เสรีพิศุทธ์ ให้ถ้อยคำ กกต. ปมแจกกล้วยพรรคเล็ก เชื่อส่งศาลรธน.ยุบ 7 พรรค พ่วงตัดสิทธิ ‘บิ๊กป้อม-ธรรมนัส-กก.บห.พรรคเล็ก’ สมชัย จี้กกต.เร่งสรุป ก่อนเลือกตั้ง
เมื่อวันที่ 13 ก.ย.2565 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวภายหลังเข้าให้ถ้อยคำคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนของกกต. กรณี 6 พรรคเล็กรับเงินจากพรรคใหญ่ เพื่อแลกกับการโหวตสนับสนุนในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งมีโทษถึงขั้นยุบพรรคว่า ให้รายละเอียดเพิ่มเติมจากคำร้องที่ยื่นมาก่อนหน้านี้คือ พรรคเล็กยินยอมให้พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เข้าครอบงำ ถือว่าเป็นความผิดทั้ง 2 ฝ่าย
โดยมีการจ่ายเป็นรายเดือน หลักฐานมีครบทั้งการโอนเงิน เลขบัญชี มีการเซ็นรับ และมีคลิปเสียงผู้ที่รับเงินก็ให้การยอมรับ โชคดีที่เจ้าหน้าที่สอบสวนเป็นตำรวจเก่า ทำให้การให้ถ้อยคำเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
“ส.ส.พรรคเล็กพวกนี้ วันๆ ไม่ทำงาน 6-7 คนที่มีชื่อรับเงิน ไม่เคยเห็นอภิปรายในสภาเลย จะมาปฏิเสธว่าเขาจ่ายเงินเพื่อให้ลงไปดูแลพื้นที่ ไม่ได้เป็นส.ส.เขตจะมีพื้นที่ให้ดูแลได้อย่างไร และการรับเงินไม่ต้องเป็นแสน แค่เกิน 3,000 บาทก็ผิดแล้ว ซึ่งเรื่องนี้พรรคได้ยื่นเรื่องกับป.ป.ชไปแล้ว” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวอีกว่า การจ่ายเงินพรรคเล็กเกิดขึ้นที่มูลนิธิป่ารอยต่อ ดังนั้น เป็นไปไม่ได้ที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาการนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะไม่รู้เห็น ทั้งนี้ มั่นใจในคณะกรรมการสอบสวน และกกต. และเชื่อว่า กกต.จะส่งเรื่องนี้ไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ให้พิจารณายุบ 6 พรรคเล็ก และ 1 พรรคใหญ่ รวมทั้งตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารพรรค ซึ่งในจำนวนนั้นมี พล.อ.ประวิตร และร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคในขณะนั้น
ด้านนายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า วันนี้เป็นการเรียกผู้ร้องทั้ง 2 รายคือ นายศรีสุวรรณ จรรยา และพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เท่าที่ดูบรรยากาศการพูดคุย พนักงานสอบสวนค่อนข้างมีรายละเอียดต่างๆ พอสมควร ทั้งสำนวนการร้อง และหลักฐานต่างๆ ถือว่ามีข้อมูลเพียงพอจะดำเนินการต่อ ซึ่งต้องเรียกผู้ถูกร้องมาให้ปากคำด้วย
“อยากบอก กกต.ว่าควรสรุปเรื่องดังกล่าว หากผิดก็ควรส่งศาลรัฐธรรมนูญก่อนมีการเลือกตั้ง อย่ารอให้เลือกตั้งเสร็จและมีผลการเลือกตั้งออกมาแล้วจึงส่งศาลรัฐธรรมนูญ ไม่เช่นนั้น กกต.จะถูกกล่าวหาว่าช่วยบางพรรคให้ลงสมัครรับเลือกตั้งได้ นี่คือบทเรียนที่ กกต.ในอดีตเคยมีปัญหาแล้ว และเป็นคดีความทางอาญา ทำให้ กกต.โดนลงโทษ ดังนั้น ขณะนี้ยังมีเวลาเพียงพอ กกต.ต้องรีบสรุปเรื่องโดยเร็วและส่งศาล หากพบว่าเป็นความผิด” นายสมชัย กล่าว
นายสมชัย กล่าวว่า คำร้องของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มีทั้งหมด 7 พรรค เป็นพรรคเล็ก 6 พรรค หากทำความผิด ก็ยังเป็นคดีติดตัวไม่ว่าจะย้ายไปอยู่พรรคไหน ซึ่งจะมีผลในการเพิกถอนสิทธิทางการเมือง ส่วนพรรคใหญ่ ถือเป็นพรรคที่มีบทบาทในการเลือกตั้งครั้งต่อไปหรือจัดตั้งรัฐบาล ดังนั้น เพื่อให้ทุกอย่างโปร่งใส ถูกต้อง กกต.ต้องส่งศาลก่อนมีการเลือกตั้งครั้งต่อไป
Advertisement
