ชวน ยันทำหน้าที่เป็นกลาง กรีดส.ส.เพื่อไทย กล่าวหาเพราะโตมาในยุคประธานสภา สั่งได้ ไล่ไปประเมินตัวเองสมัยเป็นรัฐบาล ทำสภาอยู่ในอาณัตินายกฯ

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 20 ธ.ค.2565 ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงผลสำรวจของนิด้าโพล ระบุประชาชนต้องการให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ยุบสภาว่า เป็นความรู้สึกของประชาชนกลุ่มหนึ่งที่อยากให้มีการเปลี่ยนแปลง แต่คนทั้งประเทศอาจเห็นต่างกัน

ส่วนที่จะมีส.ส.อีกจำนวนหนึ่งลาออก จะมีผลต่อความชอบธรรมในการพิจารณากฎหมายสำคัญหรือไม่นั้น ต้องรอดูตัวเลข ว่าจะลดลงจนไม่สามารถเป็นตัวแทนของประชาชนหรือไม่ ตัวเลขขณะนี้เป็นคนที่ย้ายพรรค เชื่อว่าจะไม่มากไปกว่านี้

เมื่อถามถึงร่างกฎหมาย 2 ฉบับเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมที่พรรคเพื่อไทยเสนอ จะมีโอกาสพิจารณาทันในสมัยประชุมนี้หรือไม่ นายชวนกล่าวว่า ตนเข้าใจว่าในประชุมสมัยนี้ไม่ทัน เนื่องจากพรรคเพื่อไทยเพิ่งเสนอเข้ามา และขณะนี้ยังมาไม่ถึงตนเพราะร่างที่เป็นทางการนั้น อยู่ในกระบวนการการตรวจสอบความถูกต้อง ทั้งนี้ ตนหวังว่าการประชุมวันที่ 28-29 ธ.ค. หากเป็นไปได้ร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง ร่างพ.ร.บ.คู่ชีวิต และร่างพ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม หากผ่านก่อนสิ้นปีก็จะดี เพื่อกฎหมายอื่นจะเข้ามาพิจารณาได้

ฉะนั้น เวลาที่เหลืออยู่ ต้องมองในแง่ดีว่ายังไม่น่ามีอะไรเกิดขึ้น แม้จะมีการคาดการณ์ว่าจะมีการยุบสภา แต่ตนคิดว่ายังมีเวลา ยังไม่มีสัญญาณใดๆ ที่บอกว่ารัฐบาลจะยุบสภา หากไม่มีการยุบสภาก็มีเวลาอีก 2 เดือน เราสามารถทำอะไรได้เยอะ เวลาเป็นของมีค่า หากทำงานจริงๆ ก็ทำอะไรได้เยอะ

เมื่อถามว่ามีส.ส.พรรคเพื่อไทย พูดถึงการทำหน้าที่ของประธานสภาว่าไม่เป็นกลาง นายชวนกล่าวว่า ตนเคยชี้แจงหลายครั้งแล้วว่า ปัจจุบันฝ่ายบริหารไม่เคยมายุ่ง หรือมาสั่ง ไม่เหมือนสมัยก่อน สมัยที่พรรคของผู้ที่พูดเรื่องนี้ เป็นรัฐบาล นายกฯสามารถสั่งให้ทำแม้กระทั่งเรื่องที่ไม่ถูก และตนเชื่อว่าประธานทุกคนมีความเป็นกลาง จะมีแค่สมัยในยุคของประธานคนที่พูดเท่านั้นที่มีปัญหา

“ขอเรียนว่า สมาชิกสบายใจได้ในยุคที่ผมอยู่ ไม่มีใครมาสั่งให้ทำอะไรที่ผิด ซึ่งผู้ที่พูดเรื่องนี้อยู่ในยุคของประธานสั่งได้ เขาเลยอาจคิดว่าในยุคนี้อาจเหมือนยุคของพวกเขา ขอเรียนว่าไม่มี สภาไม่มีเสื่อม มีแต่คนทำให้ภาพพจน์ของสภาเสียหาย” นายชวน กล่าว

นายชวน กล่าวว่า สมัยที่เป็นประธานสภาใหม่ๆ ตนเตือนให้สมาชิกที่เป็นหนี้ค่าเครื่องบินไปชำระ เพราะบริษัททวงสภามา หรือเรื่องจองตั๋วรถไฟแล้วไม่เดินทางและไม่ยกเลิก ซึ่งมีหลายคนที่ไปจ่าย และเมื่อเราไปดูชื่อก็ตกใจ เพราะคนที่ไม่จ่ายส่วนมากเป็นคนที่มีฐานะ มีเงิน มีฐานะในพรรคการเมือง ไม่ใช่ส.ส.ที่ไม่ค่อยมีฐานะ ซึ่งนี่เป็นภาพพจน์ของนักการเมืองที่จะเป็นลบ จะเสื่อมหรือไม่ ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของนักการเมือง แต่คนเหล่านี้มองไม่ออกไปโทษนั้นโทษนี้ ไปประเมินกันเองว่าสมัยที่พรรคของตนเป็นรัฐบาล สภาอยู่ในอาณัติของหัวหน้าพรรค และนายกฯ สามารถสั่งได้ แต่ย้ำว่าในสมัยนี้ไม่มี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน