ชลน่าน โต้ดีลลับทิ้ง ก้าวไกล หลัง ‘พี่นิด-น้องหนู’ ร่วมเฟรมดูเลสเตอร์ ชี้อย่าโยงมาผูกกัน ปัดตอบนั่งเก้าอี้ประธานสภา ลั่น 25 ล้านเสียงมัดสองพรรคแยกกันไม่ได้

เมื่อเวลา 13.15 น. วันที่ 29 พ.ค.2566 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีปรากฏภาพ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ร่วมเฟรมเดียวกันที่สนามคิงพาวเวอร์ สเตเดียม รังเหย้าของทีมสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ประเทศอังกฤษ ระหว่างเกมนัดสุดท้ายของเลสเตอร์ ซิตี้พบกับทีมสเวสต์แฮม ยูไนเต็ดเมื่อคืนวันที่ 28 พ.ค. ทำให้มีหลายฝ่ายมองว่าเป็นการตอกย้ำกระแสข่าวดีลลับว่า ตนเพิ่งทราบจากสื่อ แต่นายเศรษฐา เคยพูดไว้ก่อนแล้วว่าจะไปดูฟุตบอล

ถ้าตั้งสมมติฐานเรื่องดีลลับ ตนไม่มีความเห็น เชื่อว่านายเศรษฐาไม่ใช่คนเช่นนั้น ส่วนที่วิจารณ์กันนั้น ถือเป็นเรื่องธรรมดา ส่วนจะจริงหรือไม่จริงต้องดูข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

เมื่อถามว่าภาพดังกล่าวเกิดขึ้นจังหวะเดียวกับที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาเปิดเผยเรื่องดีลลับ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตนไม่มีความเห็น และนายเศรษฐาเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ภารกิจที่เขาไปทำ เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ได้เป็นภารกิจของพรรค ขอยืนยันว่าในมุมของพรรคไม่ว่าใครจะพูดอย่างไร เราขอปฏิเสธว่าไม่มีดีลลับ แม้แต่เจ้าตัวที่ถูกพาดพิงก็แจ้งมาในสื่อโดยตรง ฉะนั้น อย่าเอาเหตุการณ์ในหลายๆเรื่อง ไปผูกให้เป็นเรื่องสอดรับกัน ปรากฏการณ์อาจเกินขึ้นในจังหวะที่สอดรับกันได้แต่ตนมั่นใจว่าไม่ใช่ ขอยืนยันว่าไม่ใช่ในนามเพื่อไทย

เมื่อถามว่าปัญหาระหว่างพรรคเพื่อไทยกับก้าวไกล มีการคุยภายในกันหรือยัง นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรามีคณะเจรจาของแต่ละพรรคที่จะทำงานร่วมกัน เขาอาจพบกันทั้งแบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ ยอมรับว่าหลังจากวันที่ร่วมเซ็นเอ็มโอยู ยังไม่ได้หารือกันอย่างเป็นทางการ ประเด็นต่างๆที่เกิดขึ้นเราต้องมองภาพมิติสังคมประชาธิปไตยเป็นหลัก

การแสดงความเห็นของแต่ละฝ่ายเป็นสิทธิเสรีภาพ แต่ในมุมของพรรค ยึดหลักคณะเจรจา ความเห็นที่ออกมาจากบุคคลอื่นที่ไม่ใช่คณะเจรจา เป็นเรื่องที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเจรจา ถือเป็นประเด็นภายนอก ไม่เช่นนั้น จะทำเราหลงประเด็น ยอมรับว่าในมุมของเพื่อไทยและก้าวไกล เราไม่มีข้อขัดแย้งกัน คณะเจรจาเขาดำเนินการไปด้วยดี เพียงแต่พวกเราไปยึดติดการนำเสนอผ่านสื่อมากเกินไป จึงเห็นว่าเป็นข้อขัดแย้ง ยืนยันไม่ใช่ข้อขัดแย้ง ทั้ง 2 พรรคต้องหาความเห็นร่วมในความเห็นต่างให้ได้

เมื่อถามว่าขณะนี้มีกระแสข่าวแบ่งเก้าอี้ในคณะรัฐมนตรี พรรคร่วมได้พูดคุยถึงเรื่องดังกล่าวแล้วหรือยัง นพ.ชลน่าน กล่าวว่ายังไม่มีการพูดอย่างเป็นทางการ การทำงานร่วมกันนั้น ปฏิเสธเรื่องการจัดสรรตำแหน่งไม่ได้ และเราก็ระมัดระวังว่าการจัดสรรตำแหน่งของเรา พยายามนำเสนอให้ประชาชนเห็นภาพว่าเราแบ่งงานกันทำตามวาระงาน ตามวาระหน้าที่ที่เหมาะสมตามนโยบายของแต่ละพรรค ซึ่งพรรคแกนนำได้ให้แนวทางมาเช่นนั้น ฉะนั้น มุมมองที่เราจะสื่อออกไปต้องระวังในเรื่องนี้ ไม่อยากให้เกิดลักษณะแย่งงานกันทำ

เมื่อถามถึงตำแหน่งประธานสภา ยังยืนยันว่าควรเป็นของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตอนนี้คณะเจรจากำลังคุยกัน ตนในฐานะหัวหน้าพรรคและมีชื่อตัวเองไปเกี่ยวข้องไม่อยากแสดงความเห็น เป็นหน้าที่ของคณะเจรจา เป้าหมายสำคัญที่สุดของการทำงานร่วมกันของพรรคก้าวไกลและเพื่อไทย เราต้องให้ความสำคัญของอาณัติประชาชนจำนวน 25 ล้านเสียงที่มอบให้เรามา เสมือนเป็นการมัดให้เราทำงานร่วมกัน ต้องเอาตรงนั้นเป็นหลัก เขาต้องการรัฐบาลประชาธิปไตย ที่จะไปปิดกั้นยุติการสืบทอดอำนาจ

การจัดตั้งรัฐบาลรวมถึงการเลือกนายกฯ ที่เราประกาศชัดเจนว่าเสนอนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกฯ นั่นคือเป้าหมายหลัก ควรยึดตรงนั้นและหาทางออกร่วมกัน ทำงานร่วมกัน เพื่อไปถึงเป้าหมายเชื่อว่าคุยกันได้

เมื่อถามย้ำว่ามีชื่อนพ.ชลน่านไปเกี่ยวข้องกับประธานสภา ถ้าพรรคร่วมเลือกพร้อมหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ยังไม่ตอบ ต้องดูผลเจรจาว่ามีทางออกอย่างไร เมื่อถามว่าตำแหน่งประธานสภา ต้องนำไปรวมกับเก้าอี้บริหารด้วยหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตามหลักเสียงข้างมากเด็ดขาดเรายอมรับในมุมนั้น เพราะเขามีสิทธิกำหนดตำแหน่งต่างๆ ทั้งบริหารและนิติบัญญัติ ให้สอดรับการทำงานของแต่ละฝ่าย

แต่กรณีพรรคร่วม มีวิธีคิดหลายเรื่องที่จะหาโอกาสทำงานร่วมกัน โดยเฉพาะพรรคร่วมที่มีเสียงใกล้เคียงกันอาจมีทิศทางหรือแนวทางในการทำงานร่วมกันภายใต้การยอมรับซึ่งกันและกัน แต่ข้อยุติบางอย่าง ยุติด้วยตัวมันเอง เช่น เสียงข้างมากเด็ดขาด แต่กรณีความเห็นต่างที่มีเสียงก้ำกึ่งกัน ต้องอาศัยเสียงข้างมากในการตัดสิน การทำงานร่วมกันถ้าทุกฝ่ายให้เกียรติซึ่งกันและกันเราก็ไปด้วยกันได้

เมื่อถามว่าความเห็นต่างที่เกิดขึ้นจะทำให้อาณัติประชาชนที่มัดเราด้วยกันคลายออกได้หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตนมั่นใจว่าคลายไม่ได้ เพราะเรายึด 25 ล้านเสียงเป็นหลัก เรายึดเป้าหมายรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตยเป็นหลัก ตรงนี้ยากที่จะคลายออกจากกันได้ ถ้าฝ่ายไหนฝ่ายหนึ่งแยกออกไป ย่อมทำให้ความหวังของประชาชนเสียหาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน