“2 ประธาน” ประสานเสียง บิ๊กตู่ ชิงยุบสภาก่อนหมดวาระ “ชวน” ชี้ ยุบก่อนเพียงสัปดาห์เดียว “พรเพชร” ยันไม่มีใครชักใย รับทุกคนคิดได้ ส.ว.มีสัมพันธ์ที่ดีกับ 2 ป.
เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2565 ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกระแสข่าวยุบสภา ว่า เชื่อว่าการยุบสภาจะเกิดขึ้นหลังวันที่ 28 ก.พ.2566 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของสมัยประชุมสภา ก็เป็นได้ ดังนั้น สภาชุดนี้จึงอาจจะอยู่ทำงานครบ 8 สมัยประชุม แต่จะไม่ครบเทอมในวันที่ 23 มี.ค.2566 การยุบสภาอาจเกิดก่อนเพียงสัปดาห์เดียว ดังนั้น หากในช่วง 180 วัน ไปทำอะไรที่ไม่ถูกต้อง ก็จะล้างหมด
เมื่อถามถึงการประเมินสถานการณ์การเมืองหลังปีใหม่ นายชวน กล่าวว่า ขณะนี้ยังประเมินไม่ได้ ต้องรอดูทิศทางและความพร้อมของแต่ละพรรคการเมืองอีกครั้ง ขณะนี้มีความชัดเจนเฉพาะใครอยู่ที่ไหนเท่านั้น
ด้านนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงการเมืองหลังปีใหม่ ว่า เป็นการเมืองที่เป็นไปตามระบบที่สภาอยู่ตามวาระ อาจจะยุบสภาก่อนนิดหน่อย แต่เป็นการเมืองที่ใช้ระบบรัฐสภาและหลักนิติรัฐเป็นที่น่าพอใจ ไม่ใช่ว่าเลือกตั้ง 1 ปีแล้วยุบสภา อย่างนี้ไม่ได้
ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็แก้ไปตามระบบ หรือจะแก้กฎหมายก็แก้ไป จะเห็นได้ว่ากฎหมายที่ผ่านไปนั้น ผ่านไปได้ดี ถ้าเทียบกับที่ผ่านมาต้องพูดว่าดีมาก แต่หากพูดถึงความพึงพอใจก็ถือว่าดีพอสมควร ได้ขนาดนี้ก็เยี่ยมแล้ว ที่แล้วมาเคยติดตามการพิจารณาร่างกฎหมายมาตลอด ที่ผ่านมาเดี๋ยวก็ยุบสภา เดี๋ยวก็เกิดการปฏิวัติแล้ว แต่เดี๋ยวนี้เป็นอย่างนี้ก็เป็นที่น่าพอใจแล้ว
เมื่อขอให้ยืนยันความเป็นอิสระของส.ว. ไม่มีใครสั่งการได้ตลอดการทำงาน โดยเฉพาะการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี นายพรเพชร กล่าวว่า ยืนยันได้ว่า ตนอิสระ ไม่เคยไปสั่งการใคร และตนก็ไม่พอใจที่นั่งเป็นประธานการประชุมร่วมรัฐสภาอยู่ 4 ชั่วโมง ลุกไปปัสสาวะก็หาว่าไปรับโทรศัพท์
เมื่อถามย้ำว่า ตลอดเวลาทำหน้าที่ประธานวุฒิสภา รัฐบาลขอความร่วมมืออะไรมาบ้าง นายพรเพชร กล่าวว่า ไม่มี อาจจะไม่ใช่เป็นการสั่ง แต่เมื่อกฎหมายเข้ามาแล้ว รัฐบาลก็จะสอบถามว่าจะเข้าเมื่อไหร่ เร่งหน่อยได้หรือไม่ แค่นี้ แต่การให้ส.ว.ลงมติอย่างไร มีอยู่อย่างเดียวคือเรื่องรัฐธรรมนูญ แต่เขาไม่ได้มาบอกตน ตนใช้วิจารณญาณเอาเอง
เมื่อถามว่าทั้งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เคยต่อสายหาหรือไม่ นายพรเพชร กล่าวว่า ต่อสายไม่ค่อยมี มีคุยเรื่องอื่น คุยธรรมดา แต่พล.อ.ประวิตร ท่านไม่คุยด้วย ส่วนที่ตอนนี้มีการแบ่งฝ่ายส.ว.เป็นของพล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตรนั้น เรื่องนี้มีคนประทับตราให้ ตนไม่ทราบ แต่เขามีสิทธิ์ที่จะคิดเช่นนั้น เพราะส.ว.หลายท่านก็เคารพนับถือ พล.อ.ประวิตร ตลอดมา
นายพรเพชร กล่าวต่อว่า อีกด้านหนึ่งก็ทำงานให้กับพล.อ.ประยุทธ์ ตลอดมา ก็มีสิทธิ์คิดว่าเขาจะต้องช่วยกัน และมีใจต่อกัน เป็นเรื่องธรรมดา รวมถึงคิดว่ามีคนสนับสนุนทั้งพล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร อย่างไรก็ตาม ตามรัฐธรรมนูญ ส.ว.ต้องวางตัวเป็นกลาง สำหรับตนวางตัวเป็นกลางอยู่แล้ว แต่ใครจะคิดอย่างไรก็คิดได้
