สนธิญา ยื่น กกต. ให้ถามเพื่อไทย ปมนโยบายแจกเงินหมื่นจะชะลอถึงชาติไหน พร้อมสวนพท.ฟ้อง ถ้าร้องเท็จยอมเดินเข้าคุก แต่ถ้าจริง โทษย้อนกลับถึงยุบพรรค

เมื่อเวลา 11.40 น. วันที่ 9 มิ.ย.2566 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เข้ายื่นต่อ กกต. เพื่อให้สอบถามพรรคเพื่อไทย (พท.) กรณีที่พรรคขอชะลอนโยบายแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท แก่ประชาชนอายุ 16 ปีขึ้นไป

นายสนธิญา กล่าวว่า อยากให้ กกต.สอบถามพรรคเพื่อไทยว่า การชะลอนโยบายแจกเงิน 10,000 บาทนั้น จะชะลอไปถึงปีไหน หรือถึงชาติไหน จะแจกหรือไม่แจก เพราะเป็นนโยบายหลักของพรรคเพื่อไทย ที่โฆษณาให้กับประชาชนคนไทยทั้งประเทศ และตนเชื่อว่าคนไทยหลายล้านคนที่เลือกพรรคเพื่อไทยเพราะด้วยนโยบายเหล่านี้

แต่เมื่อพรรคเพื่อไทยประกาศว่าจะชะลอนโยบายนี้ ตนจึงมาทวงถามที่ กกต. เพื่อสอบถามไปยังพรรคเพื่อไทยว่า นโยบายดังกล่าวจะยังดำเนินการต่อไปเมื่อไหร่ และถ้าพรรคเพื่อไทย บอกว่านโยบายนี้ทับซ้อนกับนโยบายของพรรคก้าวไกล ตนอยากถามตรงไปยังพรรคก้าวไกลว่า หากพรรคเพื่อไทยชะลอแจกเงิน 10,000 บาท พรรคก้าวไกลจะทำนโยบายแจกเงิน 3,000 บาทให้ผู้สูงอายุหรือไม่

นายสนธิญา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ หากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล ไม่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แน่นอนว่าพรรคเพื่อไทยจะต้องมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จึงให้กกต.ถามพรรคเพื่อไทย ว่าจะหยิบนโยบายแจกเงิน 10,000 บาทมาเป็นนโยบายแรกหรือไม่

ทั้งนี้ ฝากไปยังพรรคเพื่อไทยที่จะฟ้องร้องตน กรณีที่มาร้อง กกต.ให้ตรวจสอบเรื่องแจกเงินนั้น กล่าวเท็จ ถ้าศาลพิจารณาว่าตนผิดก็ต้องติดคุก ตนยอมเดินเข้าคุก แต่อย่าลืมว่าถ้าตนไม่ได้แจ้งเท็จ ซึ่งตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 101 บัญญัติไว้ว่าพรรคการเมืองที่กล่าวหาประชาชนที่มาร้อง จะมีโทษเป็น 2 เท่า นั่นคือยุบพรรค และตัดสิทธิกรรมการบริหารและหัวหน้าพรรคนั้นด้วย เรื่องนี้ ขอให้พึ่งสังวรไว้ด้วย และตนยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อพรรคเพื่อไทยหรือพรรคอื่นใด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน