เสรีพิศุทธ์ แนะ เพื่อไทย-ก้าวไกล ควรรักษาคำพูด ตำแหน่งประธานสภา เป็นของใคร หวั่นขัดแย้งทำเผด็จการคืนชีพ ชี้ ‘สุชาติ’ ทำหน้าที่ได้ดี แต่ไม่ขอพูดเหมาะหรือไม่
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 22 มิ.ย.2566 ที่รัฐสภา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย (สร.) ให้สัมภาษณ์หลังเข้ารายงานตัวต่อสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ถึงตำแหน่งประธานรัฐสภา ที่ยังไม่ลงตัวระหว่างพรรคเพื่อไทยกับก้าวไกลว่า ทั้ง 2 พรรค ต่างเป็นพรรคใหญ่ เป็นพรรคฝ่ายประชาธิปไตย และมีเป้าหมายแต่งตั้งให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาก็มีปัญหา ไม่ว่าปัญหาเรื่องส.ว. หรืออะไรก็ตาม ก็อยากให้ยึดมั่นตามเป้าหมาย
ทั้งนี้ ยังเชื่อมั่นว่าทั้ง 2 พรรคยังทำงานด้วยกันได้ดี ไม่มีปัญหาขัดแย้ง ส่วนที่ยังมีปัญหาเรื่องตำแหน่งประธานสภา คิดว่าทั้ง 2 พรรคตกลงกันได้แล้ว แต่เรื่องตำแหน่งนายกฯ ยังไม่มีใครไปคัดค้านนายพิธา เมื่อตกลงกันได้แล้ว เชื่อว่าทุกคนจะรักษาคำพูด และทำงานให้ประชาชน
“วันนี้พูดแบบนี้ พรุ่งนี้พูดอีกอย่างมันไม่ดี เราต้องรักษาคำพูด ไม่อย่างนั้น การจะไปสู่เป้าหมาย มันลำบาก จะทำให้เผด็จการฟื้นคืนชีพกลับมาอีก เราจะเอาอย่างนั้นกันหรือ จึงอยากฝากบรรดาลูกพรรค ที่แสดงความคิดเห็นว่า รัฐธรรมนูญไม่ดี ใครจะแสดงความคิดเห็นจะทำอะไรก็ได้ ไม่มีระเบียบวินัย พรรคและหัวหน้าพรรคก็คุมไม่ได้ จะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และแตกแยก ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่อยากเห็น แต่อยากเห็นการทำงานของพรรคร่วมรัฐบาลเดินไปสู่เป้าหมายทำประโยชน์ให้กับประชาชนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และอยากให้ฝ่ายประชาธิปไตยเดินหน้าทำงานให้ประชาชนให้ได้” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว
เมื่อถามว่าพรรคเสรีรวมไทยมี 1 เสียงจะให้พรรคก้าวไกลหรือพรรคเพื่อไทยในการเลือกประธานสภา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ตนพูดไม่ได้จริงๆ เพราะทั้ง 2 พรรคตกลงกันแล้ว ขอให้เป็นไปตามที่ตกลง ไม่เช่นนั้นจะเสียหาย
เมื่อถามว่าจากข่าวที่ว่าพรรคพลังประชารัฐจะเสนอชื่อนายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลงชิงประธานสภาด้วย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า เราไปก้าวก่ายเขาไม่ได้ ที่จะคิดหรือพูดอย่างไร เขาจะเสนออย่างไร เราจะไปบอกว่าห้ามพรรคพลังประชารัฐเสนอไม่ได้ แต่เราต้องยึดมั่นของเราเป็นหลัก ไม่วอกแวก และนายสุชาติ ทำหน้าที่รองประธานสภาที่ผ่านมาได้ดี ตรงไปตรงมา แต่จะให้ตนพูดว่าเหมาะสมอย่างไรคงพูดไม่ได้ แต่เมื่อพรรคร่วมพูดอย่างไร ขอให้เป็นไปตามนั้น
