จำลองเหตุบุกอุ้มคนปราศรัยบนเวที รุ้งโผล่ร่วมฟัง ครูใหญ่เผยไม่ได้แพ้ แค่ยังไม่ชนะ ร่วมชูสามนิ้วเปล่งเสียง เผด็จการจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ

วันที่ 10 ส.ค.2565 ที่ลานพญานาค มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ร่วมกับเครือข่าย จัดกิจกรรม ‘10 สิงหา ประชาธิปไตยต้องไปต่อ’ โดยระหว่างการปราศัยมีการจำลองเหตุการณ์ชายชุดดำบุกขึ้นเวทีไปอุ้มผู้ปราศรัยลงมา พร้อมกับเสียงเพลงมาร์ชมธก.ด้วย

ทางนายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือ ครูใหญ่ เผยว่าการปราบปรามประชาชนด้วยความรุนแรง และการปิดปากด้วยกฎหมาย ยังเกิดขึ้นไม่รู้จบ และเราเองก็ไม่สามารถพูดสิ่งที่ควรจะพูดได้จบเสียที

การอุ้มเมื่อกี้เป็นเพียงการสาธิต แต่จริงๆ แล้ว มีหลายคนถูกตามไปถึงบ้าน จริงๆ แล้ว มีหลายคนถูกติดจีพีเอส มีคนจำนวนไม่น้อยที่ถูกใช้งบประมาณภาครัฐ ในการเจาะข้อมูล ด้วยพีกาซัส เหล่านี้คือสิ่งที่รัฐเผด็จการทำกับเรามาตลอด เราจะยอมอยู่ในภาวะเช่นนี้ต่อไปหรือไม่

สิทธิการประกันตัวนักกิจกรรมทางการเมือง ว่าขอให้เอาหลักฐานมาตบหน้า นายอานนท์ นำภา ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน ว่าพูดเท็จอย่างไร อยากให้เอาหลักฐาน มาตบหน้าอานนท์สักทีหนึ่ง ขอให้เปิดเผยข้อมูลกับประชาชน

อย่างน้อยเราต้องรู้ว่าเส้นชัยของเราจะอยู่ตรงไหน เราชนะหลายอย่าง เพราะคนเห็นด้วยกับเรามากขึ้น หน้าที่ของเราทุกคนคือ ต้องทำให้คนเห็นด้วยกับเราเพิ่มขึ้น มีหลายอย่างที่เรายังไม่ชนะ เราไม่ได้แพ้ แค่ยังไม่ชนะ ขอแค่ชนะครั้งเดียวเราจะชนะตลอดไป

อยากให้พรรคฝ่ายประชาธิปไตย เงี่ยหูฟัง สิ่งหนึ่งที่สำคัญ พรรคการเมืองประชาธิไตย ต้องยอมรับข้อเรียกร้องของยุคสมัย ไม่มีสิทธิที่จะขี่ม้าเลียบค่าย พูดอะไรอ้อมๆ แล้วได้คะแนนเสียจากประชาชนอีกต่อไป ทั้งนี้นายอรรถพล และผู้ชุมนุม ร่วม ชู 3 นิ้ว ก่อนเปล่งเสียง “เผด็จการจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ”

ทั้งนี้ระหว่างการปราศรัย ทางน.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง แกนนำราษฎร ได้เข้าไปนั่งปูเสื่อนั่งฟังปราศรัย พร้อมถือลูกโป่งรูปเป็ดสีเหลือง พร้อมชู 3นิ้วด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน