วีระกร มั่นใจหลังเลือกตั้ง ภูมิใจไทย กวาดส.ส.ไม่ต่ำกว่า 120 ที่นั่ง อนุทิน ได้เป็นนายกฯต่อจาก บิ๊กตู่ หลังนั่งนายกฯได้แค่ 10 เดือน ด้วยอำนาจวุฒิสภา

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 ม.ค. 2566 ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายวีระกร คำประกอบ อดีตส.ส.นครสวรรค์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังสมาชิกพรรคภูมิใจไทยว่า คงไม่ชวนใครมาจากพรรคพลังประชารัฐ ตนย้ายมาพรรคภูมิใจไทย เหตุผล 2 ข้อ ข้อแรก เรามีความคล่องตัวการทำงานการเมืองมากกว่า เราเจอกันในสภา เป็นนักการเมือง เจอกันอยู่ตลอด มีอะไรปรึกษาหารือกันได้ตลอด แต่ถ้าอยู่พรรคเดิม อาจต้องใช้เวลาที่จะพบกับหัวหน้าพรรค ไม่ได้พบกันแบบง่ายๆ

ข้อ 2 ตนมั่นใจในนโยบายพรรคภูมิใจไทย โดยเฉพาะเรื่องที่ไม่ยอมขายหรือต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้กับผู้ถือสัมปทาน เพราะอีกไม่กี่ปีจะกลับมาเป็นของประชาชนแล้ว ซึ่งเป็นนโยบายที่ตนชอบมาก

เมื่อถามว่าได้ลาพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคเก่าหรือไม่ นายวีระกร กล่าวว่า จริงๆ ตนคุยกับพล.อ.ประวิตรมา 2-3 เดือนแล้ว พยายามอธิบายให้ท่านเข้าใจแล้วว่าตนมีปัญหา ทำงานไม่ค่อยคล่องตัว หลายเรื่องต้องรอฟังหัวหน้าพรรคก่อน การรอบางทีมันนานเกินไปมันไม่คล่องตัว ต้องเข้าตามระเบียบเขา ซึ่งไม่เหมือนนักการเมืองจะเจอกันทุกวันในการประชุมสภา

เมื่อถามว่าช่วงหลังพล.อ.ประวิตร ได้แต่งตั้งเป็น รองผอ.พรรค นายวีระกร กล่าวว่า เมื่อตนพูดไปแล้ว หัวหน้าพรรคคงเข้าใจแล้วว่าตนจะลาออกท่านจึงให้ตำแหน่งนี้มา ตนเข้าใจว่าจะเข้าพบได้ง่ายแล้ว เมื่อถามว่าฟางเส้นสุดท้ายคืออะไร นายวีระกร กล่าวว่า ฟางเส้นสุดท้ายคือท่านบอกว่า “จะทำอะไรให้มาขอผมก่อน” ตนเข้าใจการไปพบผู้ใหญ่ต้องรอ แต่นักการเมืองด้วยกันไม่ต้องรอ คล่องตัวกว่า แต่สิ่งที่คุยหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยให้ความเมตตา เข้าใจในเรื่องของเกษตรกร โดยเฉพาะเรื่องโรงงานปุ๋ย ตนมาคุยกับนายอนุทินเรื่องนี้เลยชวนตนมาช่วยพรรค

นายวีระกร กล่าวว่า เมื่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล ชวนมา ตนรู้สึกว่าพรรคภูมิใจไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแน่ ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ถ้าดูจากจำนวนส.ส.ที่จะเกิดขึ้น เรียกว่าไม่ต่ำกว่า 120 คน ส่วนพรรคพลังประชารัฐ แบ่งเป็น 2 พรรค คือเป็นพรรคพลังประชารัฐเดิม กับ พรรครวมไทยสร้างชาติ ส่วนพรรคพลังประชารัฐจะเหลือเท่าไหร่ ตนตอบไม่ได้ แต่มีส.ส.ย้ายพรรคพอสมควร ฉะนั้นยังไงพรรคภูมิใจไทยที่มีจำนวนส.สมากที่สุด

เมื่อส.ว.มีอำนาจตามมาตรา 272 ที่จะยกมือเลือกนายกฯ ได้ในรัฐสภาแล้ว คือวันที่ 6 เม.ย.2567 คือพูดง่ายๆว่า หลังจากตั้งรัฐบาลใหม่แล้วไม่ถึงปี สมมติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับเลือกจากรัฐสภาให้เป็นนายกฯต่อ ก็จะอยู่ได้โดยที่มีอำนาจวุฒิสมาชิกยกมือสนับสนุนอีกประมาณแค่ 10 เดือน ฉะนั้น ต่อจาก 10 เดือน ผมเชื่อว่าจะเป็นโอกาสของพรรคภูมิใจไทย” นายวีระกร กล่าว

เมื่อถามว่านายอนุทิน จะเป็นนายกฯต่อพล.อ.ประยุทธ์ ใช่หรือไม่ นายวีระกร กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่มีส.ส.มากที่สุด ตนมั่นใจว่านายอนุทิน จะได้เป็นนายกฯ แต่อาจจะ 1-2 ปีจากนี้ คือเป็นต่อพล.อ.ประยุทธ์เลย








Advertisement

เมื่อถามว่าถ้าอย่างนี้ไม่มีใครพิทักษ์ลุงตู่ ลุงป้อม ในสภาเหมือนแต่ก่อน นายวีระกร กล่าวว่า เราอยู่กับพรรคไหนต้องช่วยพรรคนั้น สิ่งที่ตนพูดในสภาจะปกป้องท่านหรือไม่ก็ตาม ตนปกป้องด้วยเหตุผลไม่เคยไปต่อล้อต่อเถียงกับฝ่ายตรงข้าม แต่จะพูดด้วยเหตุผลลุงตู่เขาก็มีดีทำความดีไว้เยอะท่านคงจะเห็นตอนอภิปรายจะยกย่องว่ามีผลงานที่ดี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน