'เด็กชวน' หลั่งน้ำตา จำใจทิ้งปชป. ย้ายซบ รทสช. หลังชวดลงส.ส.ตรัง พ้อไม่มีที่ยืน

“เด็กชวน” จำใจโบกมือลา ปชป. ซบ รทสช. หลังชวดลงส.ส.เขต4 ตรัง เผย “ประธานชวน” ยกหูเห็นใจมาก เหตุไม่มีที่ยืน ลั่น ขอผลเลือกตั้งพิสูจน์หักโพลประชาธิปัตย์

เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2565 นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร และอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จ.ตรัง 4 สมัย เปิดเผยว่า วันนี้ (8 ธ.ค.) ตนได้เดินทางไปสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ จากนั้นในวันที่ 9 ธ.ค. ตนจะเดินทางไปสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ส่วนเหตุผลที่ตัดสินใจเพราะต้องการความชัดเจนทางการเมืองให้กับตัวเอง ก่อนที่จะมีการยุบสภาและจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่

“ที่ผ่านมาผมทำตัวเป็นเด็กดีของพรรคประชาธิปัตย์มาตลอด ไม่เคยสร้างปัญหาให้หนักใจ มีแต่จะทำประโยชน์ให้ประชาชนและพรรค แต่เมื่อไม่เห็นความดีและไม่มีพื้นที่ให้ยืน ผมก็ต้องไปหาพื้นที่เพื่อต่อสู้ในการเลือกตั้งก็เท่านั้น” นายสมบูรณ์ กล่าว

นายสมบูรณ์ กล่าวว่า ก่อนที่ตนจะตัดสินใจลาออก ได้แจ้งกับนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ และนายกิจ หลีกภัย อดีตนายกองค์การบริหารจังหวัดตรัง ในฐานะที่ตนเคารพรักและถือว่าเป็นผู้ให้กำเนิดทางการเมือง เพราะชักนำให้ตนเข้าสู่การเมืองตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งทั้งสองท่านก็เข้าใจถึงเหตุผลที่ตนต้องไปอยู่พรรคอื่น

“ท่านชวนยังได้โทรศัพท์มาคุยกับผม ระหว่างที่เดินทางไปยื่นใบลาออกกับกกต.ว่า เห็นใจมาก เพราะไม่มีที่ให้ยืนจริงๆ และยังมีเวลาในการสมัครสมาชิกพรรค ผมได้เรียนว่าต้องการทำงานทางการเมืองให้ชัดเจน แต่ก็ยังจะทำงานในตำแหน่งเลขานุการประธานสภาฯ ต่อไป เพราะคนละส่วนกัน” นายสมบูรณ์ กล่าว

เมื่อถามว่า การตัดสินใจไปร่วมพรรค รทสช. เพราะได้รับการติดต่อจากนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี อดีตรองหัวหน้าพรรคปชป. และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครทสช.หรือไม่ นายสมบูรณ์ กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกัน โดยนายไตรรงค์เข้าใจถึงปัญหาความอึดอัดที่ตนได้รับจากพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนนายพีระพันธุ์ก็บอกว่ายินดีต้อนรับเข้าพรรค แต่อยากให้ตนตัดสินใจให้ชัดเจน เพราะเวลาเลือกตั้งใกล้เข้ามาแล้ว เขาจะได้วางแผนทางการเมืองได้ถูก

“ก่อนจะตัดสินใจลาออกจากประชาธิปัตย์ ผมรู้สึกเสียใจจนต้องหลั่งน้ำตา เพราะผูกพันกับพรรคมานาน แม้จะออกไปแล้วแต่ก็ยังรักและรู้สึกดีกับหลายคนในประชาธิปัตย์อยู่ และไม่คิดที่จะเผาบ้านเก่า ยอมรับว่าออกไปแล้วไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร แต่มีความสุขขึ้น เพราะเขาให้เกียรติเรามากกว่า และต้องการที่จะพิสูจน์ให้ผู้นำพรรคประชาธิปัตย์เห็นว่า ผลโพลที่บอกว่าเลือกตั้งครั้งหน้าผมจะได้แค่ 20% นั้น พอถึงเวลาแล้วจะเป็นอย่างไรก็ยอมรับ แต่ถ้าได้มากกว่าก็ถือเป็นการยืนยันว่าผมทำได้จริง” นายสมบูรณ์ กล่าว

ด้านนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การลาออกของนายสมบูรณ์ไม่ถือว่าเป็นปัญหาเลือดไหล แต่เพราะเขาไม่มีพื้นที่ยืนจริงๆ เนื่องจากผู้บริหารพรรคตัดสินใจให้คนอื่นลงสมัครส.ส. ใน เขต 4 จ.ตรัง แทนนายสมบูรณ์แล้ว จึงเป็นธรรมดาของนักการเมืองที่ต้องไปสังกัดพรรคอื่น เพื่อให้ตนเองได้ลงสมัครส.ส. ส่วนจะมีคนอื่นออกจากพรรคปชป.อีกหรือไม่ ยังไม่สามารถบอกได้ เพราะยังมีเวลาก่อนที่จะถึงกำหนดวันย้ายพรรค