เมื่อเวลา 16.35 น. นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ กล่าวว่า จากข้อมูลมีคำร้องของ 9 เเกนนำ กปปส. ที่เเจ้งความจำนงว่าจะมาฟังคำสั่ง ส่วนผู้ต้องหารายอื่นนั้นยังไม่มีการเเจ้งมาว่าจะมารายงานตัวเพื่อฟังคำสั่งหรือไม่ เเต่ทางอัยการนัดผู้ต้องหาทุกคนมาเพื่อฟังคำสั่งตามปกติ
เมื่อถามว่าหากผู้ต้องหาบางคนไม่ได้เดินทางมาฟังคำสั่ง อัยการจะดำเนินการอย่างไร นายวงศ์สกุล กล่าวว่า ถ้ามีเหตุอันสมควร เราจะพิจารณาตามเหตุผลของเเต่ละราย และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลหรือหนังสือว่าใครจะขอเลื่อนบ้าง

เมื่อถามว่าหากผู้ต้องหาบางคนไม่มีเหตุผลอันสมควร อัยการจะขอศาลออกหมายจับหรือไม่ นายวงศ์สกุล กล่าวว่า ถ้านัดเเรกไม่มา จะต้องพิจารณาเป็นรายๆไป เหมือนคดีอื่นทั่วไป การออกหมายจับเราต้องมีเหตุผลพิเศษ เช่น ไม่มาหลายครั้งหรือมีพฤติการณ์อย่างใดอย่างหนึ่งที่จะทำให้ออกหมายจับได้ เเม้คดีนี้จะเป็นคดีการเมืองที่โด่งดัง หลักการจะต้องพิจารณาเหมือนกันทุกคดี ไม่ว่าคดีการเมืองหรือไม่ใช่การเมือง เราต้องพิจารณาตามเหตุผลที่ไม่กระทบคดีเเละเสียความเป็นธรรม

เมื่อถามถึงการเตรียมคำฟ้อง อธิยดีอัยการคดีพิเศษกล่าวว่า เราอาจต้องใช้ระยะเวลาปรับฟ้อง เราทำฟ้องไว้ครอบคลุมทั้งหมดกับผู้ต้องหาที่เราคิดว่าเราจะมีคำสั่งฟ้อง เราจะเตรียมไว้สำหรับคนๆนั้นเเต่เมื่อมีผู้ต้องหามากี่คน เราก็ต้องปรับฟ้องให้เข้ากับสถานการณ์ ผู้ต้องหามีหลายคนความผิดหลายฐาน เราจึงต้องทำตามเหตุการณ์ตามหน้างาน

รายงานข่าวจากสำนักอัยการ แจ้งว่า ในวันนี้เวลา 10.00 น. อัยการได้ประชุมร่วมกับผู้แทนศาลอาญา , กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และเจ้าหน้าตำรวจพื้นที่ บก.น.2 ในการเตรียมความพร้อมดูแลความเรียบร้อย ขณะส่งตัวผู้ต้องหามาฟ้อง ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก รวมทั้งการประกันตัว ซึ่งอัยการให้เป็นดุลยพินิจของศาล พิจารณาสั่งประกัน ขณะที่มูลค่าหลักทรัพย์ยื่นประกันเป็นไปตามแนวทาง 4 แกนนำ กปปส. ที่อัยการเคยยื่นฟ้องศาลไปก่อนหน้านี้แล้ว ตีราคาประกันคนละ 600,000 บาท ทั้งนี้ อัยการได้นัดผู้ต้องหาทั้งหมดมารายงานตัว ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก ด้านข้างติดกับศาลอาญา ก่อนเพื่อแจ้งคำสั่งคดี ซึ่งใครมาก่อนก็จะสั่งฟ้องก่อน

คดีนี้มีผู้ต้องหา 58 ราย ขณะที่ชั้นสั่งคดีก่อนหน้านี้มีสั่งไม่ฟ้อง 1 ราย และอัยการยื่นฟ้องไปแล้ว 4 ราย เเละมี 7 รายในกลุ่มอดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อาทิ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ , นายทศพล เพ็งส้ม , นายสาธิต ปิตุเตชะ , นางนาถยา แดงบุหงา ที่แยกสำนวนพิจารณาเนื่องจากข้อหาเบากว่า ดังนั้น ในส่วนของคดีร่วมกบฏและสนับสนุนกบฏ จะมีผู้ต้องหาที่จะสั่งคดี 40 กว่าคน

แหล่งข่าวระดับสูงจากศาลอาญา กล่าวถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยของศาลอาญาว่า มีแผนรองรับไว้แล้ว โดยมวลชนที่จะมาให้กำลังใจ จะจัดพื้นที่หน้าศาลอาญา และศาลได้ประสานกับอัยการ , ตำรวจ , ทหารและดีเอสไอแล้ว ซึ่งตำรวจจะส่งกำลังพล 30 นาย , ทหาร 30 นายมาประจำการ ส่วนดีเอสไอยังไม่ทราบจำนวน นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศาลอาญาและสำนักงานอัยการสูงสุดอีกด้วย รวมแล้วคาดว่าจะมีกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 100 คน

รายงานข่าวจากแกนนำกปปส. แจ้งว่า นายสุเทพ และแกนนำ กปปส. 9 คน ได้เตรียมให้ทนายความจัดหาหลักทรัพย์ไว้เพื่อพร้อมยื่นประกันตัวแล้ว หากอัยการสั่งฟ้องศาลอาญา โดยจะจัดกรมธรรม์ประกันภัย รวมทั้งเงินสดสำรองไว้ด้วย ขณะที่แนวร่วม กปปส.กลุ่มต่างๆ ก็เตรียมพร้อมหลักทรัพย์ไว้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าผู้ต้องหากลุ่มนักวิชาการบางคน อาจจะขอเลื่อนนัด ไม่ได้มาพบอัยการ เนื่องจากติดภารกิจ

นายเอกณัฐ พร้อมพันธุ์” อดีตโฆษก กปปส. กล่าวว่า ตนจะเดินทางมาฟังคำสั่งตามที่อัยการนัดในเวลา 09.30 น. และได้เตรียมหลักฐานที่จะใช้ยื่นประกันตัวไว้แล้วด้วย








Advertisement

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน