“สุทิน” มั่นใจ “ประยุทธ์” ยุบสภาก่อนหมดวาระ ยันมีเลือกตั้งแน่ โวลั่น เพื่อไทยได้คะแนนเป็นอันดับหนึ่ง คว้าเสียงส.ส.เกินครึ่งสภา
เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2565 นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงาน (วิป) พรรคร่วมฝ่ายค้าน กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองปี 2566 ว่า ในปี 2566 จะเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งแน่นอน ไม่ว่าฝ่ายพรรคร่วมรัฐบาล พรรคร่วมฝ่ายค้าน รวมถึงพรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นใหม่ จะแข่งขันกันเข้มข้นขึ้น ภาพความขัดแย้งภายในรัฐบาลจะเห็นชัดขึ้น ทวีความรุนแรงขึ้น
นายสุทิน กล่าวต่อว่า ขณะที่ฝ่ายข้าราชการประจำจะเริ่มเกียร์ว่าง ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานรัฐบาลน้อยลง ปัญหาของประชาชนจะเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น จิตใจทุกคนจะจดจ้องไปที่การยุบสภา เพื่อให้เกิดการเลือกตั้ง ท้ายที่สุดจะเกิดการเลือกตั้งภายในปี 2566 อย่างแน่นอน หากมีการเลือกตั้งกันตามระบบจนได้รัฐบาลชุดใหม่ ก็จะเป็นโชคดี แต่หากมีการบิดการเลือกตั้งจนคนทั้งในประเทศและต่างประเทศไม่ยอมรับ ประเทศก็จะรับกรรมอีกครั้ง
เมื่อถามว่า นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ระบุการยุบสภาจะเกิดขึ้นหลังวันที่ 28 ก.พ.2566 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของสมัยประชุมสภา โดยการยุบสภาอาจจะเกิดก่อนเพียงสัปดาห์เดียว นายสุทิน กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม จะยุบสภาก่อนสิ้นวาระ ซึ่งจะทำให้หลายอย่างผ่อนคลาย เช่น การปฏิบัติตามกฎหมายหลายเรื่อง ปัญหาในสภาที่ยุ่งเหยิงก็จะลดลง
“แต่ถ้าปล่อยให้สภาอยู่จนครบวาระ ก็จะมีปัญหาหลายอย่างตามมา เช่น การย้ายพรรคที่ทำได้ด้วยเวลาอันจำกัด หรือความผิดในช่วง 180 วันก่อนหมดวาระ ก็จะทำให้เกิดการร้องเรียนฝ่ายตรงข้ามกันระงม แต่ถ้ายุบสภาก่อนก็เท่ากับเป็นการเซ็ตซีโร่” นายสุทิน กล่าว
นายสุทิน กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่รัฐบาลจะพิจารณายุบสภา คือความพร้อมของรัฐบาลถือเป็นเรื่องใหญ่สุด นอกจากนี้ ปัญหาความแตกแยกภายในรัฐบาล อาจทำให้พล.อ.ประยุทธ์ ทนไม่ไหว หรือบางพรรคอาจขอถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล เหล่านี้ก็เป็นปัจจัยและเงื่อนไขทำให้เกิดการยุบสภาได้
“สำหรับพรรคเพื่อไทย เราพร้อมแล้วสำหรับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น เราพร้อมมาตลอด ยุบสภาเมื่อไหร่ พรรคเพื่อไทยพร้อมเลือกตั้งทันที พร้อมมากกว่าพรรคการเมืองอื่น และเชื่อว่าเราจะเป็นพรรคการเมืองที่ได้รับเลือกตั้งมาเป็นอันดับหนึ่ง เป็นเสียงข้างมาก ผมเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะได้ ส.ส.เกินครึ่งหนึ่งของสภา” นายสุทิน กล่าว
