“จุรินทร์” ยัน เสียงตอบรับ ปชป. จากคนกรุงดีขึ้น มั่นใจคัมแบ็กสนาม กทม. ได้แน่ เผย มีนโยบายเฉพาะ กทม. หวัง กกต. แบ่งเขตเลือกตั้งยุติธรรมกับทุกพรรค
เมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2566 ที่ศูนย์อำนวยการเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์ เขตหลักสี่ กทม. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงความพร้อมการเลือกตั้งในพื้นที่กทม. ว่า พรรคประชาธิปัตย์มีความพร้อมในการเปิดตัวผู้สมัครส.ส. เพียงแต่รอเวลาที่เหมาะสม ขณะนี้ทยอยเปิดในหลายภาค เกือบ 90% แล้ว โดยในพื้นที่ภาคใต้จะมีการเปิดตัว ที่จ.นครศรีธรรมราช อีก ในวันที่ 11-12 ก.พ.นี้
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ในส่วนของกทม. ถือว่ามีความสำคัญ โดยวางตัวผู้สมัครทั้ง 30 เขตแล้ว เหลือเพียงอีก 3 เขตที่ยังไม่ได้เคาะตัวผู้สมัคร เพราะยังไม่มีความชัดเจนว่าจะแบ่งพื้นที่อย่างไร ซึ่งใน 3 เขตนี้ มีผู้แจ้งความจำนงลงสมัครเลือกตั้งอีก 10 คน โดยจะต้องเลือกผู้สมัครที่ดีที่สุด ยืนยันว่าในตัวบุคคลมีความพร้อม เพียงแต่รอเวลาที่เหมาะสม
“สำหรับกทม. จะมีนโยบายเฉพาะ แต่อยู่ในกรอบของนโยบาย ‘สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ’ ที่ได้เปิดตัวไปแล้ว ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์มีความมั่นใจสนามเลือกตั้งในกรุงเทพฯ ครั้งที่แล้วเป็นเพียงครั้งเดียวที่พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้รับเลือกตั้งเลยสำหรับส.ส. แต่หลังจากนั้นมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และส.ก. ซึ่งเสียงตอบรับดีมาก ถือเป็นสัญญาณที่ทำให้เห็นว่าชาวกทม. กลับมาต้อนรับประชาธิปัตย์อีกครั้ง” นายจุรินทร์ กล่าว
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า โดยนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ แม้ไม่ได้รับเลือกให้เป็นผู้ว่าฯ กทม. แต่มีคะแนนเป็นอันดับ 2 ขณะที่ ส.ก. จากที่คนคิดว่าประชาธิปัตย์คงจะสูญพันธุ์แล้ว แต่ก็ไม่ได้เป็นแบบนั้น จึงมั่นใจว่าชาวกทม. กลับมาให้โอกาสพรรคประชาธิปัตย์มากขึ้น พรรคประชาธิปัตย์จะคัมแบ็กอย่างแน่นอน
เมื่อถามว่า ระเบียบการแบ่งเขตเลือกตั้งแบบใหม่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีความหนักใจหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับผลการทำประชาพิจารณ์ และการตัดสินใจขั้นสุดท้ายของกกต. แต่เราก็อยากเห็นการแบ่งเขตที่เหมาะสม และยุติธรรมกับทุกพรรคการเมือง
เมื่อถามว่า ในพื้นที่กทม. จาก 33 เขต ตั้งเป้าไว้อย่างน้อยกี่ที่นั่ง นายจุรินทร์ กล่าวว่า ได้ตั้งเป้าไว้ แต่คงไม่สูง และต้องได้มากกว่าเดิมแน่นอน ซึ่งเขตหลักสี่ก็เป็นอีกหนึ่งพื้นที่เป้าหมาย โดยพล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ หรือรองแต้ม ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตหลักสี่ มีบทบาทสำคัญ ที่ไม่ทิ้งชุมชนเขตหลักสี่ มีผลงานต่อเนื่องตลอด 4 ปีเต็ม รวมถึงบทบาทภาพรวมในประเทศ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาอาชญากรรม และยาเสพติด เป็นสิ่งที่ชุมชนทั่วประเทศพึ่งพิงได้
