อนุทิน ทวงบุญคุณ ถ้าไม่มีซิโนแวค ระบบสาธารณสุขจะยุ่งกว่านี้ บอกให้คะแนนตัวเอง A+ จัดการโควิด เพื่อชื่นชมตัวเอง สร้างกำลังใจทำงาน
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 18 เม.ย. 2566 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค กล่าวในรายการ ‘กรรมกรข่าวเปิดอกคุย’ ของนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรชื่อดัง ถึงกรณีที่เคยให้คะแนนตัวเอง A+ ในการจัดการโควิด-19 ว่า ต้องดูว่าวัดจากอะไร ถ้าวัดแบบไม่มีเชื้อโรคเลย มันทำไม่ได้ เพราะเกิดขึ้นทั่วโลก
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า แต่ประเทศไทยด้อยกว่าประเทศอื่นหรือไม่ ประเทศที่มีความเจริญมากกว่าหรือประเทศที่เป็นมหาอำนาจ เราก็ทำได้ดีกว่า ตอนนี้ประชาชนมากกว่า 80% มีภูมิคุ้มกันทั้งจากวัคซีน และการติดเชื้อโดยธรรมชาติ วันนี้เราขอให้ประชาชนช่วยเร่งมาฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ทุกอย่างอยู่ในกรอบหมดแล้ว
“ถ้าผมไม่รับทัวร์ แล้วทัวร์ไปลงคุณหมอคุณพยาบาล บุคลากรสาธารณสุขทั้งหมด และเขาเกิดเสียขวัญกำลังใจขึ้นมา ผมยอมให้ทัวร์มาลงที่บ้านผม เพราะผมไปรักษาพี่น้องประชาชนไม่ได้ ผมเป็นเจ้ากระทรวงผมรับทัวร์เอง ส่วนเรื่องให้คะแนนตัวเองนั้น ผมบอกถ้าผมจะให้คะแนนตัวผมเอง ไม่ได้บอกว่าคุณสรยุทธให้คะแนนผม ผมต้องบอกว่าผมทำคะแนนดี ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีกำลังใจไปทำงาน ผมชื่นชมตัวเอง ไม่ได้ผิดอะไร” นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามว่าดูจากอะไร นายอนุทิน กล่าวว่า ดูจากความทุ่มเท ที่ตนเต็มที่กับเรื่องเหล่านี้ ตนติดโควิดรักษาตัวอยู่ที่บ้าน 14 วัน ตนทำงานกับบุคลากรสาธารณสุขอย่างเต็มที่ เรื่องวัคซีนบอกว่าล็อตใหญ่จะมาเดือน มิ.ย. เป็นต้นไป ก็มาหมด สิ้นปีบอกว่าวัคซีนเต็มแขน มันก็เต็มแขน
นายอนุทิน กล่าวถึงกรณีการจัดการวัคซีนโควิด-19 ว่า ตอนนี้คนลืมบุญคุณซิโนแวคหมดแล้ว หากวันนั้นไม่มีซิโนแวค 3-4 ล้านโดสล็อตแรกเข้ามา ระบบสาธารณสุขจะยุ่งกว่านี้เยอะ เราพยายามเต็มที่เพื่อให้เกิดปัญหาน้อยที่สุด
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ยืนยันว่าไม่เคยประเมินสถานการณ์ต่ำเกินไป ตนต้องพูดว่าโควิดกระจอก โดยขอให้พวกเราอย่าไปกังวลกับมันมาก ใส่หน้ากากอนามัย อย่าไปอยู่กับคนหมู่มาก ถ้าเราป้องกันตัวเองเป็นอย่างดี เราก็จะอยู่กับมันได้
เมื่อถามว่า ประเมินตัวเองว่าทำเต็มที่ ไม่มีอะไรผิดพลาดเลยใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ความผิดพลาดต้องมีบ้างอยู่แล้ว คนเสียชีวิตหนึ่งคนคือสิ่งที่ตนโทษตัวเอง ที่ตนบอกว่า A+ หมายถึงตนไม่เคยมองข้าม ไม่เคยบอกให้รีแล็กซ์
