‘ชูวิทย์’ร่ายยาว มหากาพย์ ทุจริตสร้างโรงพัก ใช้เวลา10 ปี ถึงจะมีการตัดสิน

เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2565 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักประเทศไทย แถลงข่าวกรณี ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง จะนัดอ่านคำพิพากษา คดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ยื่นฟ้อง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรีกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ในคดีทุจริตสร้าง 396 โรงพัก รวมมูลค่าความเสียหาย 5,848 ล้านบาท เหตุเกิดเมื่อปี 2552 สมัย พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในวันที่ 20 ก.ย.นี้ พร้อมนำชาร์ต ที่ใช้อภิปรายในรัฐสภา เมื่อปี 2555 มาประกอบการแถลงข่าวด้วยว่า อ่านข่าว : สุเทพ พบศาล คดีฮั้วประมูลสร้างโรงพัก ชี้คดีทุจริตน่าอับอาย ขอพิสูจน์ความจริง

มหากาพย์ทุจริตสร้างโรงพักใช้เวลาถึง 10 ปี จึงจะมีการตัดสินคดี นาฬิกาประเทศไทยเดินช้ากว่าประเทศอื่นในเรื่องของการปราบปรามการทุจริต เพราะว่าในประเทศที่พัฒนาแล้วการทำคดีทุจริตต่อภาครัฐนั้น จะดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อนำคนผิดมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด แต่สำหรับประเทศไทย นำการเมืองเข้ามาพัวพันมากเกินไป ทำให้การตรวจสอบทำคดีทุจริตเป็นไปอย่างล่าช้า

อีกทั้งสำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งถือเป็นทนายแผ่นดิน ก็ยังไม่สั่งฟ้องผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ ป.ป.ช. ต้องเป็นผู้ฟ้องเอง ถ้ายังเป็นเช่นนี้ต่อไป อย่าหวังเลยว่าประเทศไทยจะพัฒนาไปกว่านี้ได้ นโยบายการปราบปรามคอรัปชั่นที่รัฐบาลเคยบอกว่าจะทำอย่างจริงจัง ก็ไม่มีวันที่จะทำได้ เพราะการทุจริตสร้างโรงพักไม่ได้มีความซับซ้อนอะไรเลย แต่ยังใช้เวลาล่วงเลยได้นานถึงเพียงนี้

ส่วนความคาดหวังของผลการพิพากษาในคดีนี้นั้น นายชูวิทย์บอกว่าไม่ได้ คาดหวัง อะไรจะเกิดก็เกิด ไม่สามารถไปก้าวล่วงคำพิพากษาของศาลได้

สำหรับการทุจริตครั้งนี้ เรื่องแดงก็เพราะ เมื่อปี 2555 นายชูวิทย์ซึ่งเป็น ส.ส.ในขณะนั้น ได้อภิปรายถึงความไม่ชอบมาพากลของโครงการนี้ต่อรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จนนำไปสู่ดำเนินการส่งเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ รวบรวมพยานหลักฐาน และเสนอ ป.ป.ช. ดำเนินการสอบสวนในที่สุด

ต่อมา เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2562 ป.ป.ช.แถลงมติชี้มูลความผิดโครงการ 396 โรงพัก นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. แถลงว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเอกฉันท์ชี้มูลความผิดนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กรณีทุจริตโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจ หรือโรงพักทดแทน 396 แห่ง มีมูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ส่วน พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ อดีตรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีมูลความผิดอาญา ม.157 และมีมูลความผิดวินัย

ขณะเดียวกันชี้มูลความผิดตำรวจในคณะกรรมการประกวดราคาทั้งทางอาญาและทางวินัย พล.ต.ต.สัจจะ คชหิรัญ และ พ.ต.ท.สุริยา แจ้งสุวรรณ์ มีมูลความผิดทางอาญา ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของ รัฐ พ.ศ. 2552 และตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และมีมูล ความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง








Advertisement

พ.ต.อ.จิรวุฒิ จันทร์เพ็ญ , พ.ต.อ.สุทธี โสตถิทัต , พ.ต.อ.พิชัย พิมลสินธุ์ , พ.ต.อ.ณัฐเดช พงศ์วรินทร์ และพ.ต.อ.ณัฐชัย บุญทวี มีมูลความผิด ทางวินัยอย่างไม่ร้ายแรง

ขณะที่ชี้มูลความผิดบริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด บริษัทรับเหมา ฐานสนับสนุนการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่รัฐ

ส่วน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ , พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว อดีต ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ธีรยุทธ กิติวัฒน์ และพล.ต.ท.สุพร พันธุ์เสือ อดีตผู้บัญชาการสำนักงานส่งกำลังบำรุง ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป

คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังมีมติเอกฉันท์ชี้มูลความผิดนายสุเทพ เทือกสุบรรณ กรณีการอนุมัติโครงการก่อสร้างแฟลตที่พักข้าราชการตำรวจ 163 แห่ง ซึ่งถือเป็นกรรมเดียวกับกรณีสร้างโรงพัก ส่วนคณะกรรมการประกวดราคามีมูลความผิดทางอาญาและทางวินัยร้ายแรง อ่านข่าว : ลุ้นชี้ชะตา “สุเทพ” พวก คดีฮั้วประมูลสร้างโรงพักทดเเทน 396 หลัง ทนายเผย เจ้าตัวมั่นใจ

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน