กกต.ออกแถลงการณ์ แจงดราม่าบินดูงานต่างประเทศช่วงใกล้เลือกตั้ง ตรวจความพร้อม-ฟังปัญหา ลั่นไม่กระทบเลือกตั้ง แน่ หากมีเรื่องด่วนประชุมออนไลน์ได้

วันที่ 13 เม.ย.2566 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกเอกสารข่าวชี้แจงกรณีประชาชนวิจารณ์อย่างหนัก ภายหลัง กกต. จำนวน 6 คน เดินทางไปดูงานที่ต่างประเทศในช่วงนี้ ทั้งที่มีปัญหา 2 ประเด็นใหญ่คือ 1.เรื่องระบบลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าล่ม ทำให้ประชาชนจำนวนมากเสียสิทธิ และ 2.ข้อวิจารณ์เรื่องนโยบายเงินดิจิทัลของพรรคเพื่อไทย โดยระบุว่า “การเดินทางไปดูงาน เป็นไปตามโครงการการเตรียมการ และตรวจติดตามการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร”

ในการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งมีทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง ส.ส. นอกราชอาณาจักร เพื่อตรวจติดตามการเตรียมความพร้อม รับฟังสภาพปัญหา และการบริหารจัดการการเลือกตั้งในแต่ละประเทศที่มีข้อจำกัดแตกต่างกันตามกฎหมายภายในของประเทศนั้น ๆ ลักษณะภูมิประเทศ สภาพความเป็นอยู่
เพื่อนำมาใช้เป็นข้อมูลในการอำนวยความสะดวกแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง หรืออาจนำมาปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย ระเบียบให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ก่อนดำเนินการสำนักงาน กกต. ได้หารือร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศมาตลอด ถึงวิธีการที่จะทำให้การเลือกตั้งของผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่อาศัยอยู่ต่างประเทศ สามารถใช้สิทธิเลือกตั้งได้ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และบรรลุตามวัตถุประสงค์ให้มากที่สุด

ต่อมากระทรวงการต่างประเทศ ได้มีหนังสือเชิญ กกต. เดินทางไปเข้าร่วมโครงการเตรียมการและตรวจติดตามการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรของสถานทูตและสถานกงสุลในประเทศต่าง ๆ ซึ่ง กกต. พิจารณาแล้วเห็นว่า โครงการดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อการนำมาพัฒนาระบบการบริหารจัดการการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรได้ในโอกาสต่อไป จึงได้พิจารณาช่วงเวลาที่เหมาะสม ไม่กระทบกับงานตามแผนปฏิบัติการที่ได้กำหนดไว้แล้ว

รวมถึงการเดินทางในห้วงเวลาที่จะไม่เป็นภาระในการจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรของสถานทูต หรือสถานกงสุลในประเทศต่า งๆ จึงได้กำหนดให้มีการเดินทางในห้วงวันที่ 4-24 เม.ย. 2566 โดยแต่ละเส้นทางไม่ได้เดินทางไปพร้อมกัน และแต่ละเส้นทางที่เดินทาง ประกอบด้วย กกต. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเท่าที่จำเป็น เพียง 4-5 คนเท่านั้น

ทั้งนี้ ในช่วงเวลาดังกล่าว กกต. ได้กำหนดแผนปฏิบัติการเกี่ยวกับการเลือกตั้งเพื่อให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งและหน่วยงานสนับสนุนดำเนินการไว้หมดแล้ว อย่างไรก็ตาม แม้จะเดินทางไปต่างประเทศ ก็ยังมีการนัดหมายการประชุม กกต.ตามปกติผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และหากมีเรื่องด่วน ก็อาจนัดหมายการประชุมเพิ่มเติมจากการประชุมตามปกติก็ได้

สำหรับกรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่าการเดินทางไปต่างประเทศของ กกต.ในครั้งนี้ ทำให้ไม่สามารถพิจารณาคำร้องเรื่องการหาเสียงตามนโยบายให้เงินดิจิทัล 10,000 บาท และการขยายเวลาลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้านั้น ขอเรียนว่า ข้อสังเกตดังกล่าวยังมีความคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง กล่าวคือ

1.กรณีคำร้องนโยบายการหาเสียงการให้เงินทางดิจิทัล 10,000 บาท เป็นการยื่นคำร้องว่า มีการกระทำความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง เมื่อมีผู้ยื่นคำร้องสำนักงาน กกต. ได้รายงานให้ กกต. ทราบเบื้องต้นแล้ว และได้ดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบกกต.ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติมกำหนดก่อน จึงจะเสนอให้กกต.พิจารณาต่อไป ซึ่งต้องเป็นไปตามกรอบระยะเวลาและขั้นตอนที่กำหนด ไม่อาจยกขึ้นมาพิจารณาได้ทันที

ประกอบกับขณะนี้มีพรรคการเมืองรายงานเรื่องนโยบายที่ใช้หาเสียงตามมาตรา 57 แห่งพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 เพียง 6 พรรค จากจำนวนพรรคที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง 70 พรรค หรือบางพรรคยังอยู่ในระหว่างส่งเอกสารเพิ่มเติม จึงยังไม่สามารถพิจารณาได้

2.การขยายเวลาการลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า กรณีเกิดปัญหาผู้ลงทะเบียนบางส่วนไม่อาจลงทะเบียนได้ในช่วงเวลา 21.00-24.00 น. ของวันที่ 9 เม.ย. 2566 เนื่องจากข้อจำกัดของระบบที่มีศักยภาพในการรองรับการเข้าใช้งานลงทะเบียนพร้อมกันเพียง 5,000 คนต่อ 1 วินาที ถ้าสูงเกินกว่าจำนวนดังกล่าวจะทำให้ระบบล่าช้า

สำนักงานกกต. ได้เรียนให้ กกต.ทราบตั้งแต่เกิดเหตและต่อเนื่องมาเป็นลำดับ พร้อมทั้งประสานงานกับสำนักบริหารการทะเบียน เพื่อหาแนวทางแก้ไขโดยได้ข้อสรุปว่า ในช่วงเวลาดังกล่าว ระบบสามารถบันทึกข้อมูลผู้ประสงค์จะลงทะเบียน แต่แสดงผลว่าลงทะเบียนไม่สำเร็จไว้ ซึ่งระบบสามารถดึงข้อมูลผู้ประสงค์จะลงทะเบียนดังกล่าวมาจัดทำเป็นบัญชีรายชื่อผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าได้เกือบทั้งหมด สำนักงาน กกต.จึงเห็นว่าไม่จำต้องขยายเวลาลงทะเบียนออกไป และได้รายงานให้ กกต.ทราบด้วยแล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน