ผบ.ทบ. เข้มงวดกำลังพลในกองทัพใช้งานปืน ยัน ไม่มีปืนเถื่อน ชี้ ถ้าตรวจพบลงโทษหนัก เผย ส่งแพทย์เช็กสภาพจิตทหาร ดูแลใกล้ชิด ย้ำลุยปราบยาบ้าเต็มที่
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 12 ต.ค. 2565 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบ (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงนโยบายการควบคุมอาวุธปืน ว่า การปฏิบัติราชการสนามจะใช้ปืนหลวง ไม่สามารถนำมาใช้ในสาธารณะได้อยู่แล้ว เมื่อสิ้นสุดการปฏิบัติหน้าที่ก็ต้องเข้าคลัง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ดูแลอยู่ สำหรับปืนส่วนตัวที่ซื้อมาถูกกฎหมายเพื่อใช้ป้องกันทรัพย์สิน ในส่วนนี้ทางหน่วยทหารได้สำรวจและควบคุมไว้แล้ว ว่าใครที่มีอยู่บ้างและถูกกฎหมาย ซึ่งจะมีหมายเลขปืนชัดเจน เราก็จะควบคุมการใช้ในกรอบกฎหมาย
“ในสถานการณ์ปัจจุบันที่เกิดเหตุรุนแรงนั้น ทางกองทัพบกได้ประชุมหารือกับคณะทำงาน เพื่อดูว่าคนไหน มีปัญหาภายในหรือเปล่า โดยหน่วยต้องรู้ว่าเขามีปัญหาภายใน ปัญหาส่วนตัวหรือไม่ และผู้บังคับบัญชาต้องดูแลใกล้ชิด รวมถึงกรมแพทย์ทหารบกก็ไปช่วยเรื่องตรวจสุขภาพจิตด้วย ถ้ามีปัญหาทางจิตเราก็ต้องควบคุม ดูแลใกล้ชิด และพาไปรักษาบำบัด ผู้บังคับบัญชาต้องระมัดระวัง และมีคนคอยตรวจสอบ ” พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าว
เมื่อถามกรณีนโยบายให้ผู้ครอบครองปืนเถื่อน นำมามอบให้รัฐโดยไม่ถูกลงโทษ ในส่วนทหารมีจำนวนมากน้อยแค่ไหน พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า เท่าที่คัดกรองในปัจจุบัน ในแวดวงทหารไม่มี ถ้าตรวจพบ ยืนยันว่าจะถูกลงโทษหนัก ที่ผ่านมามีข่าวเรื่องลักลอบออกไปบ้าง เราก็ดำเนินการปลดออกหลายคนแล้ว เพราะเป็นระเบียบที่มีบทลงโทษรุนแรง เราเข้มงวดมาตลอด และเมื่อเกิดเหตุการณ์ตอนนี้เราก็เข้มงวด และเน้นย้ำมากขึ้น
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่หลังจากรัฐบาลได้กำชับให้หน่วยงานความมั่นคง ดำเนินการเรื่องขบวนการลักลอบค้ายาเสพติดตามแนวชายแดนมากขึ้น พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ไม่กังวล เพราะเราทำงานเต็มที่ รอบปีที่ผ่านมากองกำลังป้องกันชายแดนได้จับกุม 200 ล้านเม็ด สัปดาห์ที่ผ่านมาตรวจยึดได้ตามแนวชาย 1-2 ล้านเม็ด ส่วนด้านในเป็นหน้าที่ของ ตร. ปปส. กอ.รมน. ต้องช่วยกัน เรื่องนี้ข้าราชการทุกฝ่ายทำเต็มที่อยู่แล้ว แต่ต้องเข้าใจว่าช่องทางหรือพื้นที่มีโอกาสหลบเลี่ยงเข้ามาได้ ประชาชนต้องช่วยแจ้งเบาะแสความผิดปกติเข้ามา ยืนยันว่ากองทัพดำเนินการเข้มข้น
“ยาเสพติด โดยเฉพาะยาบ้าผลิตง่าย และกำไรมหาศาล ในพื้นที่ชายแดนฝั่งเราไม่มีโรงงานผลิต ถ้ามีอยู่ประเทศอื่นก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ในประเทศไทยไม่มีแน่นอน มาจากฝั่งโน้นทั้งหมด สำหรับเจ้าหน้าที่เราเข้มงวดกวดขันไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้อง ปัจจุบันการสื่อสารทางโซเชียลมีเดียเราก็จะตรวจสอบหมด พร้อมกับแลกเปลี่ยนข้อมูลกับทางตำรวจตลอด” ผบ.ทบ. กล่าว
