‘สาธิต’ ชี้แก้กฎยาบ้า 2 เม็ด เท่ากับผู้ขาย ห่วงปราบปรามรุนแรง หวั่นเกิดอุ้มฆ่าเหมือนสมัย ‘ทักษิณ’ เผยยังไม่ได้ศึกษา ตอบไม่ได้เห็นด้วยหรือไม่
วันที่ 30 ม.ค. 2566 นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงการจะแก้กฎกระทรวงเพิ่มโทษ โดยกำหนดครอบครองยาบ้า 1 เม็ด เป็นผู้เสพ และ 2 เม็ดขึ้นไปเป็นผู้ค้า ว่า ทางกฎหมายผู้จำหน่ายยาเสพติด จะหมายถึงจำหน่าย จ่าย แจก ซึ่งตอนนี้กฎหมายกำหนดให้ 15 เม็ดขึ้นไปถือเป็นผู้จำหน่าย โดยจะต้องดูพฤติการณ์ด้วย เช่น มีครอบครอง 2 เม็ดแล้วแบ่งให้เพื่อน 1 เม็ด ถือว่าจำหน่ายแล้ว ซึ่งโทษของการจำหน่ายสูงกว่าการเสพ
นายสาธิต กล่าวต่อว่า ขณะที่หลักการคิดว่าผู้เสพคือผู้ป่วย จะมีปัญหาเรื่องผู้ที่ถูกจับกุมสมัครใจไปบำบัดฟื้นฟู ดังนั้นการแก้ไขปัญหายาเสพติดต้องร่วมกับครอบครัว สภาพสังคม ชุมชน และกฎหมาย ทุกอย่างต้องทำเป็นระบบ เพื่อให้เกิดความยั่งยืนระยะยาว
“ถ้ามองในแง่กฎหมาย มีโทษเด็ดขาด รุนแรง จะเหมือนกับปราบปรามสมัยท่านทักษิณในอดีต การค้าขายลดลง แต่การใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่นำมาสู่การอุ้มฆ่าแล้วไปเจอผู้บริสุทธิ์ เป็นผลกระทบอีกทางหนึ่ง แต่ในระยะยาวไม่สามารถหยุดปัญหาได้ด้วยความรุนแรง”
นายสาธิต กล่าวอีกว่า หลักการให้ผู้เสพติดถือเป็นผู้ป่วยที่ต้องได้รับการบำบัดเป็นเรื่องที่ดีตามหลักการอาชญาวิทยา เพื่อให้ผู้ที่ได้รับโทษกลับมารับใช้สังคมได้ ดังนั้น หากเขาครอบครองไม่มากเกินไป ถือว่าเป็นผู้ป่วย บำบัดแล้วมาใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไป ก็เป็นเรื่องที่ดี แต่อาจเป็นปัญหาเชิงปริมาณ ทั้งนี้ มีแนวคิดว่าการตัดวงจรธุรกิจ จะลดปัญหาการค้าและเสพ แต่ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน ต้องมีการพูดถึงกันในอนาคต
เมื่อถามว่าที่ผ่านมาพบผู้บำบัดยาเสพติดสูงขึ้น อาจเกิดจากผู้ค้าอ้างว่าเป็นผู้เสพ เพื่อลดโทษทางกฎหมายหรือไม่ นายสาธิต กล่าวว่า จะต้องไปศึกษาว่าเป็นการใช้ช่องว่างทางกฎหมายหรือไม่ เพราะทั้งหมดเป็นกฎหมาย เราต้องไปแก้ไขที่วินัยของผู้บังคับใช้กฎหมายด้วย ต้องไม่เห็นแก่พวกพ้อง
เมื่อถามว่าเห็นด้วยกับการปรับแก้กฎหมายให้ 1 เม็ดเป็นผู้เสพ และ 2 เม็ดขึ้นไปคือผู้จำหน่ายหรือไม่ นายสาธิต กล่าวว่า ยังไม่เห็นตัวร่าง จึงบอกไม่ได้ว่าเห็นด้วยหรือยังไม่เห็นด้วย เพราะยังไม่ได้ศึกษาเพียงพอ แต่ขอให้สังเกตในฐานะนักกฎหมาย
