สาธิต โต้เดือด ก้าวไกล หลังบุกระยอง ซัด ‘พิธา’ เล่นการเมืองไม่สร้างสรรค์ เหน็บอยากเป็นผู้นำ ต้องเป็นลูกชาย โร่แจ้งความ เล็งร้องกกต. เข้าข่ายผิดกม.เลือกตั้ง

เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2566 ที่อาคารกรุงเทพทาวเวอร์ ถนนเพชรบุรี นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ดูแลภาคกลาง และผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 ระยอง หมายเลข 7 แถลงว่า กรณีพรรคก้าวไกลนำโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร จัดปราศรัยหาเสียงใส่ร้าย เพื่อจูงใจให้เข้าใจผิดในการเลือกตั้ง 3 ประเด็น ทั้งการระบาดของเชื้อโควิดในบ่อน เหตุการณ์ทหารอียิปต์ติดโควิด และเรื่องน้ำมันรั่ว ที่จ.ระยอง โดยยืนยันว่าทุกเหตุการณ์ได้ช่วยกันแก้ไขปัญหา ไม่ได้ละเลย ไม่มีสักวันที่ไม่คิดถึงคนระยอง

เรื่องเชื้อโควิดในบ่อนระยอง ได้ทำหนังสือเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรีขอให้ดำเนินการกับบ่อนการพนันและสั่งปิดทันที และเอาผิดฝ่ายปกครองที่ปล่อยปละละเลย

ส่วนเหตุการณ์ทหารอียิปต์ติดโควิด เข้ามาในพื้นที่จ.ระยอง ได้ดำเนินการตามกระบวนการ จนสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อได้ และจัดงานสัมมนาเพื่อเรียกความเชื่อมั่น

สำหรับประเด็นน้ำมันรั่วได้ดำเนินการโดยลงพื้นที่ติดตามตั้งแต่ทราบเรื่อง และติดตามเรื่องเยียวยาบังคับให้บริษัทเยียวยาให้ได้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ และดำเนินการชดเชยเยียวยา ได้เกือบ 100% ขาดเพียง 3% ที่กำลังอยู่ในกระบวนการฟ้องร้อง นอกจากนี้ยังได้สร้างความเชื่อมั่นด้วย

ดังนั้น ถ้าใครจะอวดอ้างผลงานนี้ ต้องเป็นคนที่ยืนอยู่ตรงนี้ คือตนในฐานะรมช.สาธารณสุขและส.ส.ระยอง ที่ทำงานร่วมกับทุกฝ่ายจนประสบความสำเร็จ ขอฝากบอกถึงนายพิธาและพรรคก้าวไกล ว่า ขอให้แยกแยะว่าการปฏิบัติหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ คือการทำหน้าที่ส.ส.ในสภา ส่วนการทำงานแก้ปัญหาหรือใช้งบประมาณในการลงมือทำ คือการทำหน้าที่ของฝ่ายบริหาร ซึ่งคือตัวผมและรัฐมนตรีขณะนั้นได้ทำหน้าที่บริหารและร่วมมือกับประชาชนจนทำสำเร็จ

“ส่วนคนที่ทำหน้าที่ในฝ่ายนิติบัญญัติ ควรบอกว่าเขาได้ทำงานในสภาได้อย่างสมบูรณ์ แบบนี้จึงเรียกว่นการเมืองสร้างสรรค์ และผู้สมัครส.ส.ระยองจากทุกพรรค ได้จับมือทำสัญญาสัตยาบรรณแล้วว่าจะทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ แต่ต้องพังทลายลงด้วยการปราศรัยของหัวหน้าพรรคก้าวไกล ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเขาสนุกปาก หรือ คิดว่ามีกระแสสนับสนุนมาก จึงไม่ย้อนดูข้อเท็จจริง” นายสาธิต กล่าว

นายสาธิต ยังเปิดคลิปปิดท้ายที่ นายวิโรจน์ พูดในลักษณะคนระยองไม่เอานายสาธิตแล้ว และกรณีนายพิธาพูดว่าเลือก ส.ส.ระยองที่ตระกูล โดยนายสาธิต กล่าวว่า ส่วนตัว เห็นว่านายพิธาเข้าใจผิด เพราะในระบอบประชาธิปไตยถ้ามีการตั้งคนในนามสกุลเดียวกันไปเป็นเลขาไปเป็นที่ปรึกษาหรือผู้ช่วย จะมาตำหนิได้ แต่การส่งคนลงสมัครส.ส.ผ่านการกลั่นกรอง แต่บังเอิญนามสกุลเดียวกัน เป็นการคัดเลือกและคัดสรรส่วนผู้เลือกคือประชาชน และส่วนตัวกลับเสี่ยงด้วยซ้ำที่เลือกแบบนี้








Advertisement

นายสาธิต กล่าวอีกว่า ตนจะนำข้อมูลทั้งหมดเหล่านี้ไปแจ้งความ เพื่อลงบันทึกเป็นหลักฐานที่สภ.เมืองระยอง ในวันนี้ (8 พ.ค.) เวลา 14.00 น. เพราะการจะได้คะแนนนิยมนั้นไม่จำเป็นต้องสาดโคลนใส่ร้ายกัน

ทั้งนี้ ยังมีหลายเรื่องที่นายพิธาไม่เข้าใจ หรือแกล้งไม่เข้าใจในระบอบประชาธิปไตย ขณะที่สังคมตั้งคำถามถึงพฤติกรรมความไม่น่าเชื่อถือของนายพิธา อาทิ การทำร้ายร่างกายเพศตรงข้าม การอ้างเรื่องกลับมาไม่ทันงานศพ ความไม่ชัดเจนว่าจะยกเลิกหรือแก้ไขมาตรา 112 และวันนี้เป็นอีกกรณีที่สะท้อนว่า สิ่งที่นายพิธา พูดกับความเป็นจริงเป็นอย่างไร และขอให้นายพิธา มีความเป็นลูกผู้ชายที่เป็นผู้นำ ซึ่งจะเป็นอนาคตของชาติต่อไปในฐานะหัวหน้าพรรค

เมื่อถามว่าจะยื่นร้องเรียนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้วยหรือไม่ นายสาธิต กล่าวว่า ตนขอสงวนสิทธิ์ทางกฎหมาย และขอรอดูว่าพรรคก้าวไกลจะแสดงท่าทีหลังจากนี้อย่างไรหรือไม่ ขอรวบรวมข้อมูลทั้งหมดเพื่อพิจารณาอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไร เบื้องต้นเห็นว่าเข้าข่ายกระทำผิดตามมาตรา 73 (5) แห่งพระราชประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ส่วนจะมีโทษถึงขั้นยุบพรรคได้หรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลของฝ่ายกฎหมาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน