ส.ว.เห็นชอบ พ.ร.ก.กู้เงินอุ้มกองทุนน้ำมัน 1.5 แสนล้าน ‘สุพัฒนพงษ์’ โอ่ เป็นรัฐบาลเดียวที่ไม่สร้างผลกระทบประชาชน แจงไทม์ไลน์แผนกู้เงิน-ชำระเงิน
เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2565 ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม พิจารณาพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ผ่อนผันให้กระทรวงการคลังค้ำประกันการชำระหนี้ของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2565 ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอ โดยเป็นการพิจารณาอนุมัติต่อจากที่สภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบ ทั้งนี้ ในการพิจารณา ที่ประชุมวุฒิสภาลงมติเห็นด้วย 187 เสียง ไม่เห็นด้วย 1 เสียง งดออกเสียง 5 เสียง
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯ และรมว.พลังงาน ชี้แจงต่อที่ประชุมวุฒิสภา
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯ และรมว.พลังงาน ชี้แจงต่อที่ประชุมว่า จากปัญหาวิกฤตพลังงานราคาน้ำมันที่ผ่านมา ถือเป็นวิกฤตซ้อนวิกฤต ทั้งกรณีค่าน้ำมันที่ราคาสูงขึ้น ขณะที่ค่าเงินบาทตกต่ำ โดยการแก้ปัญหาที่ผ่านมา รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลเดียวที่ไม่ทำให้เกิดผลกระทบกับประชาชน
นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวต่อว่า การแก้ปัญหาต้องใช้การประคับประคองแบบค่อยเป็นค่อยไป ที่ผ่านมามีดัชนีชี้วัดค่อนข้างดี ส่วนกรณีมีข้อเสนอแนะว่าอย่าอุดหนุนจนบิดเบือน เพราะจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด รัฐบาลต้องดูแลเรื่องดังกล่าว ขณะที่การชำระเงินกู้ รัฐบาลคำนึงในประเด็นดังกล่าว พร้อมกับการคงเสถียรภาพทางการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด
นายพรชัย จิรกุลไพศาล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ในฐานะผู้ช่วยเลขาคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ชี้แจงว่า สำหรับแผนการกู้เงิน ได้รับอนุมัติจากรัฐบาลแล้ว โดยจะกู้เงินก้อนแรก 3 หมื่นล้านบาท ในปี 2565 และอีกก้อนจำนวน 1.2 แสนล้านบาท ดำเนินการในปี 2566 ขณะที่แผนการชำระเงิน หนี้ก้อนแรกจะมีระยะเวลาใช้คืน 7 ปี ก้อนที่สอง มีระยะเวลาการชดใช้ 7 ปีเช่นกัน
