ปริญญา แนะ กกต.เลิกบ้าจี้ ควรยกคำร้องทั้ง‘หุ้นพิธา-ค้อนเคียว’ ชี้จะไปล้มล้างการปกครองได้อย่างไร เผยข้อกฎหมาย สละมรดกเท่ากับยังไม่เป็นเจ้าของตั้งแต่ต้น

เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.2566 นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล ผู้อำนวยการศูนย์นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวในรายการ “อยากมีเรื่องคุย” ของ ข่าวสดออนไลน์ ถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีหนังสือให้พรรคก้าวไกลชี้แจงเรื่องค้อนเคียว ที่ปรากฏอยู่ในภาพการ์ตูนหาเสียงของพรรค ว่า มีนักร้องไปร้อง เรื่องนี้ กกต.ควรไม่รับคำร้อง เพราะสิ่งที่ปรากฏมันไม่ใช่โลโก้ของพรรค มันอยู่ในการ์ตูนหาเสียงของผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ และถึงจะเป็นโลโก้พรรคก็ไม่ได้หมายถึงคอมมิวนิสต์ ไปดูค้อนเคียวมีการนำมาใช้อย่างหลากหลาย เช่น สร.รฟท.ก็มีใช้ค้อนเคียว พรรคคอมมิวนิสต์หลายพรรคในหลายประเทศก็ไม่ใช้ค้อนเคียวเป็นโลโก้

ดังนั้น ค้อนเคียวจึงไม่ได้แปลว่าเป็นคอมมิวนิสต์ และไม่ได้ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขของไทย

“กรณีพรรคก้าวไกลไม่ใช่โลโก้พรรค แค่รูปอันหนึ่งอยู่ในโปสเตอร์ กกต.ไม่ควรบ้าจี้ การ์ตูนรูปค้อนเคียวจะไปล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยได้อย่างไร ต้องเป็นการกระทำถึงจะล้มล้างการปกครอง ผมเห็นว่าเรื่องนี้ กกต.ควรยกคำร้อง แล้วรีบมาทำหน้าที่ของตัวเอง ประกาศรับรองส.ส. บ้านเมืองจะได้เดินหน้าต่อ” นายปริญญา กล่าว

นายปริญญา กล่าวต่อว่า อย่าไปคิดว่าค้อนเคียวคือการล้มล้างระบอบการปกครอง แต่การยึดอำนาจเป็นการใช้กำลังล้มล้างรัฐธรรมนูญ หรือพรรคการเมืองที่หาเสียงอ้างสถาบันแล้วเอามาโจมตีพรรคอื่น นี่แหละเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ทำให้การเมืองกระทบกระทั่งไปถึงสถาบัน

ตนคิดว่า กกต.เรื่องใหญ่คือจัดเลือกตั้งเที่ยงธรรมและรวดเร็ว และควรรับรองส.ส.โดยเร็ว ไม่ต้องรอให้ครบ 60 วัน ตนคิดว่าไม่เกิน 14 มิ.ย.ควรจะประกาศผลแล้ว อย่างน้อย 95 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้เดินหน้าต่อไปได้

ส่วนกรณีการถือหุ้นไอทีวีของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลนั้น นายปริญญา กล่าวว่า ความจริงเรื่องหุ้นของนายพิธา มันไม่มีสาระเลย โดยเฉพะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ การสละมรดกเท่ากับมีผลย้อนหลังถึงวันที่เจ้าของมรดกตาย ผู้รับมรดกไม่ถือเป็นเจ้าของที่แท้จริงตั้งแต่ต้นเพราะยังไม่ได้แบ่ง จึงควรยกคำร้องเรื่องหุ้น แนวคำวินิจฉัยของศาลฎีกา ต่อให้ฟื้นคืนชีพไอทีวีขึ้นมา ก็มีกรณี นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ มีเป็นบรรทัดฐานอยู่แล้ว

ดังนั้น กรณีนายพิธา มีหุ้นแค่ 0.0035 เปอร์เซ็นต์ มรดกก็ยังไม่ได้แบ่ง เมื่อสละไปแล้วก็มีผลย้อนหลัง ดังนั้น กกต.ยกคำร้องได้เลย








Advertisement

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน