เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 10 ก.พ. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย นำโดยนายรังสิมันต์ โรม นศ.ธรรมศาสตร์ นัดหมายแนวร่วมโดยเป็นกลุ่มนักศึกษา นักวิชาการ นักกิจกรรมสังคม เดินทางมาแสดงพลังขับไล่คสช. โดยใช้ชื่อ “หยุดยื้อเลือกตั้ง หยุดสืบทอดอำนาจ”

โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ทหารร่วมปิดกั้นการชุมนุมทุกช่องทาง โดยนำกระถางต้นไม่นานาพันธุ์จัดวางเรียงรายไว้ในลานอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย รวมถึงรั้วกั้นโดยรอบอีกชั้น เพื่อไม่ให้ใครเข้าไปในพื้นที่ พร้อมรถกระจายเสียงประชาสัมพันธ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งจุดคัดกรองบริเวณหน้าร้านแม็กโดนัลด์ และบริเวณโดยรอบถนนราชดำเนินกลาง ที่จะมุ่งหน้าเข้ามาอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย รวมทั้งสิ้น 10 จุด โดยเจ้าหน้าที่จะกำชับให้เน้นการตรวจบัตรประชาชน ส่วนอาวุธและอุปกรณ์ที่เป็นสัญญลักษณ์ในการชุมนุมห้ามเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด

ต่อมาเมื่อเวลา 15.30 น. เจ้าหน้าที่นำกำลังตำรวจกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (บก.อคฝ.) ราว 3 กองร้อย นำกำลังยืนคุมสถานณ์ บริเวณหน้าร้านแม็กโดนัลด์ ซึ่งระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ได้เชิญผู้สื่อข่าวออกนอนพื้นที่รั้วกั้น ไม่ให้เข้าไปปะปนกับผู้ชุมนุม

ทั้งนี้ ยังพบว่ากลุ่มผู้ชุมนุมได้ตะโกนด่าท่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในเรื่องการตรวจบัตรประจำตัวประชาชนว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมถึงการแสดงสัญญลักษณ์ เสรีภาพ อิสรภาพ ภราดรภาพ และยังมีการตะโกนคัดค้านคสช. และให้มีการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด

ด้าน พ.ต.อ.พิทักษ์ สุทธิกุล ผกก.สน.ชนะสงคราม เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูแลความปลอดภัยโดยได้จัดมาตรการตรวจสอบคัดกรองบุคคล เพราะเกรงว่าอาจจะมีการสร้างสถานการณ์ หรือมีมือที่สาม จึงตั้งจุดคัดกรองเพื่อขอตรวจบัตรประชาชน ในฝั่งพื้นที่สน.ชนะสงคราม ตั้งจุดคัดกรองไว้ 3 จุด ทั้งนี้ทางกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 เตรียมกำลังตำรวจไว้ 2 กองร้อย 300 นาย และด้เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสำรองไว้กรณีมีเหตุเกิดขึ้น โดยเข้าประจำการณ์ตั้งแต่เวลา 12.00 น. จนกระทั่งเหตุการณ์ปกติ อย่างไรก็ตาม มีตำรวจจากสน.ชนะสงคราม สน.สำราญราษฎร์ และสน.นางเลิ้ง มาคอยดูแลความสงบเรียบร้อย และอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ซึ่งมีพล.ต.ต.ดุสิต สมศักดิ์ ผบก.น.6 เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ อย่างไรก็ตามทางกลุ่มดังกล่าวได้ขออนุญาตทำกิจกรรมตั้งแต่เวลา 16.00-21.00 น. และหากพบแกนนำ 3 คนที่ถูกออกหมายจับเจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการตามกฎหมาย

เวลา 16.00 น. น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว นักกิจกรรมกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย กล่าวว่า การชุมนุมวันนี้ได้ขออนุญาตตามพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ แล้วแต่เจ้าหน้าที่กลับมาปิดกั้น ดังนั้น ผู้ชุมนุมจะเคลื่อนย้ายออกจากจุดที่แจ้งไว้ โดยขอความร่วมมือผู้ชุมนุมว่าจะรวมตัวกันอย่างสันติ ไม่หยาบคาย ไม่ปิดกั้นการจราจร จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้เคลื่อนย้ายมายังทางเท้าริมอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ฝั่งมุ่งหน้าสะพานผ่านฟ้าลีลาศและตัวแทนกลุ่มใช้เครื่องขยายเสียงปราศรัยถึงเรื่องการเลือกตั้ง

ต่อมา นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว แกนนำกลุ่มสตาร์ทอัพ พีเพิ่ล ปราศรัยว่า เจ้าหน้าที่เนรมิตอนุเสาวรีย์ประชาธิปไตยให้กลายเป็นสวน เราเข้าไม่ได้ แต่ไม่เป็นไร สักวันเราจะเข้าไปยืนอย่างภาคภูมิ สิ่งที่เราเรียกร้องคือการเลือกตั้งปีนี้ ไม่ใช่ปีหน้า เราใช้สิทธิตามประชาธิปไตย แต่โรดแม็ปของคสช. ยืดไปยืดมา ตอนี้อยู่มาแล้ว 4 ปี และมีแนวโน้มจะต่ออีก ถ้าอยากรู้คนจะมาร่วมเรียกร้องเยอะกว่านี้หรือไม่ ขอให้ลองยกเลิกมาตรา 44 จะเห็นว่าคนจะมาเต็มราชดำเนินแน่นอน ผู้ชุมนุมเมื่อวันที่ 27 ม.ค. ต้องเจอหมายเรียก หมายจับ วันนี้ขอประกาศคิกออฟขับไล่เผด็จการไปด้วยกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีการยืนถือป้ายผ้าข้อความว่า “หยุดสืบทอดอำนาจหยุดยื้อเลือกตั้ง” พร้อมทั้งตะโกน “คสช.ออกไป” สลับกับ “เลือกตั้ง เลือกตั้ง” อย่างต่อเนื่อง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน