‘บิ๊กป้อม’ ห่วงประชาชนได้รับผลกระทบจากสารเคมีรั่วไหล กำชับหน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหา สั่ง สาธารณสุข ให้คำแนะนำ-แนวปฏิบัติแก่ประชาชน

เมื่อเวลา 12.15 น. วันที่ 22 ก.ย. 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาการนายกฯ กล่าวกรณีเหตุสารเคมีรั่วไหลจากโรงงานในพื้นที่ ต.ขุนแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ว่า ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและท้องที่กำลังเร่งดำเนินการแก้ปัญหาอยู่

ด้าน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร ห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุสารเคมีรั่วไหลดังกล่าว เนื่องจากกลิ่นสารเคมีได้กระจายในวงกว้าง ทั้งในพื้นที่และรอยต่อกรุงเทพฯ โดยขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการตรวจสอบประเภทสารเคมี อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นขอให้ประชาชนปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของทางการ คือ หลีกเลี่ยงการออกนอกอาคาร ไม่อยู่ในที่โล่งแจ้ง สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เพื่อป้องกันระบบทางเดินหายใจ

น.ส.ไตรศุลี กล่าวต่อว่า เนื่องจากโรงงานนี้เป็นโรงงานประเภทฟอกย้อม มีคอปเปอร์ซัลเฟตหรือสารประกอบที่มีผลทำให้ระคายเคืองระบบทางเดินหายใจ หรือหากมีการรวมตัวกับน้ำเกิดเป็นกรด และหายใจไอกรดเข้าไปจะเป็นอันตรายเช่นกัน ทั้งนี้ หากประชาชนมีอาการผิดปกติทางร่างกายควรรีบพบแพทย์เพื่อประเมินอาการ

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร ได้กำชับให้หน่วยงานเกี่ยวข้อง ทั้งกรมควบคุมมลพิษ กรมโรงงานอุตสาหกรรม ประสานงานกับผู้ประกอบการ และหน่วยงานท้องถิ่นในการดูแลแก้ไขปัญหาให้เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว และให้ตรวจสอบอย่างเข้มงวดว่า เหตุที่เกิดขึ้นดังกล่าวมาจากข้อบกพร่องของระบบหรือของผู้ปฏิบัติงาน โดยให้ดำเนินการตามข้อกฎหมายอย่างเคร่งครัด

เนื่องจากการประกอบการของโรงงานจะต้องมีความเข้มงวด ป้องกันผลกระทบในวงกว้างต่อประชาชน นอกจากนี้ ขอให้หน่วยงานด้านสาธารณสุขออกคำแนะนำ ทั้งข้อปฏิบัติ วิธีการรักษากรณีเกิดอาการผิดปกติทางร่างกายขึ้น

“กรมควบคุมมลพิษรายงานในเบื้องต้นว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเหตุรั่วไหลของน้ำมันถ่ายเทความร้อน โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 06.15 น. ทางผู้ประกอบการได้แก้ไขแล้ว แต่กลิ่นส่งผลกระทบในวงกว้าง ซึ่งกรมควบคุมมลพิษได้ส่งข้อมูลเกี่ยวกับน้ำมันถ่ายเทความร้อนให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยสารเคมีที่เข้าพื้นที่รับทราบแล้ว หลังจากนี้จะมีการแจ้งผลการตรวจสอบให้ทราบต่อไป” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน