“ดร.ยุ้ย เกษรา” ขอทำหน้าที่เพื่อคนกรุงเทพฯให้ดีที่สุด ยังไม่ตัดสินใจเล่นการเมืองสนามใหญ่ แม้มีคนมาทาบทาม ยอมรับถือเป็นเรื่องท้าทาย

วันที่ 7 ต.ค.65 ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ ประธานที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์และงบประมาณ ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์ถึงการทำงานในช่วงที่ผ่านมาว่า ถือเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ที่ไม่เคยได้ทำ เราก็พยายามเข้ามาบริหารจัดการปัญหาให้กับคนกทม. ซึ่งถือว่าเป็นอีกชุดบริหารที่เป็นความคาดหวังของคนกทม. โดยที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. บอกมาตลอดว่า คนเลือกตามนโยบายที่เราพูด หน้าที่เรา ก็คือต้องทำตามนโยบายที่เราบอก เราก็ทำตามนั้น เพราะหากเปลี่ยน กทม.ได้ก็เรียกว่าเปลี่ยนได้เกือบทั้งประเทศแล้ว

ดร.เกษรา กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยเป็นกรรมาธิการ (กมธ.) เกี่ยวกับการเงิน การคลัง เท่าที่เคยสัมผัสลักษณะงานของส.ส. มักจะเป็นงานนโยบาย ที่เกี่ยวข้องกับการออกกฎหมาย แต่งานของ กทม.เป็นงานปฏิบัติ ซี่งใกล้ตัวกว่า เพราะเป็นงานเชิงพื้นที่ ที่ต้องแก้ปัญหาด้วยต้นเหตุ แต่สิ่งที่แตกต่างในมุมมองของตน คือ ส.ส.น่าจะสามารถเข้าไปจัดการปัญหาได้รวดเร็วกว่า

เมื่อถามถึงถึงมุมมองในระยะต่อไป หากหมดวาระของผู้ว่าฯกทม.ชุดนี้แล้ว อนาคตสนใจเล่นการเมืองหรือไม่ ดร.เกษรา กล่าวว่า ถ้าถามว่าสนใจภาพที่ใหญ่กว่าตัวเองหรือไม่ ก็สนใจ แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่า ตนมีความสามารถพอจะเป็นนักการเมืองหรือไม่ เพราะการตัดสินใจเข้าสู่การเมือง เราก็คงไม่สามารถตัดสินใจเพียงคนเดียวได้ จะต้องรับฟังความคิดเห็นของคนรอบข้างด้วย เพราะเท่าที่ผ่านมาคนรอบข้างตนยังไม่ค่อยมีใครสนับสนุนในเส้นทางนี้เลยสักคน การเข้ามาเล่นการเมืองคนก็จะมองว่าเปลืองตัว หาเรื่องเจ็บตัว ทำให้คนไม่กล้าตัดสินใจเข้าไป

“คนในวงการการเมืองก็ไม่ได้แตกต่างจากวงการอื่น เพราะมีทั้งคนดี คนไม่ดี เป็นเรื่องธรรมดา แต่ตนมองว่า การเมืองเหมือนกับอุตสาหกรรมหนึ่ง คล้ายวงการเซเลบลิตี้ ที่มีเหตุผลในการคงอยู่ของเขา อยู่ที่คนรัก คนชอบ นักการเมืองก็เหมือนกัน ถ้าคะแนนไม่มากพอก็เป็นส.ส.ไม่ได้ เขาอยู่ได้ด้วยทุนจากความรัก ก็ต้องทำคาแร็คเตอร์ในสิ่งที่ทำให้คนเขาชอบเรา ให้คนจดจำหรือชอบให้ได้” ดร.เกษรา กล่าว

ดร.เกษรา กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการเข้าสนามการเมืองระดับประเทศ ตนยังไม่ได้คิดเรื่องนี้ แต่ยอมรับว่ามีคนมาชักชวน ตนมองว่าทุกพรรคการเมืองมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน แต่ในความเห็นส่วนตัว มีอุดมการณ์ในการทำงาน เรื่องโปรทุนนิยม โปรกลไกตลาด เราต้องเชื่อว่าตรงไหนกลไกตลาดทำงานได้ ให้กลไกตลาดทำงานไป รัฐมีหน้าที่ต้องโอบอุ้มสิ่งที่กลไกตลาดที่ทำงานไม่ได้ ตนก็ไม่มั่นใจว่า มีพรรคการเมืองไหนที่มีแนวคิดเรื่องเหล่านี้หรือไม่ เพราะยังไม่ได้ศึกษาอย่างลึกซึ้ง เนื่องจากวันนี้ยังมีหน้าที่อยู่ในกทม. ก็อยากที่จะทำหน้าที่ในส่วนที่เรารับผิดชอบเพื่อคนกทม.ให้ดีที่สุดก่อน

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน