เพื่อไทย วอล์กเอาต์ ไม่ร่วมสังฆกรรมพิจารณาร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ใช้สูตรคำนวณ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ หารด้วย500

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 10 ส.ค.2565 ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการประชุมร่วมรัฐสภา ครั้งที่ 13 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง มีวาระพิจารณาเรื่องที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาเสร็จแล้ว คือ ร่างพ.ร.บ.กำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม พ.ศ. …. และร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.(ฉบับที่ ..) พ.ศ. โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้สั่งแจ้งต่อที่ประชุมว่า ในวันนี้มีสมาชิกรัฐสภาลาพิเศษ 32 คน ลาเพราะติดเชื้อโควิด 4 คน และลาที่ไม่ได้เจ็บป่วย 28 คน

จากนั้น ที่ประชุมได้พิจารณาร่างพ.ร.บ.กำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม พ.ศ. จนเสร็จสิ้น ต่อมาเวลา 10.45 น. ก่อนการพิจารณาร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ต่อจากครั้งที่ผ่านมาซึ่งให้กมธ.กลับไปแก้ไขมาตราให้สอดคล้องกับสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ หารด้วย 500

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภา ได้เสนอญัตติให้มีการตรวจสอบองค์ประชุม เพราะร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. เป็นร่างที่มีความสำคัญต่อระบบรัฐสภาและประเทศ ซึ่งหลังจากรัฐสภามีมติเห็นชอบกับการแก้ไขเพิ่มเติมของกมธ. เสียงข้างน้อย ให้กลับมาเป็นระบบบัตร 2 ใบ หาร 500 ทำให้สมาชิกรัฐสภามีความเห็นแตกต่างกันมาก เป็นเหตุผลที่ก่อนการพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้ เรื่องขององค์ประชุม และความเห็น ของสมาชิกจะมีความสำคัญมาก จึงต้องตรวจสอบองค์ประชุมให้มีความชัดเจน

การใช้องค์ประชุมเพื่อไม่เป็นองค์ประชุม ถือเป็นสิทธิของเสียงข้างน้อย เพื่อยับยั้งการกระทำที่เห็นว่าไม่ชอบด้วยบทบัญญัติรัฐธรรมนูญทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสภา

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า การที่สมาชิกรัฐสภาจะเดินตามกระบวนการพิจารณาเมื่อถึงวาระ 3 ต้องใช้เสียงเห็นชอบเกินกึ่งหนึ่ง 364 เสียง ซึ่งมีแนวโน้มสูงมากที่เสียงข้างมากจะไม่ถึง 365 เสียง จะทำให้กฎหมายตกไปต้องไปเริ่มต้นกันใหม่ และเกรงว่าจะเกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญกลับไปสู่การเลือกตั้งแบบเดิมที่ทำลายระบบรัฐสภาแบบย่อยยับ หรือแม้ว่าสูตรหาร 500 จะผ่านวาระ 3 ไปได้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือประธานรัฐสภา จะส่งไปที่กกต. ให้มีการทักท้วง รวมถึงเชื่อว่าจะมีผู้ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าขัดหรือแย้งรัฐธรรมนูญหรือไม่ จึงขอให้มีการตรวจสอบองค์ประชุมให้ชัดเจน ว่าจะมีเสียงข้างมากรับรองการประชุมครั้งนี้หรือไม่

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยประกาศชัดว่าเราไม่ขอร่วมเป็นองค์ประชุม ไม่ร่วมสังฆกรรม เพราะการพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้จะไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยพรรคเพื่อไทยจะขอออกจากห้องประชุม

ขณะที่นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รองประธานวิปรัฐบาลจากพรรคประชาธิปัตย์ และนายชาดา ไทยเศรษฐ จากพรรคภูมิใจไทย ระบุว่า ทุกอย่างขอให้เป็นไปตามข้อบังคับ

จากนั้น นายชวน ได้ขอมติจากที่ประชุมว่าเห็นชอบ หรือไม่เห็นชอบที่จะดำเนินการตามญัตติที่มีการเสนอ ซึ่งนพ.ชลน่าน ได้คัดค้านการทำหน้าที่ของนายชวน โดยระบุว่าการเสนอญัตติเป็นสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ และข้อบังคับที่ตนจะเสนอ ไม่ใช่ญัตติที่ต้องมาขอความเห็นชอบจากที่ประชุมก่อน แต่นายชวน ยืนยันว่าต้องสอบถามจากที่ประชุมเสียก่อน เนื่องจากการเสนอญัตติเช็กองค์ประชุมเป็นแนวทางที่ไม่ปกติ เนื่องจากเป็นการเสนอก่อนที่ที่ประชุมจะเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม

ต่อมา ที่ประชุมลงมติไม่เห็นชอบที่จะดำเนินการตามญัตติของนพ.ชลน่าน ด้วยคะแนน 283 ต่อ 27 งดออกเสียง 36 ไม่ออกเสียง 28 เสียง ทำให้ส.ส.พรรคเพื่อไทย วอล์กเอาต์ออกจากห้องประชุมทันที จากนั้นที่ประชุมได้พิจารณาร่างพ.ร.ป.การเลือกตั้งในมาตราที่ค้างต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน