ส.ว.ซัด ร่างรธน.ปลดล็อกท้องถิ่น เป็นผลไม้พิษ เปิดช่องนักการเมืองยึดท้องถิ่น ซีกรัฐบาลปล่อยฟรีโหวต ส่อแววไม่ผ่าน เหตุส.ว.หนุนไม่ถึง 84 เสียง

วันที่ 30 พ.ย.2565 ที่รัฐสภา ในการประชุมรัฐสภา ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม มีการพิจารณา ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่) พ.ศ….. แก้ไขเพิ่มเติมหมวด 14 การปกครองส่วนท้องถิ่น เสนอโดยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 76,591 คน เป็นผู้เสนอ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดการเปิดให้สมาชิกรัฐสภาอภิปราย ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปลดล็อกท้องถิ่น ส.ว.ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะเรื่องการปกครองส่วนท้องถิ่นและการกระจายอำนาจ มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว และไม่เชื่อว่าการกระจายอำนาจตามรายละเอียดของร่างแก้ไขฉบับนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ และคาดว่าไม่สามารถนำมาปรับใช้กับประเทศไทยได้จริง

โดยนายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว. อภิปรายว่า เห็นว่าร่างแก้รัฐธรรมนูญนี้ เป็นผลไม้พิษ เพราะต่อไปเทศบาล และอบต. จะเต็มไปด้วยพ่อค้ายาและนักการเมืองจะเข้าไปยึดท้องถิ่น ส่วนกลางจะทำอะไรไม่ได้ รัฐบาลไหนมาก็บริหารประเทศไม่ได้ เป็นรัฐบาลเป็ดง่อย ตนเห็นด้วยกับกระจายอำนาจ เพราะกฎหมายมีแล้ว แต่ไม่ใช่ไปแก้รัฐธรรมนูญตามใจ แบบกินอิ่มนอนหลับ ตื่นมานึกอยากจะแก้อะไรก็แก้ นักการเมืองแก่ๆ รู้ทันจึงต้องเป็นปากเป็นเสียงให้ประชาชน การจัดสรรรายได้ 50 ต่อ 50 จะเอาภาษีจากไหนมาให้

“สุดท้ายนี่คือต้นไม้พิษ และผลไม้พิษ เพราะข้อสุดท้ายบอกว่า 5 ปีต้องจัดทำประชามติยกเลิกราชการส่วนภูมิภาค ต่อไปผู้ว่าฯ ต้องถือกระเช้าเดินกุมเป้าไปให้นายกเทศมนตรี นอกจากนี้ยังมีประชาชนฝากผมมาถามถึงกรณีที่ให้ผู้เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ถูกตัดสิทธิการเมือง 10 ปี และมีคดีมาตรา 112 จึงเข้าสภามาได้อย่างหน้าตาเฉย” นายกิตติศักดิ์ กล่าว

ขณะที่นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. อภิปรายว่า ร่างที่ผู้เสนอจะแม้อธิบายว่า เป็นรัฐเดี่ยว ไม่ใช่สาธารณรัฐ แต่จากเนื้อหาที่ได้อ่าน ทำให้ตนกังวลและห่วงว่า นี่คือการเป็นรัฐอิสระดีๆ นี่เอง การจะทำให้บ้านเมืองดีขึ้น ความจริงอยู่ที่นักการเมือง ที่ต้องมีความรับผิดชอบต่อบ้านเมือง และประชาชน ต้องทำหน้าที่รักษาประโยชน์ส่วนร่วม ไม่ยั่วยุ ปลุกปั่น หรือปลูกฝังความคิดผิดๆ ให้กับเด็ก เยาวชน ประชาชน

นายเสรี กล่าวต่อว่า ฉะนั้น จึงยังรับหลักการเรื่องเหล่านี้ไม่ได้ ตนให้ความสำคัญประชาชนที่ลงชื่อเสนอร่างแก้ไข แต่ในข้อเสนอที่เสนอมา ต้องเรียนเลยว่า โดยรวมๆ ไม่มีการกระจายอำนาจที่จะสำเร็จได้อย่างแท้จริง จึงไม่อาจรับหลักการในร่างฉบับนี้ได้ เชื่อว่าสิ่งที่อภิปรายนี้ ส.ว.ที่ต้องพิจารณาร่วมกับตน ก็คิดไปในแนวทางเดียวกัน

ขณะที่ส.ส.ฝ่ายค้าน อภิปรายสนับสนุนร่างกฎหมายฉบับนี้ และจะโหวตรับหลักการในวาระแรก ส่วนส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ทางวิปรัฐบาลจะเปิดให้ฟรีโหวต ยกเว้นพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่จะขอโหวตรับหลักการ เพราะพรรค ปชป. สนับสนุนกับหลักการกระจายอำนาจอยู่แล้ว แต่ไม่เห็นด้วยที่จะให้ยกเลิกราชการส่วนภูมิภาค








Advertisement

อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์ว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญปลดล็อกท้องถิ่นนี้ ไม่น่าจะผ่านในวาระ 1 เนื่องจากต้องใช้เสียงส.ว.สนับสนุน 1 ใน 3 หรือประมาณ 84 เสียงมาประกอบด้วย ร่างฉบับนี้จึงจะผ่านไปได้ เพราะจากการแสดงความเห็นตลอดทั้งวัน ส.ว.ส่วนใหญ่อภิปรายไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกราชการส่วนภูมิภาค และยืนยันว่าไม่จำเป็นต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นการกระจายอำนาจ เพราะมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องบังคับใช้อยู่แล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน