คสช.ปัดใบสั่ง-ยันไม่ยื้อเลือกตั้ง บิ๊กตู่นัดทุกพรรคถกวันกาบัตร เด้ง”ปลัดพม.”เซ่นคดีโกงคนจน โอ๊คโชว์รูปแม้ว-ปูทัวร์สิงคโปร์ทูต “อียู” จี้ถาม หวั่นกระทบโรดแม็ปเลือกตั้ง ปมล้ม 7 กกต. คสช.โต้วุ่น ไม่เกี่ยว-โยนเป็นเรื่อง “สนช.” “วิษณุ” ยันไม่กระทบโรดแม็ป ใช้ “กกต.เก่า” แทนได้ พรรคจี้คนโหวตคว่ำแจงเหตุผล ปชป.ซัด 5 สาย อย่าคิดถึงแต่ตัวเอง พท.ตั้งข้อสงสัยได้คนไม่ถูกใจผู้มีอำนาจ โอ๊คโพสต์ภาพทัวร์สิงคโปร์ร่วมกับ “แม้ว-ปู”

ทูตอียูจี้เลือกตั้งตามโรดแม็ป

เมื่อวันที่ 23 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปีร์กะ ตาปิโอละ เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะพล.อ.อ. ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ยุติธรรม ในโอกาสเข้ารับหน้าที่

พล.อ.อ.ประจินเปิดเผยว่า เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรป(อียู) แสดงความยินดีที่ไทยมีการพัฒนาเรื่องสิทธิมนุษยชนดีขึ้น และขอบคุณคสช. ที่ยกเลิกการนำพลเรือนขึ้นศาลทหาร ซึ่งเรื่องสิทธิมนุษยชนเป็นเรื่องสากล ไทยใช้หลักสากลทำแบบนี้มานานแล้ว ไม่ได้หมายความว่าไม่เคยทำ แต่ที่อียูจับตาเพราะหลังรัฐประหารและจะมีการเลือกตั้ง จึงดูเหมือนนำเรื่องนี้มาพูดเยอะ พร้อมสอบถามถึงการเลือกตั้งว่าจะเป็นไปตามโรดแม็ปหรือไม่ ตนได้ยืนยันว่าเป็นไปตามเจตนารมณ์ของนายกฯ ที่จะจัดการเลือกตั้งตามโรดแม็ปที่กำหนดไว้

พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า ทางเอกอัครราชทูต อียู ได้สอบถามถึงกรณีวันที่ 22 ก.พ. ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) มีมติไม่ให้ความเห็นชอบบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกกต. จะเป็นอย่างไรต่อไป ทางเราบอกไปว่าขอเวลา เพราะรัฐบาลยังไม่ทราบรายละเอียด เมื่อได้ข้อมูลแล้วจะเรียนให้ทราบ ขณะที่เอกอัครราชทูตอียูบอกว่าอยากจะคุยกับเราอีก จึงนัดคุยกันอีกครั้งที่กระทรวงยุติธรรม เรื่องการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมอง ทั้งนี้เอกอัครราชทูตอียูไม่ได้ประเมินสถานการณ์การเมืองของไทย

ป้อมเปรยใกล้เลิกคำสั่งคสช.

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสนช. โหวตคว่ำ 7 ว่าที่กกต. จนถูกวิจารณ์เป็นใบสั่งจากคสช. ว่า “ไม่มี ไม่มีใบสั่ง สนช.เขาดำเนินการของเขาเอง” ส่วนจะกระทบกับการเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะเกิดขึ้นหรือไม่นั้น ไว้ดูเดือนมิ.ย.นี้ ค่อยว่ากันในรายละเอียด

พล.อ.ประวิตรยังกล่าวถึงกรณีแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล แถลงรายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชนโลกประจำปี 2560/2561 ถึงปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนของไทย และเรียกร้องให้ยกเลิกคำสั่งคสช.ฉบับที่ 3/2558 และปล่อยตัวผู้เห็นต่างว่า จะให้ทำอย่างไร การยกเลิกคำสั่งนั้น รอเดี๋ยวเพราะจวนจะยกเลิกอยู่แล้ว ส่วนจะเป็นเมื่อใดยังไม่รู้ เพราะอีกปีก็จะเลือกตั้ง

“ทั้งนี้ เราทำตามกฎหมายของเรา มีอย่างไรก็ใช้ตามนั้น ถ้ามีกฎหมายแล้วไม่ใช้กฎหมายจะทำอย่างไร จะปล่อยให้ว่ากันตามสบายอย่างนั้นหรือ” พล.อ.ประวิตรกล่าว

คสช.โต้วุ่น-ยันไม่ละเมิดสิทธิ

ที่หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ จ.ลพบุรี พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวถึงกรณีที่แอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่นแนล ระบุไทยยังมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนว่า ชี้แจงถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนตลอดว่า ดำเนินการตามกรอบและกฎหมาย ไม่ได้มีตรงไหนที่ไปละเมิดสิทธิมนุษยชนใคร หากใครกระทำผิด กฎหมายก็ดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนข้อเสนอยกเลิกคำสั่งคสช.ฉบับที่ 3/2558 ที่ห้ามชุมนุมทางการเมืองนั้น ขอย้ำว่าช่วงนี้เป็นช่วงสถานการณ์พิเศษขอให้มีความเข้าใจ เราพยายามประคับประคองให้นำไปสู่การเลือกตั้งตามแนวทางที่รัฐบาลกำหนด ดังนั้นต้องเป็นไปตามกรอบ

“ผมสมมติว่าจะให้อยู่ดีๆ ยกเลิกคำสั่งดังกล่าว สถานการณ์จะไม่วุ่นวายหนักกว่าเก่าหรือ แล้วบ้านเมืองจะวุ่นวายอีก ดังนั้นเราต้องประคองสถานการณ์เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งให้ได้ และไม่มีตรงไหนที่ไปละเมิดสิทธิ์ใคร ทั้งหมดเป็นไปตามกฎหมาย ตอนนี้คสช.บังคับใช้กฎหมายตามปกติ” พล.อ.เฉลิมชัยกล่าว

มั่นใจภาพ”รบ.-คสช.”ไม่เสียหาย

พล.อ.เฉลิมชัยกล่าวต่อว่า สำหรับการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งนั้น เคยชี้แจงไปแล้ว และอยากจะบอกอีกครั้งว่า เราต้องประคองสถานการณ์เอาไว้ เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งให้ได้ ถ้าเราลงมาเผชิญหน้ากับกลุ่มม็อบต่างๆ จะสร้างเสียหายต่อชาติบ้านเมือง ดังนั้นตนก็ขอร้องกัน

พล.อ.เฉลิมชัยยังกล่าวถึงการกู้ภาพลักษณ์ คสช. เพื่อให้กองหนุนกลับมาว่า คิดว่ารัฐบาล และคสช.ไม่ได้มีภาพลักษณ์เสียหาย รัฐบาลปัจจุบันก็ได้ความยอมรับ และหลายสิ่งหลายอย่างที่ได้รับการสำรวจจากการบริหารงานของรัฐบาลก็ดีขึ้นในหลายๆ แนวทาง และอย่าไปเรียกสิ่งที่ทำเป็นการเรียกร้องกองหนุนเลย

เมื่อถามถึงกรณีที่นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ ปัญญาชนสยาม ระบุว่า มีกลุ่มทหารหนุ่ม ไม่พอใจการทำงานของรัฐบาลนั้น พล.อ.เฉลิมชัยกล่าวว่า ไม่ทราบว่ามีกลุ่มทหารหนุ่มที่ไหน ไม่มีข้อมูลชัดเจน คิดว่าคงไม่มีหรอก การดูแลกองทัพของตนจะให้ความรู้ความเข้าใจ และให้ความยุติธรรมในการปกครอง และ ณ เวลานี้ ไม่มีความแตกแยก ทุกอย่างเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล

บิ๊กบังหวังโรดแม็ปเป็นจริง

พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) และหัวหน้าพรรคมาตุภูมิ กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองขณะนี้ว่า อยากให้โรดแม็ปของคสช.เดินไปข้างหน้าและเป็นจริงตามนั้น ถ้าเดินไปได้ ประชาชนก็พอใจ ส่วนที่สนช.ไม่เห็นชอบ 7 ว่าที่กกต.นั้น ตนรู้สึกตกใจ ซึ่งปมดังกล่าวทำให้เห็นแนวโน้มว่ามีโอกาสเลื่อนโรดแม็ป ออกไปอีก แต่ยังเชื่อมั่นว่าจะมีการเลือกตั้ง ส่วนจะเป็นช่วงเวลาใด ตนยังตอบไม่ได้

เมื่อถามว่าถ้าไม่มีการเลือกตั้ง ประชาชนจะออกมากดดันรัฐบาลและคสช.หรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า ทุกอย่างก็มีสิทธิ์จะเป็นเช่นนั้น ประวัติศาสตร์สอนให้เราเห็นอะไรหลายอย่าง ตนอยากฝากถึงรัฐบาลและคสช. ขอให้ทำตามโรดแม็ป อยากขอให้คสช.ฟังประชาชน ส่วนที่มีข่าว คสช.ตั้งพรรคทหารนั้น ส่วนตัวคิดว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. คงไม่ลงมาเล่นการเมือง

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าหากไม่ลงมาเล่นการเมืองเอง จะใช้นอมินีเล่นแทนหรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า อดีตเป็นตัวอย่างอยู่แล้ว สำหรับพรรคมาตุภูมินั้น ต้องดูรายละเอียดของกฎหมายก่อน ส่วนจะสนับสนุน คสช.หรือไม่ ต้องดูเสียงส่วนใหญ่ของสมาชิกพรรค

บิ๊กตู่ติงอจ.บิดเบือนสอนเด็ก

วันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ตอนหนึ่งว่า ในการอบรมสั่งสอนลูกหลาน ตามศาสตร์พระราชาที่ว่า บวร คือบ้าน-วัด-โรงเรียน ถือเป็นส่วนหนึ่งของระบบการศึกษา เด็กทุกคนเปรียบเสมือนผ้าขาว หากพ่อแม่ พี่น้อง ครูบาอาจารย์ เพื่อนฝูงรวมทั้งคนในสังคมช่วยกันรังสรรค์ แต่งเติม สีสันให้งดงาม เยาวชนก็จะไม่เป็นเพียงผ้าขาว แต่จะเป็นผลงานศิลปะที่ทรงคุณค่า ถ้าหากผู้ใหญ่ อาจารย์หรือคนในสังคม ใส่ชุดความรู้ที่ผิดเพี้ยน บิดเบี้ยว บิดเบือน อาจด้วยไม่รู้จริงหรือนำเฉพาะหลักวิชาการมาพูด หรืออาจจะมีเจตนาไม่บริสุทธิ์ หวังผลร้าย ไม่เพียงแต่จะทำร้ายเยาวชนของชาติในอนาคต แต่จะทำลายสังคมของเราในปัจจุบันอีกด้วย

“ทั้งนี้การนำหลักวิชาการ-หลักสากล มาปลูกฝังเป็นหลักคิดให้กับลูกหลาน จำเป็นต้องอาศัยความเข้าใจ แนะนำให้ประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสมกับสังคมตามหลักไทยนิยม การปกครองในระบอบประชาธิปไตยนั้นมีความแตกต่างกันในวิธีการปฏิบัติ แต่แก่นสารยังคงเหมือนกัน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

หวังเด็กแยกแยะควรเลือกใคร

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ที่ผ่านมาพรรค การเมืองถือเป็นสถาบันหลัก ที่มีหน้าที่ส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจในเรื่องประชาธิปไตย และพรรคต้องไม่ถูกแทรกแซง ควบคุม ครอบงำ ชี้นำจากบุคคลอื่นใดที่ไม่ใช่สมาชิกพรรค ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม จนขาดความ อิสระ ตนสนับสนุนให้สอนเยาวชนด้วยหลักวิชาการ ให้เด็กได้คิด ให้มีพื้นฐานหลักคิดที่ถูกต้อง ว่าประเทศจะสงบสันติได้อย่างไร ด้วยวิธีการอย่างไร ไม่ใช่ให้เอาเยี่ยงอย่างการล้มล้างสถาบัน การเปลี่ยนแปลงการปกครอง โดยที่ประชาชนยังไม่พร้อม จนต้องบาดเจ็บ ล้มตาย ตามที่หลายประเทศล้มเหลวมาก่อน ลองสอนเด็กง่ายๆ แบบไทยๆ ได้หรือไม่ หรือปูพื้นฐานให้เขาก่อน แก่นสารของเรื่องนี้ คือทำอย่างไรให้คนไทยแยกแยะได้ว่า ถ้ามีการเลือกตั้งแล้วควรเลือกใครและเลือกจากอะไร

“ไม่ใช่ใช้ความรัก ความชอบ ความคุ้นเคย ใช้อารมณ์ แต่ไม่พิจารณาด้วยเหตุผล เช่น ดูที่นโยบายพรรค ดูประวัติการทำงาน ทั้งนี้ ในการเข้าคูหาเลือกตั้ง ต้องเลือกนักการเมืองที่มีคุณภาพ ไม่มีประวัติเสื่อมเสีย หรือทุจริตมาก่อน เลือกพรรคที่น่าเชื่อถือ ดูจากนโยบาย จากการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย ไม่มีวาระซ่อนเร้นแอบแฝง หรือถูกครอบงำ ซึ่งตนอยากให้ประชาชนมีความรู้ หลักคิด มีหลักการเลือก ส.ส.ที่มีคุณภาพ หลีกเลี่ยงผู้สมัครที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม หรือ พรรคที่มีนโยบายในลักษณะสัญญาว่าจะให้ เพื่อดึงดูดใจในสิ่งที่ผิดๆ โดยเฉพาะนโยบายที่มีผลต่อการใช้จ่ายงบประมาณที่สิ้นเปลืองมากเกินไป ขาดวินัยการเงินการคลัง หรือ ขัดแย้งพันธกรณีต่างประเทศ”

เตรียมเชิญพรรคถกวันเลือกตั้ง

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เส้นทางสู่การเลือกตั้งของเรานั้น บางคนยังเข้าใจผิดว่าการไม่ไปเลือกตั้ง จะทำให้รัฐบาลหรือ คสช.อยู่ต่อไปได้ ความจริงหากไม่ไปเลือกตั้งแล้ว ผู้สมัครคนใดได้คะแนนมาก ก็ได้เป็น ส.ส. และพรรคที่มี ส.ส.มากที่สุด จะได้ตั้งรัฐบาล และหลังจากร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มีผลบังคับใช้แล้ว การเลือกตั้งอาจจะเกิดขึ้นในเดือนใดก็ได้ ภายใน 150 วันหลังจากนั้น โดยขึ้นอยู่กับความพร้อมของทุกฝ่าย ทั้งพรรค ผู้สมัครรับเลือกตั้ง และกกต. ในระหว่างนั้น ครม.จะแจ้ง คสช.ให้เชิญ กกต. กรธ. รวมถึงทุกพรรคมาพูดคุยหารือว่าการเลือกตั้งนั้นควรจะเกิดขึ้นเมื่อใด วันเวลาที่ทุกฝ่ายพร้อม ถือเป็น “วาระสำคัญของชาติ” อาจต้องเป็นสัญญาร่วมกันว่าทำอย่างไร เราจะเดินหน้าประเทศไปตามโรดแม็ป

“รัฐบาลและ คสช.ไม่เคยมีความคิดและไม่ไปก้าวล่วงอำนาจใดๆ ที่จะทำให้เกิดการคว่ำร่างกฎหมายต่างๆ เพราะรัฐบาลไม่อยากให้กำหนดเวลาคลาดเคลื่อน ตามที่มีใครหลายคนพยายามบิดเบือน ให้ข้อมูลผิดๆ ต่อสังคม เว้นอย่างเดียว คือการเกิดความวุ่นวาย ประชาชนขัดแย้ง ใช้กำลัง ใช้อาวุธ ใช้ความรุนแรง การหาเสียงมีปัญหา ประชาชนขัดแย้งกันอีก เกิดความไม่สงบเหมือนช่วงก่อนปี 2557 อันนั้นก็เป็นอีกเรื่อง ทุกคนต้องช่วยกัน อย่าให้เกิดขึ้น ทุกฝ่ายต้องช่วยกันรักษาบรรยากาศ ความมีเสถียรภาพ ต้องไม่ขัดแย้ง ไม่แบ่งฝ่ายกันอีกต่อไป แล้วต้องสัญญากันว่า หลังการเลือกตั้ง เราจะมีฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้านที่จะร่วมมือกัน ทำในสิ่งที่ประเทศและประชาชนทั้งประเทศต้องการ ไม่ว่าจะเป็นฐานเสียงของฝ่ายใดก็ตาม รวมทั้งช่วยกันปฏิรูปประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติต่อไป” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

สนช.โหวต 14 ตุลาการศาลปค.

ที่รัฐสภา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ประชุมพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลที่ได้รับเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลปกครองสูงสุด โดยผู้ได้รับการเสนอชื่อ 14 คน ได้แก่ 1.นางสายสุดา เศรษฐบุตร อธิบดีศาลปกครองนครราชสีมา 2.นายวุฒิ มีช่วย อธิบดีศาลปกครองกลาง 3.นายฤทัย หงส์สิริ อธิบดีศาลปกครองอุดรธานี 4.นางสุกัญญา นาชัยเวียง อธิบดีศาลปกครองเชียงใหม่ 5.นาย กิตดนัย ธรมธัช อธิบดีศาลปกครองชั้นต้นประจำศาลปกครองสูงสุด 6.นายอำพน เจริญชีวินทร์ อธิบดีศาลปกครองเพชรบุรี 7.นายไชยวัฒน์ ธำรงศรีสุข อธิบดีศาลปกครองอุบลราชธานี

8.นายประสาน บางประสิทธิ์ อธิบดีศาลปกครองชั้นต้นประจำศาลปกครองสูงสุด 9.นายโสภณ บุญกูล อธิบดีศาลปกครองสงขลา 10.นายจักริน วงศ์กุลฤดี อธิบดีศาลปกครองสูงสุด 11.นางศิริวรรณ จุลโพธิ์ อธิบดีศาลปกครองนครสวรรค์ 12.นายประวิทย์ เอื้อ นิรันดร์ อธิบดีศาลปกครองระยอง 13.นาย จิรศักดิ์ จิรวดี อธิบดีศาลปกครองพิษณุโลก และ 14.นายธีรัฐ อร่ามทวีทอง อธิบดีศาลปกครองประจำศาลปกครองสูงสุด

โดยประชุมรับฟังรายงาน และประชุมลับ 30 นาที ก่อนลงคะแนนลับโดยวิธีกาบัตรลงคะแนนในคูหาเลือกตั้ง ผลปรากฏว่าที่ประชุมเสียงข้างมากเห็นชอบทั้ง 14 คน จากนั้นจะนำรายชื่อเสนอนายกฯ เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ แต่งตั้งต่อไป

กรธ.ปัดวิจารณ์สนช.คว่ำ 7 กกต.

นายอุดม รัฐอมฤต โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงข้อสังเกตว่านายศุภชัย สมเจริญ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากจะอายุครบ 70 ปี อาจทำให้เกิดปัญหาการทำงานว่า ตามพ.ร.บ.ว่าด้วย กกต. กำหนดทางออกไว้ในมาตรา 70 วรรคสาม โดยนำความมาตรา 17 วรรคสาม ให้ประธานศาลฎีกาและประธานศาลปกครองสูงสุดร่วมกันแต่งตั้งบุคคลทำหน้าที่ กกต.ชั่วคราวมาใช้โดยอนุโลม นอกจากนั้นยังมีอำนาจของหัวหน้า คสช. ตามมาตรา 44 ให้ กกต.ที่พ้นวาระปฏิบัติหน้าที่ได้ต่อ

นายอุดมกล่าวต่อว่า ส่วนที่ สนช.มีมติไม่เห็นชอบบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่ง กกต.นั้นไม่ขอออกความเห็น เพราะเป็นเรื่องที่ สนช.ต้องตอบคำถาม อย่างไรก็ตามเมื่อกระบวนการคัดเลือกดังกล่าวไม่ผ่านความเห็นชอบ ต้องกลับไปสู่กระบวนการสรรหาตามที่พ.ร.บ.ว่าด้วย กกต.กำหนดไว้

วิษณุยันไม่กระทบโรดแม็ป

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี สนช.ลงมติคว่ำ 7 รายชื่อ กกต.ชุดใหม่ว่า ไม่กระทบต่อโรดแม็ปการเลือกตั้งที่ขึงเอาไว้ยาวถึงเดือนก.พ. 2562 ส่วนโรดแม็ปการเลือกตั้งท้องถิ่นจะเป็นโรดแม็ปเล็กที่ซ้อนอยู่นั้น โรดแม็ปที่เล็กอีกอันคือกระบวนการสรรหา กกต. ถ้าจะต้องขยายเวลาออกไปก็ไม่เกินโรดแม็ปใหญ่ อย่างไรก็ตามหากมีอะไรเกิดขึ้น กกต.ชุดปัจจุบันยังทำหน้าที่ไปได้ แม้จะไม่สร้างความมั่นใจแก่ผู้ที่เกี่ยวข้อง แต่ก็ทำเท่าที่ทำได้

นายวิษณุกล่าวต่อว่า นับจากวันที่ 22 ก.พ.ที่มติขยายเวลาสรรหาใหม่ไปอีก 90 วัน ดังนั้น จะได้ กกต.ใหม่ก่อนมิ.ย. แต่ถ้ายังไม่ได้ก็เอา กกต.ชุดเก่านี้มาร่วมหารือ และคงทราบชื่อ กกต.ใหม่กันแล้ว ดังนั้น โดยมารยาท กกต.เก่าที่มาร่วมประชุมจะได้หารือกับ กกต.ใหม่อย่างไม่เป็นทางการก่อน ซึ่งเป็นวิธีถ้อยทีถ้อยอาศัย และหากจะเลือกตั้งท้องถิ่นก็ใช้ กกต.เก่าทำได้ อาจจะขลุกขลัก แต่ไม่มีปัญหาทางกฎหมาย เป็นปัญหาในทางปฏิบัติมากกว่า

ปัดยื้อเลือกตั้ง

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีเสียงโจมตีมากว่าเป็นใบสั่ง คสช. เพื่อยื้อเลือกตั้ง นายวิษณุกล่าวว่า ฝ่ายการเมืองก็โจมตีทุกเรื่องทุกวันอยู่แล้ว อ่างบัวแตกก็โจมตี ไม่เกี่ยวการยื้อเลือกตั้งแน่ ไม่กระทบ

เมื่อถามว่า กกต.สเป๊กเทพหาได้ยาก นายวิษณุกล่าวว่า สเป๊กเทพเป็นสเป๊กที่กำหนดไว้ในกฎหมาย ดังนั้น การจะล็อกก็ล็อกได้แค่ในภาษาพูด แต่โดยกฎหมายแล้วจะไปล็อกได้อย่างไร ส่วนเหตุผลของ สนช.คว่ำเพราะอะไร ตนก็ไม่ทราบเพราะเป็นการลงคะแนนลับ อย่างที่มีคนไปถามประธาน สนช. แล้วได้คำตอบว่ากรรมการไม่กล้าเสี่ยง ดังนั้น ต้องเห็นใจเขา ทั้งนี้ สนช. 248 คนต่างคนต่างมีความเห็น ต่อให้ล็อบบี้ก็คงยากเพราะลงคะแนนลับ สำหรับคนที่ถูกโหวตตกนี้ไม่สามารถมาสมัครได้ใหม่ ส่วนคนที่เคยสมัครแต่ไม่ผ่านการคัดเลือกนั้นมาสมัครได้ เพราะอาจจะเป็นวาสนาของคนเหล่านั้นก็ได้

เมื่อถามว่ามีเสียงวิจารณ์ว่าเป็นใบสั่ง คสช. นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ทราบและนึกไม่ออกว่าถ้าสั่งจะสั่งว่าอะไร แต่อาจเรียกข้อมูลมาดูแล้วพูดกันปากต่อปากก็เป็นไปได้ แต่ถ้าสั่งตนไม่เชื่อว่าถ้าสั่งแล้วใครจะปฏิบัติตามได้ในเมื่อลงคะแนนลับ

สมชัยซ้ำไม่ควรเซ็ตซีโร่กกต.

ที่สำนักงาน กกต. นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. กล่าวถึง สนช.มีมติไม่เห็นชอบบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็น กกต.ทั้ง 7 คนว่า ไม่เชื่อว่ามีใบสั่ง เพราะถ้าดูจากคะแนนค่อนข้างธรรมชาติมาก ถ้ามีใบสั่งคะแนนที่ได้จะต้องเกาะกลุ่มกันมากกว่า แต่อาจเป็นเพราะลงคะแนนลับ ทำให้ สนช.มีเสรีภาพ ไม่ต้องคำนึงว่าใครจะรู้ว่าตนเองลงคะแนนให้ใคร ส่วนสาเหตุที่ประชุม สนช.ไม่รับทั้งหมด คิดว่าประธาน สนช.จะต้องวิเคราะห์ให้ได้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในรอบใหม่ กระบวนการสรรหา กกต.ชุดใหม่น่าจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือนเต็ม คาดว่าจะมีชื่อ กกต.ชุดใหม่เดือนส.ค. ดังนั้น กกต.ชุดปัจจุบันก็จะทำงานต่อไป ไม่มีผลกระทบกับการเลือกตั้งทุกประเภท

“สิ่งที่กังวลคือชุดใหม่มาช้าเท่าไรเวลาที่จะเหลือจากการเตรียมการเลือกตั้งก็จะน้อยลง รากเหง้าของปัญหาคือ ไม่ควรเซ็ตซีโร่ กกต.ชุดนี้ ถ้าไม่เซ็ตซีโร่แต่แรกปัญหาวันนี้คงไม่เกิด จะไม่มีปัญหาเรื่องการเปลี่ยนผ่าน จะด้วยไม่อยากได้ปลาสองน้ำ แต่วันนี้ได้ปลาสองน้ำแบบที่ตั้งใจหรือไม่ การได้มือใหม่ในช่วงใกล้เลือกตั้งมากเท่าไร่ก็จะยิ่งเป็นปัญหา จึงขึ้นอยู่กับว่าเราจะช่วยกันดูสถานการณ์อย่างไรให้เป็นการลงอย่างซอฟต์แลนดิ้ง ไม่ให้เกิดผลกระทบ” นายสมชัยกล่าว

ปชป.ซัด 5 สายอย่าคิดถึงแต่ตัวเอง

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึง สนช.มีมติคว่ำว่าที่ 7 กกต.ว่า ไม่ทราบเหตุผลที่แท้จริง และสังคมก็ต้องการรับรู้ว่าคืออะไร ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้สะท้อนว่าสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้อะไรก็อาจเกิดขึ้นได้ ที่บอกว่าชัดเจนแล้วอาจจะคือความไม่ชัดเจนก็ได้ ส่วนจะกระทบโรดแม็ปการเลือกตั้งหรือไม่นั้นตอบไม่ได้ ขอให้เป็นหน้าที่ของแม่น้ำทุกสายที่เป็นคนทำและต้องเป็นคนตอบ รวมทั้งต้องเป็นคนรับผิดชอบต่อไปด้วย

เมื่อถามว่าจากที่ สนช.คว่ำ 7 ว่าที่กกต. กังวลหรือไม่ว่าจะส่งผลต่อการลงมติร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว.ที่อยู่ในชั้น กมธ.ร่วม 3 ฝ่าย นายจุรินทร์กล่าวว่า คนที่ควรกังวลคือแม่น้ำสายต่างๆ มากกว่า ดังนั้น จะทำอะไรก็ต้องระวังให้มาก อย่าคิดถึงแต่ตัวเองจนกลายเป็นวัวพันหลัก ขอให้คิดถึงประเทศชาติให้มาก เพราะประชาชนเขามีความรู้พอ และจับตาดูอยู่

สังคมเชื่อยาก-ไร้ใบสั่ง

นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมาย ปชป. กล่าวว่า การที่ สนช.มีมติไม่เห็นชอบว่าที่ กกต.ทั้ง 7 คนที่สรรหามา จึงไม่มีผลต่อการเลือกตั้ง เพราะถึงอย่างไรก็ใช้ กกต.ชุดเก่าปฏิบัติหน้าที่ไปก่อนได้ อีกมุมหนึ่งที่ต้องยอมรับคือ ถ้าดูผู้ได้รับการสรรหาแล้วมี 4 จาก 7 คน ที่มีความสุ่มเสี่ยงว่าคุณสมบัติจะไม่ครบตามรัฐธรรมนูญใหม่ หาก สนช.โหวตผ่านไป โดยไม่สนใจ ตนฟันธงได้เลยว่าจะมีผู้ไปยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแน่ๆ ร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งประเด็นนี้ไม่ว่าจะวินิจฉัยไปในทางใดก็ไม่น่าจะเป็นผลดีแน่ จึงเห็นว่าการที่ สนช.โหวตออกมาอย่างนี้เป็นการตัดไฟเสียแต่ต้นลม ซึ่งน่าจะเป็นทางออกที่ดี

นายวิรัช ร่มเย็น กรรมการบริหาร ปชป. กล่าวถึงกรณีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.ปฏิเสธถึงการคว่ำว่าที่ กกต.ทั้ง 7 คนไม่มีใบสั่งจากใครว่า สังคมคงไม่เชื่อเพราะทั้งนายพรเพชรและ สนช.ต่างมีตำแหน่งมาจากการแต่งตั้งของหัวหน้า คสช. และไม่ใช่ การยื้อเวลาจัดการเลือกตั้งครั้งแรก ในโลก โซเชี่ยลมีเดียได้คำนวณพบว่าทุกเดือนที่ยืดเวลาเลือกตั้งออกไปเงินภาษีของประชาชนกว่า 28 ล้านบาทจะถูกจ่ายเป็นเงินเดือนสนช. ซึ่งยังไม่รวมสิทธิพิเศษอื่นๆ และเบี้ยประชุม หากผู้มีอำนาจอยากยื้อจัดการเลือกตั้งก็ควรหาเหตุผลที่ดีมาชี้แจง ไม่ใช่ใช้แท็กติกทำให้ขัดความรู้สึกสังคมเช่นนี้

ชทพ.หวังไม่ยืดโรดแม็ป

ที่พรรคชาติไทยพัฒนา นายวราวุธ ศิลปอาชา แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงมติสนช.ไม่เห็นชอบบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็น กกต.ทั้ง 7 คนว่า แปลกใจว่าการทำหน้าที่สรรหา ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนของสนช. และองค์กรที่เกี่ยวข้องทำไมไม่พูดคุยก่อนนำเข้าสู่ระบบการลงมติในที่ประชุม หากบุคคลที่เสนอชื่อนั้นยังไม่เหมาะสม ก็ควรพิจารณาให้ดีก่อนเสนอชื่อ แต่เชื่อว่าเรื่องนี้จะไม่กระทบต่อการจัดการเลือกตั้ง เพราะตามกฎหมายให้กกต.ชุดปัจจุบันปฏิบัติหน้าที่ได้ต่อไป ดังนั้นกระบวนการจัดการเลือกตั้งจะไม่มีคำว่าสุญญากาศแน่นอน ส่วนจะส่งผลให้เลื่อนโรดแม็ปที่นายกฯ ประกาศจะจัดเลือกตั้งเดือนก.พ. 2562 หรือไม่นั้น ตนตอบไม่ได้เพราะอยู่เหนือการคาดเดา

“ใครคิดจะนำประเด็นหรือเงื่อนไขให้รอการเลือกตั้งไปจนกว่าจะมีกกต.ชุดใหม่ปฏิบัติหน้าที่นั้น หากเกิดขึ้นจริง คสช.ต้องชี้แจงให้ได้ แต่เชื่อว่าตามกระบวนการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นภายใต้กฎหมายใหม่ และมีกกต.ชุดปัจจุบันทำหน้าที่ การเลือกตั้งยังต้องเกิดขึ้นตามระยะเวลา” นายวราวุธกล่าว

นายวราวุธกล่าวอีกว่า สิ่งที่พรรคการเมืองต้องเตรียมคือ ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.นี้ กระบวนการยืนยันสมาชิกพรรคจะเริ่มต้นขึ้น แต่ยังไม่ถึงขั้นเปิดรับสมัครสมาชิกพรรคใหม่ได้ ส่วนกระแสข่าวมีคนของพรรคเก่าย้าย ไปสมัครพรรคที่ตั้งขึ้นใหม่นั้น เรื่องนี้ขึ้น อยู่กับความสมัครใจของผู้ที่จะประสงค์เป็น สมาชิกพรรค

พท.อยากรู้เหตุผลของ”สนช.”

นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ตามที่สนช.มีมติไม่ให้ความเห็นชอบ 7 ว่าที่กกต.นั้น นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ที่ไม่ให้ความเห็นชอบบุคคลที่ผ่านการสรรหาแบบสอบตกยกชุด ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จึงน่าสนใจว่ามีเบื้องหน้าเบื้องหลังอย่างไร เนื่องจากก่อนหน้านี้ กมธ.ตรวจสอบคุณสมบัติ ก็เผยว่าทั้ง 7 คนมีคุณสมบัติครบถ้วน และในส่วนของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา 2 คนที่มีปัญหาว่าสรรหามาโดยชอบหรือไม่นั้น ศาลฎีกาได้ยืนยันมาแล้วว่าถูกต้อง จึงไม่ทราบเหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมจึงไม่ผ่านทั้งหมด มติของสนช.จึงดูแปลกๆ ดังนั้นสนช.ต้องแถลงให้ทราบว่าเหตุผลใดจึงไม่เห็นชอบ

นายชูศักดิ์กล่าวว่า การที่ประธานสนช. ซึ่งเป็นกรรมการสรรหาด้วย แถลงระบุไม่ทราบเหตุผลทำไมจึงไม่เห็นชอบนั้น ถือว่าไม่สมเหตุสมผล และสมควรที่กรรมการสรรหาจะต้องขอทราบเหตุผล เพื่ออย่างน้อยจะได้เป็นเหตุผลในการตัดสินใจต่อกรณีที่จะต้องสรรหาใหม่ จึงขอตั้งข้อสงสัยว่าการลงมติครั้งนี้น่าจะมีอะไรที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง ส่วนที่หลายฝ่ายระบุไม่มีใบสั่งนั้น สังคมก็คงไม่เชื่อ ความจริงคงค่อยๆ เผยออกมา

ห่วงเลือกคนไม่ถูกใจผู้มีอำนาจ

“ผมวิตกกังวลว่า เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับมติของกรรมการสรรหาในการเลือกบุคคล ไม่เป็นไปตามที่ผู้มีอำนาจอยากจะให้เป็นหรือไม่ หรือจะเกี่ยวข้องกับการเซ็ตซีโร่กกต.ชุดปัจจุบันหรือไม่ เนื่องจากมีข่าวหนาหูว่า กกต.ปัจจุบันบางคนอาจจะลาออกเพราะอยู่ไปก็ต้องรับผิดชอบรับเผือกร้อน บางคนต้องพ้นเพราะอายุครบ จึงอาจเกิดสุญญากาศ และอาจเป็นโอกาสที่จะใช้อำนาจพิเศษกันอีกครั้ง ถ้าเป็นอย่างนั้น ต้องถือว่าเรื่องนี้มีการวางแผนเป็นขั้นตอน เข้าข่ายสมคบคิดอีก” นาย ชูศักดิ์กล่าว

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง อดีตรมช.คมนาคม และแกนนำพรรคเพื่อไทยภาคอีสาน กล่าวว่า สนช.ต้องตอบคำถามต่อสังคมให้ได้ว่าเพราะเหตุใด ถึงโหวตคว่ำ 7 คนผ่านกระบวนการสรรหามาหมดแล้ว ถ้าสนช.ไม่มีคำตอบที่ชัดเจน แสดงว่า สนช.ได้รับใบสั่งมาจากผู้มีอำนาจ เป็นไปตามที่สาธารณชนวิจารณ์และตั้งข้อสังเกตว่าเป็นเกมยื้อการเลือกตั้งออกไป มาถึงวันนี้ทุกฝ่ายไม่มีความมั่นใจเลยว่าในปี 2562 จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง รัฐบาลจะเป็นฝ่ายได้รับ ผลกระทบโดยเฉพาะเรื่องความเชื่อมั่นจากต่างประเทศและนักลงทุนรวมถึงประชาชนคนไทยด้วย

“โอ๊ค-แม้ว-ปู”ทัวร์สิงคโปร์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้โพสต์ภาพผ่านอินสตาแกรม โดยเป็นภาพถ่ายของตนเองกับนายทักษิณ และน.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ระหว่างเดินทางไปพักผ่อนที่ประเทศสิงคโปร์ โดยระบุว่า “ฝากให้เพื่อนดู 1 นาทีลบ ทดสอบความไวอีกครั้งหนึ่ง”

ฟันอีก”สุพจน์”ปมถนนปลอดฝุ่น

วันที่ 23 ก.พ. เว็บไซต์ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่เรื่องที่คณะกรรมการป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิด กรณีนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงคมนาคม ถูกกล่าวหาทุจริตในโครงการถนนปลอดฝุ่นและโครงการอื่นๆ ของกระทรวงคมนาคม โดยมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงตามพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 มาตรา 85 (4) และมีมูลความผิดทางอาญา ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 103 ประกอบมาตรา 103/1 และมาตรา 122

ทั้งนี้ ให้ส่งรายงานเอกสารและความเห็นไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาโทษทางวินัย และส่งเรื่องไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญาในศาล ซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยป.ป.ช. มาตรา 92 และมาตรา 97 แล้วแต่กรณี โดยส่งรายงานเอกสารและความเห็นไปแล้วเมื่อวันที่ 29 ก.ย.2560

ตู่เด้ง”ปลัดพม.”-พิษโกงคนจน

เมื่อวันที่ 23 ก.พ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ลงนามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 52/2561 เรื่อง ให้ข้าราชการมาปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี มีสาระสำคัญ คือสั่งให้นายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และนายณรงค์ คงคำ รองปลัด พม. เข้าปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี โดยไม่ขาดจากอัตราเงินเดือนทางสังกัดเดิม

โดยให้ทั้งสองคนปฏิบัติหน้าที่เป็นที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิของนายกฯ ให้อยู่ในความควบคุมและกำกับดูแลของรองนายกฯ ที่ได้รับมอบหมายให้กำกับดูแล พม. ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ทั้งนี้ในคำสั้งยังอ้างถึง กรณีที่พม.ได้รับแจ้งจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบความผิดปกติในการเบิกจ่ายงบประมาณเงินอุดหนุนของกระทรวง โดยพม.ได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อสืบสวนข้อเท็จจริงมาแล้วคณะหนึ่ง ผลการสืบสวนตรวจพบความผิดปกติจริง แต่ยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ และอยู่ระหว่างการสืบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติม โดยที่ความผิดปกติดังกล่าวอาจเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติราชการของข้าราชการระดับสูงของกระทรวง และอาจเกี่ยวกันพันข้าราชการในวงกว้าง ซึ่งจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงต่อไป เพื่อให้การสืบสวนข้อเท็จจริงดังกล่าวมีความถูกต้องและเป็นธรรม จึงมีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีดังกล่าว

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์กรณี พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พม. เข้าพบเพื่อรายงานความคืบหน้ากรณีตรวจสอบทุจริตรับเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและผู้ติดเชื้อเอดส์ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ว่า พล.อ.อนันตพรมาหารือและเล่าปัญหาที่เกิดขึ้นให้ทราบ เมื่อพบจึงควรตรวจสอบให้กว้างขวางทั่วประเทศ ส่วนกระแสข่าวเกี่ยวข้องข้าราชการระดับสูงของพม. การตรวจสอบเป็นหน้าที่ของกระทรวง

พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พม. กล่าวว่า ได้รับรายงานการตรวจสอบจากทางกรมทุกวัน เจอบ้างไม่เจอบ้าง บางทีเจอก็ไม่ใช่ก้อนใหญ่ บางจุดแค่หลักหมื่นทำกันแค่คนสองคน ยืนยันพม.ตรวจสอบตามหลักการ ให้เวลาสอบไว้ 1 เดือนถึงสิ้นเดือนมี.ค.นี้ ไม่ว่าซัดทอดถึงใครก็เอาให้หมด แต่การตรวจสอบของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือป.ป.ท. ที่ดำเนินการทุกวันกลับไม่ยอมเปิดเผยหรือแถลงข่าว ป.ป.ท.ตรวจสอบทุกวันมีที่ไม่เจอหลายจังหวัด เช่น สมุทรสงคราม สิงห์บุรี แต่ไม่แถลง ตนไม่ก้าวก่าย แต่ก็น่าจะบอกบ้างว่า ตรวจไม่เจอจะได้รู้กันว่าไม่ได้เลวร้ายไปทั้งหมด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน