‘ปริญญา’ ติง ‘วราวุธ’ ปม อธิบดีฯรับเงิน เชื่อประชาชนอยากฟังจะแก้ปัญหายังไง ชี้ ‘ประยุทธ์’ ล้มเหลว 8 ปี ความโปร่งใสวงราชการหนักกว่าเดิม
วันที่ 30 ธ.ค.65 ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แสดงความคิดเห็น กรณีเจ้าหน้าที่บุกจับ อธิบดีกรมอุทยานฯ เรียกรับเงิน ความว่า รัฐมนตรีแค่ตกใจพอสมควร แต่ประชาชนตกใจมากครับ
ผมได้ยินข่าวมาหลายเดือนแล้วเกี่ยวกับการเรียกเงินแลกตำแหน่งในกรมอุทยานแห่งชาติ แต่ก็ไม่นึกว่าจะโจ๋งครึ่มถึงขนาดมีซองใส่เงินจากหน่วยในพื้นที่ต่างๆ ของกรมจ่าหน้าถึงอธิบดีอย่างโจ่งแจ้ง และพบเงินสดๆ ที่ไม่ปรากฏที่มาที่ไปในห้องทำงานมากถึง 5 ล้านบาทอย่างนี้
ประเด็นสำคัญคือ อธิบดีท่านนี้ตอนเข้ารับตำแหน่งได้ประกาศ นโยบายงดรับกระเช้าและของขวัญ หรือ No Gift Policy แต่ในวันที่ถูกจับกุมในห้องทำงานเต็มไปด้วยกระเช้าของขวัญขนาดใหญ่จำนวนมากมาย ซึ่งเป็นเรื่องตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง
นี่ไม่ใช่เรื่องแค่หน้ากากคนดี การพูดให้ดูดีแล้วทำอีกอย่าง หรือปัญหาตัวบุคคลเท่านั้นนะครับ แต่เป็น ปัญหาของระบบการป้องกันการคอร์รัปชั่น เพราะ ปปช. ประเมินและให้คะแนนจากกระดาษ มากกว่าให้คะแนนจากการปฏิบัติจริง อย่างการประกาศนโยบายงดรับของขวัญ จะทำให้ได้คะแนนเต็ม 100 ในหัวข้อนี้ ซึ่งอยู่ในด้านการป้องกันการทุจริต
กรมอุทยานแห่งชาติได้ คะแนนคุณธรรมและความโปร่งใส ในระดับ A แบบสูงมาก นี่หมายความว่าวิธีการประเมินและให้คะแนนเรื่องความโปร่งใสของ ปปช. ควรต้องแก้ไขกันใหม่หมด รายนี้ถูกจับได้เพราะโจ่งแจ้งมาก ส่วนที่กระทรวงอื่น กรมอื่นที่ไม่โจ่งแจ้ง กินกันเงียบๆ ไม่ทราบมีอีกเท่าไหร่
ผมเชื่อว่าประชาชนที่ได้ยินข่าวนี้ ส่วนใหญ่แล้วก็คงตกใจกันมาก เพราะไม่นึกว่าจะมีการรับเงินกันโจ่งแจ้งขนาดนี้ แต่ระดับความตกใจของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (วราวุธ ศิลปอาชา) เมื่อทราบข่าวนี้กลับแค่ “ตกใจพอสมควร” เท่านั้น
ผมเห็นว่าท่านควรตกใจมากกว่านี้ เพราะนอกจากเป็นการเรียกเงินแลกตำแหน่ง ยังมีการหักเปอร์เซ็นต์จากงบประมาณของหน่วยงานในพื้นที่ ของกรมอุทยานแห่งชาติ และนี่เองที่เป็นสาเหตุสำคัญที่เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการที่ต้องทำงานหนักแต่มีงบไม่พอ เพราะงบที่น้อยอยู่แล้วยังต้องมาหักเปอร์เซ็นต์ส่งอธิบดีอีก
Advertisement
สิ่งที่ประชาชนอยากฟังคือ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะแก้ปัญหาเรื่องพวกนี้ในกระทรวงอย่างไรไม่ให้เกิดปัญหาแบบนี้อีก ไม่ใช่แค่ตกใจพอสมควรและตั้งกรรมการสอบเท่านั้นครับ
ท่านนายกรัฐมนตรี ก็เช่นกัน เพราะตอนยึดอำนาจท่านสัญญาว่าจะเข้ามาแก้ปัญหาพวกนี้ 8 ปีผ่านไปทำไมปัญหาความโปร่งใสในวงราชการดูแล้วน่าจะหนักกว่าเดิมด้วยซ้ำ ท่านจะว่ายังไงครับ
