บิ๊กตู่ ย้อน เพื่อไทย ปม ตู้ห่าว รัฐบาลนี้ไม่มีนโยบายขายบ้านแถมสัญชาติ โวยังไม่มีรัฐมนตรีของตนเองติดคุกสักราย เหน็บ ‘อมรัตน์’ มีปัญหากับกม.อยู่คนเดียว

เมื่อเวลา 12.10 น. วันที่ 16 ก.พ.2566 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ใช้สิทธิ์ชี้แจงประเด็นที่สมาชิกพรรคฝ่ายค้านอภิปราย กรณีพฤติกรรมของนายตู้ห่าว หรือ ชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ โดยระบุย้อนไปว่า พฤติกรรมเหล่านี้เกิดขึ้นมานานพอสมควร ก่อนปี 57 ตัวนายตู้ห่าว เข้ามาตั้งแต่ปี 54 และมีการอนุมัติเรื่องสัญชาติตั้งแต่ปี 54 กระบวนการเรื่องสัญชาติดำเนินมาเรื่อยจนถึงรัฐบาลปัจจุบัน เมื่อเสนอมาตรวจสอบแล้วถูกต้องจึงอนุมัติตามขั้นตอนกฎหมาย

ทั้งนี้ พฤติกรรมที่เกิดขึ้นในวันนี้ ตนสงสัยว่าที่ผ่านมาไม่มีใครทราบเลยหรือ วันนี้มีการให้ข้อมูลจากประชาชน ตนรับมาทุกเรื่องให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวน ตนไม่อยากโทษใคร มันอาจจะถูกปล่อยปละมานานแล้ว เงินเหล่านี้ตนย้อนกลับไปให้สอบสวนกลับมาว่าใช้กันอย่างไร จึงทราบว่าได้ใช้ซื้อกิจการอสังหาริมทรัพย์ เรียกว่ายกหมู่บ้าน ไม่รู้ว่าบริษัทของใครเหมือนกัน แต่รัฐบาลนี้ไม่มีแน่นอนเรื่องขายบ้านแล้วแถมสัญชาติให้

ถ้าไปตรวจสอบดีๆ ภรรยานายตู้ห่าว ก็เกี่ยวข้องกับอดีตรัฐมนตรีบางพรรค ยืนยันว่าตั้งแต่ต้นที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ มาพบตน ก็ได้รับฟังท่านแล้วส่งข้อมูลให้ตำรวจดำเนินการทันที หลักนิติธรรมก็ต้องมี ตนทำถูกต้องแต่อาจไม่ถูกใจทุกคน การดำเนินการอยู่ในขั้นตอน มีทั้งเปิดเผยได้และเปิดเผยไม่ได้

พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงถึงการออกหมายเรียก นายอุปกิต ปาจรียางกูร ส.ว.ว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ได้สืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้อง และขยายผลดำเนินคดีได้หลายราย ที่สมาชิกอภิปรายว่ามีส.ว.เข้าไปเกี่ยวข้องพัวพัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ และตามกฎหมาย ป.วิอาญา

ส่วนการเพิกถอนหมายจับเป็นดุลยพินิจฝ่ายตุลาการ ซึ่งมีความเห็นให้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกก่อน เรื่องนี้ตนไม่ขอเข้าไปก้าวก่าย ไม่ได้ช่วยเหลือใคร นี่เป็นกระบวนการทางกฎหมาย ไม่ใช่หน้าที่ฝ่ายบริหาร เป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรม ไม่มีใครเอื้อประโยชน์ช่วยเหลือได้

พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงประเด็นธุรกิจจีนสีเทาผับจินหลิง ว่า เรื่องนี้ตำรวจนครบาลสืบสวนสอบสวน ตรวจค้น จับกุม และขยายผล ได้ผู้ต้องหาหลายสิบราย บางรายที่หลบหนีมีการออกหมายจับ และอยู่ระหว่างติดตามจับกุมมาดำเนินคดี ส่วนที่พูดว่ามีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องพัวพัน ผู้บังคับบัญชาได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวน ออกคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว รายใดมีความผิดอาญาด้วยก็ดำเนินคดีอาญาตามกฎหมาย








Advertisement

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงข้อกล่าวหาต่อการทุจริตคอร์รัปชั่นว่า ปัญหาคอร์รัปชั่นที่อภิปราย หลายท่านก็ยังกล้าพูดออกมา รัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรีหลายคนก็มีปัญหาเรื่องคอร์รัปชั่นติดคุกหลายคน ไปต่างประเทศก็มี แต่ตั้งแต่รัฐบาลปี 57 ของตนยังไม่มีรัฐมนตรีติดคุกสักราย นี่คือข้อเท็จจริง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงประเด็นพรรคก้าวไกลเสนอให้แก้ไขกฎหมาย โดยเฉพาะประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่า เรื่องนิรโทษกรรมเป็นเรื่องของสภา หากถาม ตนไม่เห็นด้วย เพราะมีเรื่องอภัยโทษ และรู้สึกว่าท่านมีปัญหากับกฎหมายทุกฉบับ หากยกเลิกแล้วจะปล่อยให้คนอยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง สิ่งที่เด็กอายุ 14 ปีออกมา ขอถามว่าออกมาได้อย่างไร เขาควรเรียนหนังสือ รักครอบครัว ออกมาด้วยอะไรไม่รู้ หรือมีคนแอบอยู่ข้างหลังตัวเองไม่โดนคดีอะไร หรือโดนแล้วมีสิทธิ์คุ้มครองก็ว่ากันไป

“ผมขอบคุณทุกคนที่ทำให้บ้านเมืองไม่แตกแยก หากเราแตกแยกวันหน้าไปไหนไม่ได้ เราพยายามทำให้เมืองไทยก้าวไปสู่อนาคต ผมไปต่างประเทศ ผู้นำประเทศอื่นไม่รังเกียจผม ชื่นชมการแก้ไขปัญหา เช่น โควิด-19 ตอนนี้ท่านแยกคนทุกกลุ่มทุกฝ่ายไปหมดแบบนี้ ไม่ใช่ประชาธิปไตยที่ถูกต้อง คือ สิทธิ เสรีภาพ หน้าที่ โดยไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่น เด็กของเราถูกบิดเบือน วันหน้าท่านต้องรับผิดชอบ”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายกฯ ชี้แจงเสร็จสิ้น นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ลุกขึ้นเพื่อซักถามนายกฯ อีกครั้ง เนื่องจากยังไม่ชี้แจงหลายประเด็น และอยากให้นายกฯ พูดให้ชัดเจนว่ากรณีนายอุปกิต จะทำอย่างไร และที่ตั้งของพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่นายกฯสังกัดอยู่ เกี่ยวข้องกับนายอุปกิตต้องทำอย่างไร ส่วนนายตู้ห่าว ที่บอกว่าเกี่ยวข้องกับคนนั้นคนนี้ ขอให้จัดการด้วย รวมถึงขอให้จัดการ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เพราะมีความเกี่ยวข้อง และสุดท้ายขอทราบแนวทางการจัดการนายหยู ซินฉี ที่แอบอ้างสถาบัน และนายกฯด้วย แต่นายกฯได้เดินลุกออกจากห้องไปแล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน