ธนาธร วอน ส.ส.เห็นแก่ประชาชน โหวตผ่านสุราก้าวหน้า ปลดล็อกศักยภาพประเทศ ชี้ ช่วยสร้างเม็ดเงินหมุนเวียน เพิ่มถึง 1 แสนล้านบาท
เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2565 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวถึงการลงมติร่างพ.ร.บ.สรรพสามิต หรือสุราก้าวหน้า ที่สภาผู้แทนราษฎรจะพิจารณาในวาระที่ 2-3 ในวันที่ 2 พ.ย. นี้ ว่า ข้อจำกัดของกฎหมายที่เกี่ยวกับสุรา เป็นเพียงส่วนหนึ่งของปัญหาเศรษฐกิจไทยที่อยู่ในระบบผูกขาดที่ไม่มีการแข่งขันมากพอ จนไม่นำมาซึ่งนวัตกรรม สินค้า และบริการ ที่จะทำให้ประเทศไทยแข่งขันกับต่างประเทศได้
นายธนาธร กล่าวต่อว่า พวกเรามีความพยายามแก้ไขกฎหมายสุราก้าวหน้า มาตั้งแต่สมัยพรรคอนาคตใหม่ โดยต้องการเปิดโอกาสทางเศรษฐกิจให้แก่คนตัวเล็กตัวน้อย เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ ส่งเสริมการแปรรูปสินค้าเกษตร การสร้างนวัตกรรมในประเทศ
ตลาดสุราไทยมีขนาดถึง 4 แสนล้านบาท ขอเพียงเกิดการนำเอาส่วนแบ่งทางการตลาดที่ผูกขาดอยู่โดยกลุ่มทุนใหญ่ มาแบ่งให้ผู้ประกอบการรายย่อยเพียง 25% จะสามารถสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในหมู่เกษตรกร และผู้ประกอบการสุรารายย่อย เพิ่มขึ้นได้ถึง 1 แสนล้านบาท สุราก้าวหน้าจึงเป็นความพยายามครั้งสำคัญของสังคมไทย ที่จะให้มีการปลดล็อกศักยภาพของประเทศอย่างมหาศาล
นายธนาธร กล่าวต่อว่า ด้วยเหตุนี้พวกเราจึงขอแรงสนับสนุนจากคนไทยทุกคนที่เห็นด้วย ช่วยกันส่งเสียง แสดงจุดยืน กดดันไปยังผู้แทนของทุกคน และขอความสนับสนุนจากทั้งพรรคร่วมฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล การแก้ไขกฎหมายฉบับนี้สามารถเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่ส.ส.ทุกคนจะได้มาโหวต โดยเห็นแก่ประโยชน์ของประชาชนมากกว่าความเป็นฝักฝ่าย นี่คือการเมืองที่ทุกคนอยากเห็น
“ส.ส.จะอภิปรายอะไร ไม่มีความหมายความสำคัญเลย สิ่งที่สำคัญกว่าคือจะโหวตอย่างไร ที่ผ่านมาเราเห็นส.ส.หลายคน เวลาอภิปรายพูดอย่างหนึ่ง แต่ถึงเวลากลับโหวตอีกแบบหนึ่ง การโหวตเท่านั้นที่จะส่งผลออกมาเป็นกฎหมายได้ จึงขอให้ประชาชนร่วมกันติดตามการลงคะแนนของผู้แทนราษฎรทุกคนอย่างใกล้ชิด” นายธนาธร กล่าว
นายธนาธร กล่าวอีกว่า ไม่ว่ากฎหมายสุราก้าวหน้าจะผ่านหรือไม่ สิ่งที่พรรคก้าวไกลได้ทำสำเร็จไปแล้ว คือ การประกาศเจตนารมณ์ในการต่อต้านการผูกขาดทางเศรษฐกิจ ซึ่งผลของสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ (2 พ.ย.) น่าจะสามารถชี้ชะตาของพรรคการเมืองต่างๆ ในการเลือกตั้งครั้งหน้าได้ด้วย
