พิธา เคารพการตัดสินใจนักกิจกรรมขอถอนประกันตัวเอง แนะเปิดใจรับฟัง ชี้การดำเนินคดีทางการเมือง เป็นระเบิดเวลาลูกใหญ่ ย้ำสภาสมัยหน้าต้องแก้ ม.112
เมื่อวันที่ 16 ม.ค.2566 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงน.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และ น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ 2 เยาวชนที่อยู่ระหว่างการประกันตัวในคดีมาตรา 112 ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญา เพื่อขอถอนประกันตัวเอง ว่า เมื่อเดือนพ.ค. 2565 ทนายความได้ติดต่อให้ตนเป็นนายประกันของน.ส.ทานตะวัน ต่อมาศาลอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวตามคำร้อง และแต่งตั้งให้ตนเป็นผู้กำกับดูแล น.ส.ทานตะวัน
วันนี้ อาจมีหลายคนไม่เห็นด้วยกับการขอถอนประกันตัวเอง แต่ในฐานะผู้กำกับดูแล ตนเคารพการตัดสินใจของน.ส.ทานตะวัน ตามเหตุผลที่ว่า พวกเราพร้อมแลกอิสรภาพจอมปลอมที่ศาลมอบให้ เพื่ออิสรภาพที่แท้จริงของเพื่อนเรา การดำเนินคดีการเมืองอย่างที่เป็นอยู่ กำลังจะเป็นระเบิดเวลาลูกใหญ่ที่ทำให้ความขัดแย้งทางการเมืองไม่มีทางออก ตนไม่เชื่อว่าการใช้มาตรา 112 อย่างนี้ จะเป็นผลดีต่อสถาบัน เลยแม้แต่น้อย ในทางกลับกัน การใช้ มาตรา 112 จะยิ่งสร้างความแตกร้าวระหว่างประชาชนกับสถาบันมากขึ้นไปอีก
นายพิธา กล่าวว่า นี่คือปัญหาแรกๆ ที่รัฐบาลสมัยหน้าต้องแก้ คือ 1.ยุติการดำเนินคดีการเมือง และ 2.นิรโทษกรรมนักโทษคดีการเมือง เพื่อคืนความยุติธรรม สภาสมัยหน้าควรต้องแก้ไขหรือยกเลิกกฎหมายความมั่นคงหลายฉบับ รวมทั้งมาตรา 112 อย่างน้อยต้องมีการแก้ไขบทบัญญัติ ไม่ให้กลายเป็นเครื่องมือทางการเมือง และมีความสมดุลกันระหว่างการคุ้มครองประมุขของรัฐ กับ การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน
ถึงเวลาแล้วที่เราควรหยุดแสร้งทำเป็นมองไม่เห็นสิ่งที่ไม่อยากเห็น ขอเชิญชวนให้ตั้งสติเสียใหม่ เปิดใจ ปรับมุมมองแล้วลงมือหาทางออกของประเทศไปด้วยกัน แต่ถ้าเราไม่พร้อม เราจะมองเห็นเพียงแค่ว่าผู้เป็นอนาคตของชาติเหล่านั้น เป็นภัยต่อความมั่นคง เป็นภัยคุกคามต่อสถาบัน เช่นนั้นประเทศจะไม่มีทางออก ไม่มีอนาคต เพราะพวกเราช่วยกันฆ่าอนาคตของประเทศด้วยมือของพวกเราเองแล้ว
