วิปรัฐบาล ปัด ทำสภาล่ม เย้ย ฝ่ายค้านปากว่าขาสั่น ไล่ไปทำการบ้านเตรียมซักฟอก

วิปรัฐบาล ปัด เป็นเหตุทำสภาฯ ล่ม อ้างเกิดจากความเข้าใจผิดในการลงมติ เย้ย ฝ่ายค้าน ปากว่าขาสั่น จี้ให้ยุบสภาฯ ไล่ไปหาข้อมูลเตรียมซักฟอก ม.152

เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2565 นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) พร้อมด้วยนายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะเลขานุการวิปรัฐบาล แถลงข่าวภายหลังที่ประชุมสภาฯ ล่ม

นายชินวรณ์ กล่าวว่า เกิดความเข้าใจผิดในการลงคะแนน โดยนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้มีการลงคะแนนใหม่ ถือว่าเป็นอำนาจของประธานสภา ตามข้อบังคับการประชุมสภาข้อที่ 9 ถ้าเห็นว่าคะแนนมีความผิดพลาด เนื่องจากความเข้าใจผิดจากการตั้งประเด็นญัตติ สามารถเสนอนับคะแนนใหม่ได้ ฉะนั้น จึงมีการสั่งนับคะแนนใหม่และลงมติว่า จะมีการลงมติให้นับคะแนนใหม่หรือไม่

นายชินวรณ์ กล่าวต่อว่า ยืนยันว่าเป็นการวินิจฉัยที่ถูกต้องของประธานสภา และไม่เคยมีมาก่อนในสมัยประชุมสภานี้ จะมากล่าวหาประธานสภาไม่ดำเนินการตามข้อบังคับหรือกระทำการที่อาจจะนำไปสู่พวกมากลากไปนั้น ตนคิดว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะประธานสภาย้ำแล้วว่า ได้ดำเนินการตามตามหลักนิติธรรมตามข้อบังคับชัดเจน โดยผลการลงคะแนนนั้น คะแนนเสียงข้างมากเห็นด้วยตามที่ประธานสภาวินิจฉัย ซึ่งฝ่ายค้านก็ไม่ได้แสดงตนด้วย

นายชินวรณ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนที่พรรคร่วมฝ่ายค้านออกมาเรียกร้องว่า ให้มีการยุบสภาเพราะสาเหตุนี้นั้น ตนคิดว่ายังไม่ใช่เป็นเหตุและปัจจัยที่สำคัญ เพราะเป็นกฎหมายของสภา ระหว่างกรรมาธิการ (กมธ.) และส.ส. ไม่ใช่กฎหมายที่เสนอโดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) ฉะนั้นจึงไม่เป็นเหตุผลในการพิจารณา ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ออกมายืนยันว่าจะอยู่ยาว สิ่งที่ฝ่ายค้านเรียกร้องน่าจะเป็นอาการปากว่าขาสั่นมากกว่า

“ผมอยากเรียกร้องไปยังพรรคฝ่ายค้านว่า ได้ไปหาข้อมูลมาอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 แล้วหรือไม่ ซึ่งเปรียบเสมือนการดีเบตกันระหว่างฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล เพราะจะเป็นประโชน์ต่อประชาชนมากกว่า” นายชินวรณ์ กล่าว

ด้านนายอรรถกร กล่าวว่า เรื่องนี้เกิดจากการสื่อสารที่ผิดพลาด หากย้อนกลับไปดูในกระบวนการโหวตมาตรา 9/1 ซึ่งข้อความในมาตรานี้ขัดกับมาตราอื่นๆ โดยกฎหมายฉบับนี้มีทั้งหมด 23 มาตรา หลังจากจบกฎหมายฉบับนี้ก็มีร่างพ.ร.บ.ขนส่งทางรางต่อ ซึ่งต้องใช้เวลามากในการพิจารณา และได้รับการประสานจากเพื่อนสมาชิกว่า วันนี้อยากเริ่มพิจารณาร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง จึงได้ประสานกับกมธ.เสียงข้างน้อยที่สงวนคำแปรญัตติ ให้ถอนญัตติ เพื่อให้กฎหมายพิจารณาเสร็จโดยเร็วอย่างน้อย 1 ชั่วโมง แต่ก็เกิดความผิดพลาดในการสื่อสาร

“เราเข้าใจว่าจะลงมติตามกมธ.เสียงส่วนใหญ่ ตามปกติแล้วในกระบวนการลงมติในสภาฯ มักจะโหวตเห็นด้วยกมธ.เสียงส่วนใหญ่ แต่ยอมรับว่าเรื่องนี้มีความผิดพลาดจริงๆ แต่ยืนยันว่าเสียงส่วนใหญ่ของพรรคร่วมรัฐบาลเห็นชอบไปในทิศทางเดียวกัน” นายอรรถกร กล่าว