‘ตะวัน-แบม’ ขอยกระดับการต่อสู้ ไม่รับโพแทสเซียม แม้เสี่ยงหัวใจหยุดเต้น หลังรู้ว่าเพื่อนไม่ได้ประกัน ยืนยันทำด้วยใจ เพื่อให้สังคมเปลี่ยนแปลง

26 ม.ค. 2566 – ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เผยแพร่คำชี้แจงกรณีทนายความของ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ “ตะวัน” และ น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ หรือ “แบม” เกี่ยวกับรายละเอียดอาการและการเข้าพบทั้ง 2 คน หลังได้เข้าเยี่ยมในช่วงบ่าย ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์

วันนี้ตะวันและแบมได้ย้ายห้องแล้ว เนื่องจากมีการก่อสร้างทางฝั่งห้องเดิม ซึ่งมีเสียงดังทำให้ได้รับการย้ายห้องไปอยู่ห้องอื่น ทั้งคู่นอนอยู่ด้วยกันบนเตียงเดี่ยวและใส่เสื้อหนาวไหมพรม

คำถามแรกของทั้งคู่คือ ตกลงศาลให้ประกันตัวไหม ? ตกลงมีเพื่อนได้ประกันไหม ? ซึ่งทนายความได้แจ้งตอบว่า ไม่มี พร้อมกันนั้นยังได้รายงานรายละเอียดคำสั่งประกันของศาลอาญา ซึ่งยกทุกคำร้องในวันนี้ให้ทั้งคู่ฟัง

จากการสังเกตพบว่า ขณะนี้ทั้งคู่มีปากแห้งทั้งหมด ใบหน้าขาวซีด สอบถามอาการพบว่าในตอนนี้ หากจะลุกไปไหนต้องใช้เครื่องช่วยพยุง ต้องใช้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ช่วยพยุง โดยทั้งคู่จะเหนื่อยง่าย มีอาการเหนื่อยหอบทุกครั้งที่ขยับตัว และรู้สึกเหนื่อยทั้ง ๆ ที่นอนอยู่เฉย ๆ

ตะวันมีอาการบวมบริเวณใต้คอ ระหว่างคอ และกราม สอบถามแพทย์คาดว่าเป็นต่อมน้ำเหลือง ซึ่งหากบวมกว่านี้อาจจะต้องตรวจ เนื่องจากเสี่ยงติดเชื้อ

ตะวัน และ แบม มีอาการปวดท้อง ลมตีขึ้นลิ้นปี่ เป็นการปวดท้องทรมานเป็นระยะ ๆ อยู่ทั้งวัน และจากความทุกข์ทรมานด้านการปวดท้อง ทำให้ตกลงยอมที่จะรับยาลดกรดเพื่อลดความทรมานจากการปวดท้องลง ทำให้สามารถหลับได้บ้าง

นอกจากนี้ ทั้งคู่มีอาการโพแทสเซียมต่ำ และได้รับแจ้งว่าอยู่ในเกณฑ์ความเสี่ยงหัวใจหยุดเต้น โดยในวันนี้แบมได้รับโพแทสเซียม แต่ตะวันปฏิเสธไม่รับโพแทสเซียม และทั้งคู่ยังยืนยันไม่รับน้ำ ไม่รับอาหาร ไม่ต่อสายน้ำเกลือ ไม่รับวิตามินเกลือแร่ ไม่รับน้ำหวาน หรือการให้อาหารทางหลอดใด ๆ และไม่รับการรักษา

หลังจากได้รับการแจ้งรายงานผลการประกันตัวนักโทษทางการเมืองรายอื่น ทั้งคู่ได้แจ้งว่ามีความต้องการที่จะยกระดับการต่อสู้คือ จะไม่รับโพแทสเซียมอีกต่อไป ซึ่งเบื้องต้นทนายความได้แจ้งว่าขอให้รอผลอุทธรณ์ในคดี ที่ได้มีการยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันไปก่อน

ทั้งสองคนอยากสื่อสารกับภายนอกว่า กำลังใจของพวกตนดีมาก มีความรู้สึกว่ากำลังใจยังสดใสยังสู้อยู่ แต่ร่างกายไม่รู้ไหวถึงไหน ซึ่งทั้งคู่รู้มาตลอดว่าทุกวินาทีคือการนับถอยหลังของการมีชีวิต แต่ต่อให้รู้ก็สู้อีก และ “พวกหนูอยู่ได้ ที่พวกหนูทำคือใจล้วน ๆ มันคือสิ่งที่คนข้างบนไม่มีทางรับรู้ คนข้างบนมันมีแต่แก่งแย่งอำนาจและผลประโยชน์ แต่พวกหนูทำด้วยใจ ทำเพื่อให้สังคมเปลี่ยนแปลงจริง ๆ”

ทั้งคู่ยังฝากขอบคุณคนภายนอก โดยตะวัน กล่าวว่า “ขอบคุณที่เป็นห่วง แต่เจตนารมณ์ยังเหมือนเดิม ไม่ได้เกี่ยวกับทนายความ หรือบุคคลใดอื่น พวกหนูตัดสินใจกันเอง และจะไม่ให้ค่าอะไร”

ส่วน แบม ได้กล่าวว่า “สิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่คือการโทษเหยื่อ ควรไปโทษต้นตอของปัญหา ซึ่งไม่ใช่แบม กับตะวัน”

แบม และตะวัน ยังกล่าวต่อไปอีกว่า พวกหนูอยากบอกว่าเชื่อใจทุกคน เชื่อใจว่าถ้าวันหนึ่งเราชนะ เราจะได้เจอกันที่ปลายทาง รู้ว่าความทรมานของพวกหนูคือความทรมานของทุกคน แต่ขอให้ทุกคนเชื่อใจพวกหนู และพวกหนูก็เชื่อใจทุกคนข้างนอก

อนึ่ง ทั้งคู่ได้แจ้งความจำนงค์ให้ทนายความสื่อสารต่อไปว่า สำหรับกรณีแบม และตะวัน จะไม่มีการขอรับบริจาคใด ๆ และไม่ต้องการให้มีการบริจาคใด ๆ ในนามของทั้งคู่ และขอให้ทุกคนเอาปัจจัย หรือแรงกำลังไปช่วยเหลือบุคคลอื่นที่ยังขาดแคลน และมีความต้องการมากกว่าพวกตน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน