ก้าวไกล จัดหนักศึกซักฟอก “โรม” ลั่น มีหลักฐานคาหนังคาเขา จ้องถลกวงการตำรวจ เย้ย “บิ๊กตู่” แน่จริงให้อยู่ฟังจนจบ เผย ข้อมูล “ชูวิทย์” แผนที่นำทางพบข้อมูลอื่น

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 10 ก.พ. 2566 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการเตรียมการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 จะส่งผลต่อการตัดสินใจการเลือกตั้งของประชาชนอย่างไร ว่า แน่นอนว่าส่งผลต่อการตัดสินใจของประชาชน เพราะการอภิปรายครั้งนี้ เราเตรียมระดับเอาไว้เท่ากับการอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า เพราะการอภิปรายตามมาตรา 152 ไม่สามารถลงมติได้ แต่เชื่อว่าการลงมติครั้งสำคัญกำลังรอเราอยู่ และการอภิปรายครั้งนี้เป็นการอภิปรายที่สำคัญ ซึ่งพรรคก้าวไกลเตรียมขุนพลไว้จำนวนมาก ส่วนพรรคเตรียมผู้อภิปรายไว้กี่คนนั้น วันที่ 13 ก.พ. จะชัดเจนว่ามีผู้อภิปรายจำนวนเท่าใด เพราะหลักฐานบางอย่างจะมาถึงในวันนั้น จึงต้องรอดูก่อน

“ผมได้ยินมาว่า ส.ส.บางท่าน มีพยานหลักฐานมาก จนอภิปรายคนเดียวไม่ไหว ต้องแบ่งให้คนอื่นช่วยอภิปราย ดังนั้น เรื่องของพยานหลักฐานและข้อมูล จะเป็นหนึ่งในครั้งที่ดีที่สุดของพรรคก้าวไกล เพื่อให้ประชาชนเป็นคนตัดสิน โดยไฮไลต์สำคัญมีหลายเรื่อง แต่จำนวนไม่น้อยจะเกี่ยวกับเรื่องความผิดพลาดและการทุจริตคอร์รัปชั่น

มั่นใจว่าข้อมูลครั้งนี้ มันคาหนังคาเขาจริงๆ หลังจากที่อภิปรายเสร็จ จะดำเนินการทางกฎหมายด้วย แม้ในพ.ศ.นี้ ที่รัฐบาลนี้อาจจะยังมีอำนาจกับการดำเนินทางการกฎหมาย แต่เราคิดว่าอย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวล แม้อาจจะช้า แต่ประชาชนสามารถถอนคนที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตคอร์รัปชั่นผ่านการเลือกตั้งออกไปได้ เชื่อว่ากลไกทางกฎหมายจะเดินต่อไป” นายรังสิมันต์ กล่าว

เมื่อถามว่าพรรคก้าวไกล จะเน้นหนักประเด็นตำรวจหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า การอภิปรายเรื่องนี้น่าจะมาจากหลากหลายพรรคการเมือง เพราะเป็นหนึ่งในวาระสำคัญ เรื่องตำรวจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม รับผิดชอบเต็มๆ เพราะเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของตำรวจ แต่จะกระทบชิ่งไปถึงรัฐมนตรีคนอื่นหรือไม่ต้องจับตาดู ทั้งนี้ คงไม่อภิปรายแค่เรื่องตำรวจเท่านั้น เพราะถ้ามีหลักฐานชัดจะมีเรื่องอื่นด้วย แต่ยอมรับว่าบางเรื่อง ถ้ายังหาหลักฐานมัดตัวไม่ได้ อาจจะต้องเก็บไว้ก่อน แต่เราเชื่อว่าความชั่วร้ายที่รัฐบาลนี้ก่อเอาไว้ ไม่ช้าก็เร็วจะต้องปรากฏ

เมื่อถามว่า ข้อมูลที่ได้จากนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ถือว่าเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากเพียงใด นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ถือเป็นแผนที่สำคัญที่ทำให้ตนไปเจออีกหลายอย่าง ส่วนจะนำไปอภิปรายหรือไม่ต้องรอดู

เมื่อถามถึงกรณีพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ระบุหากพรรคร่วมฝ่ายค้านอภิปรายซ้ำซาก จะไม่อยู่ร่วมรักษาองค์ประชุม นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ยืนยันว่าการอภิปรายครั้งนี้ไม่ซ้ำแน่นอน ตนได้พบนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย ที่เป็นประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย สภาฯ และได้บอกไปแล้วว่า ไหนๆ นายกฯ ก็ดุนายศุภชัยแล้ว ก็มาเป็นองค์ประชุมให้ฝ่ายค้านหน่อย เราจะได้ทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ โดยยืนยันกับนายศุภชัยแล้วว่าไม่มีซ้ำซากแน่นอน มีแต่ใหม่ แต่หัวใจอาจจะวาย








Advertisement

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ถ้าพรรคภูมิใจไทยกังวลเรื่องอภิปรายซ้ำซาก อย่างนั้นพรรคภูมิใจไทยต้องรีบเข้าประชุม เพราะไม่มีซ้ำซาก แต่ตนเป็นห่วงว่าจะมีการตีรวน และใช้เทคนิคเพื่อไม่เข้าประชุม หรือขอนับองค์ประชุม เหมือนที่เกิดขึ้นกับการผ่านกฎหมายต่างๆ ที่ผ่านมา

เมื่อถามว่า จะฝากให้รัฐบาลเตรียมตัวอย่างไรหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า สิ่งที่เราต้องการมากที่สุดคือให้รัฐบาลชี้แจง เพราะทั้งหมดเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ถ้ารัฐบาลมั่นใจว่าตัวเองแน่จริงก็มาเจอกัน ไม่ใช่หนีสภาฯ และขอให้พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ฟังตอนตนอภิปรายด้วย ถ้าทำได้ ประชาชนจะให้ความมั่นใจต่อตัวท่าน แต่ท่านจะกล้าหรือไม่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน