พิธา เคลียร์ใจ ปิยบุตร ไม่มีอะไรค้างคา ย้ำทำงานร่วมกันต่อได้ มั่นใจจะไม่เกิดขึ้นอีก ยันไม่เหนื่อย-ไม่ท้อ เป็นบุคคลสาธารณะหลีกเลี่ยงถูกวิจารณ์ไม่ได้

เมื่อเวลา 12.10 น. วันที่ 23 ก.พ.2566 ที่รัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุการเกิดวิวาทะกับนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้าว่า สั้นๆคือการถอยเพื่อก้าวกระโดด และมีเรื่องที่ไม่เข้าใจกัน แต่เมื่อปรับความเข้าใจกันแล้ว ก็ทำงานร่วมกันต่อไปได้ มั่นใจว่าเวลาที่เหลือ สามารถสู้ศึกการเลือกตั้งได้อย่างเต็มที่ และหวังว่าเราสามารถทำงานไปสู่เป้าหมายเดียวกันได้ การเมืองย่อมมีอะไรที่มองไม่ตรงกันบ้าง แต่ในที่สุดเราก็ปรับความเข้าใจกันได้

เมื่อถามว่าข้อความที่นายปิยบุตร โพสต์ถึงนายพิธา ค่อนข้างรุนแรง ได้ชี้แจงให้นายปิยบุตรฟังว่าอย่างไรบ้าง นายพิธา กล่าวว่า เป็นความเข้าใจผิด เมื่อได้พูดคุยกันแล้วเขาก็เข้าใจ ตอนนี้ได้ปรับความเข้าใจกันแล้ว ที่เหลือก็ไม่มีอะไรค้างคาใจกัน และย้ำว่าสามารถทำงานต่อไปได้ ไม่มีปัญหา

เมื่อถามว่าเรื่องความคาดหวังของนายปิยบุตร อาจจะไม่สัมพันธ์กับสิ่งที่พรรคก้าวไกล เป็นอยู่ตอนนี้ นายพิธา กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของนายปิยบุตร อย่างเดียว เมื่อพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบไป คณะกรรมการบริหารพรรคก็ถูกตัดสิทธิ์ จึงไม่สามารถทำในสิ่งที่อยากเน้นได้ เรื่องที่เกิดขึ้นเราได้ปรับความเข้าใจกัน นี่คือสิ่งที่ทำให้เราได้เรียนรู้และเติบโตไปด้วยกัน

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ว่าจะมีผลกระทบกับสนามเลือกตั้ง นายพิธา กล่าวว่า เป็นการถอยที่ทำให้เราก้าวกระโดดต่อไป ความฮึกเหิมเมื่อคืนนี้ (22 ก.พ.) เทียบเท่ากับ สปิริตของพรรคอนาคตใหม่กลับคืนมา ฉะนั้น แม้จะเหมือนว่าขัดขากันบ้าง แต่ยืนยันว่าเราไม่ขัดขากัน แต่เป็นการถอยหลังกันคนละก้าว และเวลาที่เหลืออยู่ตอนนี้ ยันทันที่จะเรียกความเชื่อมั่นใจกลับคืนมา ขอบคุณทุกท่านที่เป็นตัวเชื่อมให้ความเป็นปึกแผ่นของพรรคกลับคืนมา และทำให้เราสองคนได้พูดคุยกัน ซึ่งตัวเชื่อมที่สำคัญคือประชาชน และสมาชิกพรรค มั่นใจว่าเขาคงบอกนายปิยบุตรเช่นกัน ฉะนั้น ต้องขอบคุณทุกคน

“จากสิ่งที่เกิดขึ้น ยืนยันว่าตอนนี้สปิริตของพรรคกลับคืนมา ทุกอย่างที่สะสมเมื่อปะทุออกมา และได้ทำความเข้าใจกัน ได้นึกถึงว่าเรามาเป็นนักการเมืองและตั้งพรรคขึ้นมาทำไม ทำให้เรากลับมามีพลังมากขึ้น และเราจะใช้พลังนี้ไปจนถึงวันเลือกตั้งให้ได้”

เมื่อถามว่าท้อหรือไม่ เพราะคนใกล้ชิดมองตัวนายพิธาในด้านลบ นายพิธา กล่าวว่า ไม่มีเหนื่อย ไม่มีท้อ เราตั้งใจไปสู่เป้าหมายเดียวกันให้ได้ และเราลงพื้นที่อย่างหนัก รวมถึงได้การตอบรับจากการลงพื้นที่อย่างดี หากเราทำงานอย่างมีสมาธิที่สุด ในช่วงโค้งสุดท้าย จะเป็นประโยชน์ที่สุดกับการทำงานพรรค ซึ่งก้าวไกลจะทำงานได้เข้มข้นมากขึ้น มีสมาธิมากขึ้น

แม้จะมีความคิดเห็นไม่ตรงกันอีกในอนาคต เราจะได้พูดคุยกันอย่างฉันท์มิตร โดยไม่ต้องผ่านสื่อหรือโซเชียลมีเดีย และนายปิยบุตรไม่ได้มาครอบงำตน แต่เมื่อมีความไม่เข้าใจตรงกัน ก็พูดคุยกันในฐานะเพื่อนร่วมงานเก่า ส่วนประเด็นที่เข้าใจไม่ตรงกัน เป็นเรื่องการทำงานเล็กๆน้อยๆ มารวมกัน เช่น การลงพื้นที่ต่างๆ ไม่มีอะไรนอกเหนือจากนั้น

เมื่อถามว่าความขัดแย้งครั้งนี้เป็นการเรียกเรตติ้งให้พรรคหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า เป็นไปไม่ได้ พรรคเรามีวุฒิภาวะพอที่จะหาเสียง ยืนยันว่าจะไม่เกิดขึ้นอีก และคนที่อยู่ในเหตุการณ์จะมีสมาธิทำงานการเมืองต่อไป ไม่มีปัญหา

เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะได้เห็นนายปิยบุตรและนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ร่วมลงพื้นที่ด้วยหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า คงต้องดู เพราะตามกฎหมาย เป็นผู้ช่วยหาเสียงได้ แต่ที่แน่ๆ ทั้งสองพร้อมสนับสนุนพรรคตามที่กฎหมายกำหนดได้ ทั้งนี้ เรื่องการวิพากษ์วิจารณ์เป็นเรื่องปกติ เราเจอมาตลอด 3 ปี และการเป็นบุคคลสาธารณะ คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน