมพันธ์ รวมทั้งประตูด้านหน้าทางเข้าศาลเกี่ยวกับความผิดฐานละเมิดคำสั่งศาล และความผิดฐานดูหมิ่นศาล เพื่อแจ้งเตือนให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือผู้ที่ฝ่าฝืนคำสั่งได้รับทราบและยึดถือปฎิบัติอย่างเคร่งครัด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน