ก้าวไกล จ่อ ทำความเข้าใจว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. หลังกกต.ออกกฎเหล็กคุมเข้ม 180 วัน ก่อนเลือกตั้ง จี้ ทบทวนทำกติกาให้แฟร์เกมทุกฝ่าย ไม่ใช่รมต.-พรรคร่วมทำได้
เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2565 นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศหลักเกณฑ์ 180 วัน ก่อนสภาครบวาระ ให้ส.ส.และพรรคการเมืองเป็นแนวทางปฏิบัติ ว่า ขณะนี้พรรคได้กำชับ อบรม และเน้นย้ำทีมงานพรรค ทีมงานจังหวัด เครือข่าย และส.ส.ของพรรค เพื่อให้ทราบว่าแนวทางการปฏิบัติควรจะเป็นเช่นไร แต่สัปดาห์หน้าจะอบรมว่าที่ผู้สมัครส.ส. ว่าอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ ซึ่งบางครั้งก็เป็นเรื่องละเอียดอ่อน และต้องใช้ดุลพินิจในการตีความ
นายธีรัจชัย กล่าวต่อว่า เรื่องนี้กกต.ควรจะระวังกติกาให้เป็นธรรม ไม่ควรให้สถานะไม่เท่ากัน คือ คนที่เป็นรัฐมนตรีหรือพรรคร่วมรัฐบาลมีความได้เปรียบ มีงบประมาณของรัฐ จะใช้เป็นนโยบาย หรือมีกลไกของข้าราชการที่ช่วยเหลือ มีหน่วยงานของรัฐที่ตนเองกำกับดูแลหรือบังคับบัญชาอยู่
นายธีรัจชัย กล่าวต่อว่า โดยปกติแล้วการเลือกตั้งหากเราให้สิทธิของคนที่เป็นรัฐบาล หรือหากออกกติกาที่เกี่ยวกับพรรคการเมือง ส.ส. หรือว่าที่ผู้สมัครส.ส.อย่างเดียว ไม่ให้ฝ่ายที่กุมอำนาจรัฐต้องระมัดระวัง หรือมีข้อจำกัดอะไรบ้าง เขาก็จะใช้กลไกเช่นนี้เอาเปรียบในการเลือกตั้งได้มาก ตนเชื่อว่าจะไม่ทำให้การเลือกตั้งสุจริตเที่ยงธรรม อยากให้กกต.ลองทบทวนส่วนนี้
เมื่อถามกรณีการลงพื้นที่ต่างจังหวัดของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรักษาการนายกฯ ซึ่งมีตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายธีรัจชัย กล่าวว่า ตนมองว่าเป็นการเอาเปรียบ หากจะให้แฟร์เกม ยุติธรรมจริงๆ ต้องไม่เอาพรรคไปพ่วง
“สิ่งสำคัญที่กกต.ต้องกำหนด ในฐานะองค์กรกลางที่ต้องควบคุมกติกา เพื่อให้เกิดความเที่ยงธรรม และหากไม่ทำก็น่าเสียดาย คือ การทำให้ผู้แข่งขันในสนามไม่ได้เปรียบในการแข่งขัน เช่น ในช่วงเวลาก่อน 6 เดือน ที่ห้ามพรรคการเมือง แต่ไม่ได้ห้ามคนที่มีอำนาจรัฐ ซึ่งกติกาเหล่านี้ไม่ได้ทำให้การเลือกตั้งที่พึงจะมีในโลกเสรีประชาธิปไตย” นายธีรัจชัย กล่าว
