พปชร. คึกคัก ‘บิ๊กป้อม’เปิดนโยบายแรก ชูเพิ่มเงินบัตรประชารัฐ 700 ต่อเดือน เกทับเพื่อไทย ค่าแรง 600 ยันพร้อมสานสัมพันธ์ทุกคน พร้อมเป็นนายกฯ ถ้าประชาชนเลือก

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 17 ม.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ก่อนที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค จะแถลงเปิดนโยบายของพรรคเพื่อใช้หาเสียงเลือกตั้งครั้งหน้าว่า เป็นไปอย่างคึกคัก รัฐมนตรีของพรรคเดินทางมาเกือบทั้งหมด ได้แก่ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลังและเลขาธิการพรรค นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ประธานยุทธศาสตร์พรรค นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม และรองหัวหน้าพรรค เช่นเดียวกับกรรมการบริหารพรรค รวมถึงว่าที่ผู้สมัครส.ส. ที่มาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง

ขณะที่ด้านหน้าที่ทำการพรรคและโดยรอบพรรค ได้ติดป้ายสโลแกน และป้ายนโยบายบัตรประชารัฐ เพิ่มสวัสดิการ ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 700 บาท จำนวนมาก ทั้งนี้ มีนโยบายที่เตรียมหาเสียงครอบคลุม 16 ด้าน โดยชูนโยบายที่เป็นไฮไลท์ บัตรประชารัฐ เพิ่มเงิน-เพิ่มสวัสดิการ ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 700 บาทต่อเดือน เป็นการสานต่อนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สำหรับประชาชนไปใช้จ่ายในครัวเรือน เพื่อใช้สิทธิประโยชน์เป็นค่าโดยสารรถสาธารณะ ค่าสาธารณูปโภค ก๊าซหุงต้ม ไฟฟ้าและน้ำประปา ขณะที่นโยบายด้านอื่นจะทยอยแถลงเป็นระยะ

ป้ายหาเสียงหน้าพรรค

ป้ายหาเสียงหน้าพรรค

จากนั้นเวลา 15.30 น. พล.อ.ประวิตร และผู้บริหารพรรค ร่วมกันแถลงเปิดนโยบายแรกของพรรค คือนโยบายบัตรประชารัฐ เพื่อรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า คนไทยยังรอคอยให้คนที่มีความพร้อม เข้ามาแก้ไขปัญหาคือ สังคมไทยยังคงมีแตกแยกทางความคิด ยืนยันว่าพรรคพร้อมสานสัมพันธ์กับทุกฝ่าย เพื่อก้าวข้ามความขัดแย้ง เดินหน้าสร้างพลังแห่งความปรองดองและสามัคคี โดยเราพร้อมร่วมมือกับทุกฝ่ายหาทางออกร่วมกัน เพื่อนำประเทศไทยไปสู่เป้าหมายที่ดีที่สุดสำหรับคนไทยทุกคน โดยประเทศไทยต้องมีแต่ความสงบสุข

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การเลือกตั้งที่จะมาถึง พรรคพร้อมสานต่อนโยบายที่เป็นประโยชน์กับประชาชนที่ได้ทำไว้ และริเริ่มนโยบายใหม่ๆ ให้คนไทย จากการลงพื้นที่ ของส.ส.และว่าที่ผู้สมัคร พบว่าเงินที่ช่วยเหลือกลุ่มผู้มีรายได้น้อยไม่เกิน 1 แสนบาท เป็นเงิน 200-300 บาทต่อเดือน ยังไม่เพียงพอ ควรเพิ่มเงินช่วยเหลือ อีกประมาณ 500 บาท ทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ขอประกาศว่าพรรคพร้อมเดินหน้าจัดทำนโยบายบัตรประชารัฐ 700 บาทต่อเดือน ให้กับประชาชน และเริ่มมีผลทันที หลังจากพรรคเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ส่วนงบที่จะนำมาใช้เพื่อเพิ่มวงเงินในบัตรประชารัฐ จะนำมาจากงบประมาณในช่วง 3 เดือนสุดท้าย ของงบประมาณปี 2566 หลังจากได้รับเลือกตั้ง ทั้งนี้ หากมีผู้ได้รับสิทธิ์ ประมาณ 18 ล้านคน คาดว่าจะต้องใช้งบเดือนละ 1.2 หมื่นล้านบาท หรือ ปีละ 1.5 แสนล้านบาท” พล.อ.ประวิตร กล่าว








Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังแถลงนโยบายเสร็จ พล.อ.ประวิตร ได้แสดงสัญลักษณ์มือเป็นเลข 7 ก่อนทั้งหมดถ่ายภาพร่วมกัน โดยแสดงสัญลักษณ์มือเป็นเลข 7 เพื่อสื่อถึงนโยบายบัตรประชารัฐ 700 บาท
พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมเป็นนายกฯคนที่ 30 ว่า “ก็เลือกมาดิ ถ้าเลือกได้ก็เป็น ถ้าประชาชนเลือกได้ให้ผมเป็น ผมก็เป็น” ทำให้แกนนำพรรค ต่างส่งเสียงเฮกันดังลั่นห้อง

พปชร.คึก ‘ป้อม’เปิดนโยบายแรก ชูเพิ่มเงินบัตรประชารัฐ 700 บาท เกทับเพื่อไทย

พปชร.คึก ‘ป้อม’เปิดนโยบายแรก ชูเพิ่มเงินบัตรประชารัฐ 700 บาท เกทับเพื่อไทย

เมื่อถามว่าพร้อมจับมือกับทุกพรรคใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เราก้าวข้ามความขัดแย้ง ไม่ได้บอกว่าจะจับมือกับใครเลย ทุกพรรคเรามาคุยกันได้ เปิดโอกาสให้คุยกันได้

จากนั้นนายสันติ กล่าวว่า พรรคได้ดำเนินการเรื่องนโยบายบัตรประชารัฐมาเกือบ 4 ปีแล้ว เป็นบัตรช่วยเหลือประชาชนในระดับฐานราก กลุ่มเปราะบาง มีผู้ได้รับการช่วยเหลือเยียวยาจากบัตรประชารัฐ 14.6 ล้านคน แต่หัวหน้าพรรค เห็นว่า เงิน 200 หรือ 300 บาทที่ให้กับประชาชนกลุ่มเปราะบาง และผู้มีรายได้น้อยนั้น น้อยเกินไป จึงดำริว่านโยบายบัตรประชารัฐ 700 บาท โดยพรรคพลังประชารัฐ จะทำทันทีเมื่อพรรคเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล และพล.อ.ประวิตร ได้เป็นนายกฯคนที่ 30

ทั้งนี้ นโยบายดังกล่าวเป็นนโยบายช่วยเหลือประชาชนในทุกพื้นที่ ให้เกิดความเสมอภาคและเพิ่มการแข่งขัน ช่วยเหลือเยียวยาระดับหนึ่ง และหลังจากนี้จะมีนโยบายสำคัญที่ดูแลประชาชน พัฒนาบ้านเมือง เพิ่มศักยภาพแข่งขันออกมาต่อไป

ด้านนายวิรัช กล่าวว่า พรรคจะสานต่อนโยบายเดิม นโยบายเพิ่มเงิน 700 บาท ยืนยันว่าหลังเลือกตั้ง เดือนพ.ค. จากนั้น เดือนมิ.ย. จะได้ใช้เลยทั่วประเทศ ซึ่งนโยบายยังไม่หมด เราจะเปิดไปเรื่อยๆ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ พรรคเพื่อไทย ได้แถลงเปิดนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อเดือน ในปี 2570 หากพรรคได้เป็นรัฐบาล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน