ธนาธร อ้อน ส.ส.-ส.ว. โหวตรับหลักการร่างแก้รธน.ปลดล็อกท้องถิ่น ปิยบุตร ลั่น ยิ่งกระจายยิ่งลดคอร์รัปชั่น เผยเตรียมแผนสองหากไม่ผ่านให้ ก้าวไกล ผลักดันต่อ

เมื่อเวลา 09.20 น. วันที่ 29 พ.ย. 2565 ที่รัฐสภา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และน.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ร่วมแถลงถึงการประชุมรัฐสภาที่จะมีการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่…) พ.ศ. …. แก้ไขเพิ่มเติมหมวด 14 การปกครองส่วนท้องถิ่น ที่เสนอโดยนายธนาธร กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 76,591 คน เป็นผู้เสนอ

นายธนาธร กล่าวว่า คณะก้าวหน้ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของประชาชน 7 หมื่นกว่ารายชื่อ ที่ได้ร่วมเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งคาดว่าจะเข้าสู่การพิจารณารัฐสภาในช่วงเย็นวันเดียวกันนี้ หรือวันที่ 30 พ.ย. เราดีใจเป็นอย่างมากที่การรณรงค์ของพวกเราตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา มาถึงจุดนี้ได้ จึงหวังว่าสมาชิกรัฐสภาทุกคน ทั้งส.ส.จากทุกพรรคการเมือง และส.ว. จะเห็นถึงความสำคัญของหลักการกระจายอำนาจ ที่สำคัญต่ออนาคตของประเทศ

นายธนาธร กล่าวว่า การปลดล็อกท้องถิ่นที่เรานำเสนอ ประกอบด้วย 3 ประเด็น คือ 1.การจัดสรรภาษีและเพิ่มสัดส่วนรายได้ที่ท้องถิ่นหามาได้กับรายได้ที่ส่วนกลางได้รับ ในสัดส่วนร้อยละ 50 ต่อ 50 เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มีงบประมาณเพียงพอ ในการดูแลการบริการสาธารณะขั้นพื้นฐาน จะได้ไม่ต้องวิ่งของบจากผู้ว่าราชการจังหวัด และส.ส. ที่ทำให้เกิดระบบอุปถัมภ์ เพราะเราต้องการเห็นระบบการบริหารที่มีประสิทธิภาพ

2.การปลดล็อกเรื่องอำนาจ เพราะคำสั่งประกาศกระทรวง และกฎหมายที่ออกจากส่วนกลางและทัศนคติจากส่วนกลาง ไม่เปิดโอกาสให้ท้องถิ่นทำบริการสาธารณะ และออกแบบความต้องการตัวเอง และ 3.การจัดทำประชามติ เพื่อสอบถามประชาชนว่า ราชการส่วนภูมิภาคยังจำเป็นอยู่หรือไม่ ในรายละเอียดเราอาจจะเห็นต่างกัน แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ จึงอยากให้โหวตผ่านวาระ 1 แล้วค่อยไปแก้ไขในรายละเอียดในวาระ 2 หรือหากไม่เห็นด้วยจริงๆ ก็ตีตกในวาระ 3

ด้านนายปิยบุตร กล่าวว่า หลายคนตั้งคำถามว่า ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมที่ประชาชนเสนอที่สุดท้ายก็ตกอีก และก็ใกล้จะครบวาระสภาแล้ว จะเอาเข้าสภามาเพื่ออะไร สภาอาจจะสิ้นอายุขัยหรือมีการยุบสภา จนทำให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ตกไป โดยในกรณีผ่านวาระ 1 รัฐธรรมนูญมาตรา 147 ระบุว่าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดหน้า มีสิทธินำเรื่องเหล่านี้มาร้องขอต่อประธานสภาให้นำร่างกฎหมายที่ตกไปกลับมาพิจารณาต่อได้

“ดังนั้น จึงอยากให้สมาชิกรัฐสภาร่วมกันสนับสนุน เพราะเป็นประโยชน์ร่วมกันของคนทั้งประเทศ ท่านไม่ต้องกังวลว่า หากร่างนี้ผ่านไปได้แล้วพวกผมจะได้ประโยชน์ เพราะนี่เป็นประโยชน์ของประเทศชาติ และท้องถิ่นเกิดการพัฒนา เราจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะผ่านวาระ 1 ไปได้” นายปิยบุตร กล่าว

เมื่อถามว่า การกระจายอำนาจจะยิ่งทำให้เกิดการคอร์รัปชั่นเพิ่มขึ้นหรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวว่า ในการอภิปรายก็คงมีสมาชิกรัฐสภาสอบถาม วันนี้เรายังไม่สามารถกระจายอำนาจได้เต็มที่ ประเทศไทยก็มีคอร์รัปชั่นอยู่แล้ว แต่เมื่อกระจายไปแล้วต้องมีการตรวจสอบ โดยในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของเรา จะมีการตรวจสอบโดยสภาพลเมืองไปด้วย และเราเชื่อว่ายิ่งกระจายอำนาจเท่าไหร่ การคอร์รัปชั่นก็จะน้อยลง และมีงานวิจัยการศึกษาหลายชิ้นยืนยันในเรื่องนี้แล้ว

เมื่อถามว่า หากร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตกไปในวาระ 1 จะทำอย่างไร นายธนาธร กล่าวว่า การกระจายอำนาจเป็นความฝันของเราตั้งแต่สมัยอดีตพรรคอนาคตใหม่ และเพื่อนส.ส.พรรคก้าวไกลของเราจะยังเดินตามแนวทางนี้อยู่ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาพรรคก้าวไกลแถลงถึงนโยบายทุกจังหวัดไทยก้าวหน้า เกี่ยวกับการแก้ไขกฎหมายและข้อจำกัดที่ทำให้อปท.ไม่มีอำนาจ และงบประมาณในการดูแลพื้นที่ตัวเอง ทั้งนี้ไม่ว่าจะผ่านหรือไม่ผ่าน พรรคก้าวไกลจะทำงานต่อในการเลือกตั้งสมัยหน้า และสภาชุดหน้า

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน