จาตุรนต์ รายงานตัวต่อสภา หลังไม่ได้เป็นส.ส.มา 17 ปี ชี้ตำแหน่งประธานสภา หาทางออกที่ดีได้ แนะมองเป้าการจัดตั้งรัฐบาลปชต. ปัดตอบแทน ส.ส.เพื่อไทยจะไม่แตกแถว
เมื่อเวลา 08.40 น. วันที่ 21 มิ.ย.2566 ที่รัฐสภา นายจาตุรนต์ ฉายแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวภายหลังเข้ารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรว่า ถือฤกษ์สะดวก เพราะตั้งแต่ก่อสร้างอาคารรัฐสภาใหม่ ไม่เคยมาเลย จึงตื่นเต้นและดีใจ เพราะตนไม่ได้เป็นส.ส.มา 17 ปี ตั้งแต่ปี 2549 เพราะระบบการเมืองผิดเพี้ยน เกิดรัฐประหาร 2 ครั้ง ยุบพรรค เพิกถอนสิทธิ์ ทำให้ไม่ได้เป็นส.ส.
ครั้งนี้กลับมาเป็นส.ส.ใหม่อีกครั้งในสภาพการณ์แตกต่างจากเดิมมาก ดังนั้น การทำหน้าที่ ส.ส.หลังจากนี้ คงทำอะไรได้มากกว่าสมัยก่อน การพูดในสภาเปลี่ยนไปพอสมควร มีการใช้ข้อมูลมากขึ้น การทำหน้าที่เป็นปากเสียงให้ประชาชนทำได้แตกต่างมากกว่าเดิม สามารถทำผ่านสื่อต่างๆ ได้ ไม่เหมือนสมัยก่อนที่ต้องรอตั้งกระทู้ หารือ หรือยื่นญัตติในสภา
“สภาพการเมืองจากนี้ไป ผมเชื่อว่าเข้มข้นในการแก้กฎหมาย ที่สำคัญต้องอยู่ในกระบวนการแก้รัฐธรรมนูญ ที่ส.ส.มีงานต้องทำ ต้องหาข้อมูล และต้องคิด ศึกษาหาความรู้ แม้ผมจะเคยเป็นส.ส.มา 7 สมัย แต่สภาพการณ์ใหม่ต้องเรียนรู้ ทำความเข้าใจและปรับตัวให้มากขึ้นถึงจะทำหน้าที่ได้ตามที่ประชาชนมอบหมาย” นายจาตุรนต์ กล่าว
นายจาตุรนต์ กล่าวถึงการจัดปฐมนิเทศ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ช่วงบ่าย วันนี้ (21 มิ.ย.) ว่า เป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ให้ ส.ส.นำประสบการณ์เก่าแชร์ให้กับส.ส.ใหม่ ส่วนที่มีข่าวจะหารือถึงตำแหน่งประธานสภานั้น ทราบว่าตามวาระเป็นการปฐมนิเทศ ส.ส. เพื่อให้การทำงานทำได้ดีขึ้น ส่วนจะแลกเปลี่ยนความเห็นทางการเมือง จัดตั้งรัฐบาล คาดว่าจะพูดถึงในระดับแลกเปลี่ยนความเห็นกัน ให้ผู้ประสานงานจัดตั้งรัฐบาลได้รับฟัง ไม่ใช่การประชุมเพื่อหามติใดๆ ส่วนที่แชทไลน์ ส.ส.เพื่อไทยที่หลุดนั้น ตนไม่ทราบ เท่าที่พูดคุยในไลน์ไม่มีหลุด จึงไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น
เมื่อถามถึง ส.ส.เพื่อไทยไม่อยากยกตำแหน่งประธานสภาให้พรรคก้าวไกล นายจาตุรนต์ กล่าวว่า เห็นจากข่าวเช่นกัน แต่ไม่มีโอกาสพูดคุย เชื่อว่าวันนี้มีโอกาสไปฟัง ทั้งนี้ ตนได้รับแจ้งจากแกนนำผู้ที่ไปหารือจัดตั้งรัฐบาล เมื่อ 3 วันก่อน ว่า พรรคเพื่อไทยเห็นว่าพรรคที่ได้ส.ส.อันดับหนึ่ง ควรได้ตำแหน่งประธานสภา ส่วนเพื่อไทยที่เป็นพรรคอันดับสอง ขอตำแหน่งรองประธานสภา เชื่อว่าจะมีการหารือในแนวทางอีกครั้ง
“เชื่อว่าทางออกของเรื่องนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการจัดตั้งรัฐบาล การลงมติเลือกประธานสภ เป็นการลงมติลับ ดังนั้น ไม่ทราบว่าใครลงคะแนนให้ใคร แต่โดยปกติการลงมติดังกล่าว มีมติจากแต่ละพรรคเพื่อแสดงถึงทิศทางเดียวกัน เชื่อว่าจะหารือกั และดำเนินการตามมติพรรค” นายจาตุรนต์ กล่าว
นอกจากนั้นต้องคำนึงถึงความสำเร็จของการจัดตั้งรัฐบาล เนื่องจากหากจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ จะทำให้กลายเป็นเสียงข้างน้อยในสภา ไม่ตรงกับเจตนารมณ์ของประชาชน และอาจได้รัฐบาลที่ไม่มีความชอบธรรม จึงควรยึดการจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยเป็นอันดับแรก ส่วนตัวเชื่อว่าเมื่อมีการพูดคุยแล้วจะมีทิศทางที่ดี
เมื่อถามถึงข่าวจะมีพรรคอื่นเสนอชื่อนายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ชิงตำแหน่งประธานสภาแข่งกับคนของพรรคก้าวไกล นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบข้อเท็จจริง เพราะได้ข่าวเป็นแบบกึ่งๆ ข่าวลือ เชื่อว่าพรรคจะหารือเพื่อเป็นประโยชน์และส่งเสริมการจัดตั้งรัฐบาล จึงควรยึดเป็นเรื่องหลัก
เมื่อถามย้ำว่าการลงคะแนนเลือกประธานสภาของ ส.ส.เพื่อไทยจะไม่แตกแถวใช่หรือไม่ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ตนไม่สามารถตอบได้เพราะเป็นส.ส.คนหนึ่ง แต่ต้องพยายามช่วยกันเพื่อให้ไปด้วยกัน เป็นสิ่งดีที่สุด ทางการเมืองแม้ว่าการลงมติจะเป็นเอกสิทธิ์ และลงมติลับ แต่ความเป็นพรรคการเมืองที่ประกาศอะไรกับประชาชน การดำเนินการควรไปในทิศทางเดียวกัน
