อดีตส.ส.ปชป. กัดไม่ปล่อย ร้องป.ป.ช.-สตง. สอบ “เลขาสภาฯ” กับพวก กรณีมหากาพย์ขยายสัญญาก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ยังไม่เสร็จ

เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 2565 ที่สำนักงานและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ยื่นหนังสือถึงนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการป.ป.ช. ให้ตรวจสอบการกระทำของนางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และคณะกรรมการตรวจการจ้าง กรณีกระทำผิดกฎหมายและข้อสัญญาโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่

นายวิลาศ กล่าวว่า เนื่องจากสำนักเลขาธิการสภาฯ ได้ทำสัญญาก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ สัญญาเลขที่ 116/2556 กับบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) สัญญาเริ่มต้นวันที่ 8 มิ.ย. 2556 และสิ้นสุดสัญญาวันที่ 24 พ.ย. 2558 รวมระยะเวลาก่อสร้าง 900 วัน เมื่อครบกำหนดสัญญาการก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ มีการขยายสัญญา 4 ครั้ง เป็นระยะเวลา 1,864 วัน สิ้นสุดสัญญาเมื่อ 31 ธ.ค. 2563

ต่อมาสำนักงานเลขาธิการสภาฯ มีหนังสือแจ้งเรียกค่าปรับวันละ 12.28 ล้านบาท รวมทั้งค่าใช้จ่ายผู้ควบคุมงาน และที่ปรึกษาบริหารการก่อสร้างอีกวันละ 332,140 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2564 ปรากฏว่าหลังจากสัญญาสิ้นสุดลงและไม่มีการขยายสัญญาอีก แต่ยังมีการก่อสร้างอีกหลายรายการที่ก่อสร้างไม่ตรงแบบ บางรายการได้รับการอนุมัติแก้แบบจากคณะกรรมการตรวจการจ้างแล้ว (คตจ.) แต่บางรายการยังไม่ได้รับอนุมัติ

นายวิลาศ กล่าวต่อว่า ทั้ง 2 กรณีดังกล่าว ยังไม่มีการแก้ไขสัญญาอีกจำนวนมาก ขณะนี้สัญญาได้สิ้นสุดลงตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค. 2563 แล้ว ไม่น่าจะมีการแก้ไขสัญญาได้ แต่ขณะนี้ยังมีการก่อสร้างโดยอ้างว่าจะรวมแก้ไขสัญญาตอนส่งงานงวดสุดท้าย จึงขอให้ตรวจสอบเลขาธิการสภาฯ คณะกรรมการตรวจการจ้าง และผู้ควบคุมงาน เพื่อพิจารณาดำเนินการลงโทษต่อไป

นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ยื่นหนังสือถึงสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน

นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ยื่นหนังสือถึงสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน

นอกจากนี้ นายวิลาศยังได้เดินทางไปยื่นหนังสือถึงนายประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ขอให้ตรวจสอบการปูพื้นด้วยหินแกรนิตดำไทย บริเวณทางเดินรอบอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ โดยอ้างว่า เป็นการส่อกระทำความผิดในหน้าที่ราชการ

นายวิลาศ ระบุต่อว่า เนื่องจากบริเวณทางเดินเท้าจากหัวมุมทางแยกถนนทหารตัดกับถนนสามเสน ตามริมถนนทหารมีการปูพื้นทางเท้าด้วยหินแกรนิตดำไทย ขนาด 60×60 ซม. ซึ่งเป็นความประหลาดของทางเดินเท้า เพราะทางเดินเท้าดังกล่าวปูด้วยหินวิทิตาส้มขนาดและสีหลากหลาย โดยมีการอ้างว่าเนื่องจากสัมปทานเหมืองหินวิทิตาส้มสิ้นสุด แต่ทางเดินเท้าจากทางแยกไปตามถนนทหารกลับปูพื้นด้วยหินแกรนิต

จากการค้นหาข้อมูลเบื้องต้น จากนักธรณีวิทยาและวิศวกรเหมืองแร่ให้ข้อมูลตรงกันว่า 1.ถึงแม้ว่าเหมืองหินวิทิตาของบริษัทแห่งหนึ่งจะสิ้นสุดสัมปทาน แต่ยังสามารถสั่งนำเข้าจากต่างประเทศจีนได้ ไม่จำเป็นต้องใช้หินวิทิตาขนาดและสีหลากหลายเช่นนี้ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเรียกว่าเศษหิน 2.การเปลี่ยนจากหินวิทิตาส้มเป็นหินแกรนิตดำไทย ซึ่งสีไม่สม่ำเสมอ อีกทั้งหินแกรนิตดังกล่าวเป็นสีที่มีราคาต่ำ

3.ขณะทำทางเดินเท้าบริเวณดังกล่าวมีการถมดิน ซึ่งมีขยะจำนวนมาก โดยจะนำภาพส่งหน่วยงานกลางต่อไป 4.การปูพื้นบริเวณทางเท้างานหยาบมาก พื้นไม่สม่ำเสมอ มีแอ่งน้ำ รอยต่อระหว่างแผ่นไม่เรียบร้อยและมีคราบปูน และ 5.ทราบว่ามีการเปลี่ยนแปลงขนาดของหินหลายครั้ง บางครั้งได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการตรวจการจ้างแล้ว แต่บางครั้งยังไม่ได้รับการอนุมัติ

นายวิลาศ ระบุอีกว่า อย่างไรก็ตาม มีการปูพื้นหินเสร็จสิ้นและมีการเบิกจ่ายเงินงวดให้ผู้รับจ้างแล้ว ทั้งๆ ที่ยังไม่มีการตกลงเรื่องเงินลดและแก้ไขสัญญา เห็นว่าน่าจะเป็นการกระทำที่ผิดข้อสัญญาและข้อกฎหมาย จึงขอให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน