ลือหึ่ง ดัน ‘ดร.เอ้’ ชิงเก้าอี้หัวหน้าปชป. เจ้าตัวขอเวลาตัดสินใจ ‘ทีมมาร์ค’ ยังสู้ แก้เกมเสนอยกเว้นข้อบังคับใช้ 1 คน 1 โหวตแทน วางตัว ‘เดชอิศม์’ นั่งเลขา
เมื่อวันที่ 5 ก.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวจากพรรคประชาธิปัตย์ ก่อนการประชุมใหญ่วิสามัญประจำปี 2566 วันที่ 9 ก.ค. ในวาระเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ หลัง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ลาออกจากหัวหน้าพรรค ต้องจับตาที่การเสนอชื่อบุคคลชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคคนใหม่
ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวชิงกันระหว่าง นายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา รักษาการรองหัวหน้าพรรค ดูแลภาคใต้ โดยการผลักดันของ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรค และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค
ล่าสุด มีรายงานว่าขณะนี้มีความเคลื่อนไหวของกลุ่มนายเฉลิมชัย ได้มีการเทียบเชิญ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือดร.เอ้ อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. มาลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค หลังจากก่อนหน้านี้เคยมีการพูดคุยมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่เจ้าตัวปฏิเสธ
จึงต้องจับตาการประชุมใหญ่วิสามัญพรรค 9 ก.ค.นี้ จะมีการเสนอชื่อ นายสุชัชวีร์ เป็นหัวหน้าพรรคนายเดชอิศม์ เป็นเลขาธิการพรรค ขณะที่ น.ส.วทันยา บุนนาค หรือมาดามเดียร์ เป็นรองหัวหน้าพรรค รับผิดชอบ กทม. แทนนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รักษาการรองหัวหน้าพรรค ที่อาจขยับไปเป็นรองหัวหน้าพรรคตามภารกิจ
ขณะที่ฝั่งที่สนับสนุนนายอภิสิทธิ์ ยังไม่ถอดใจ พยามยามผลักดันนายอภิสิทธิ์ กละบมาเป็นหัวหน้าพรรค โดยใช้สาขาพรรคในการเดินเกม โดยเฉพาะการใช้เสียง 3 ใน 5 ขององค์ประชุมเพื่อยกเว้นข้อบังคับพรรค จากเสียงโหวต 70 ต่อ 30 เป็น 1 คน 1 โหวต ซึ่งสะท้อนจากการที่ 48 สาขาพรรคภาคอีสาน ที่ออกแถลงการณ์ รวมถึงสาขาพรรคภาคเหนือ และอดีตส.ส.บางส่วนที่เคลื่อนไหวสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ และเห็นด้วยกับการงดเว้นข้อบังคับดังกล่าว เพื่อให้ยุติธรรมเนื่องจากส.ส.ของพรรคปัจจุบันมีเพียง 25 คน ขณะที่องค์ประชุมทั้งหมดมี 375 คน ดังนั้น การจะให้คน 25 คน มีอำนาจมากกว่า ถือว่าไม่เป็นธรรม
ด้านนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือดร.เอ้ ยอมรับสั้นๆ ว่า มีผู้ใหญ่มาชักชวนให้เป็นหัวหน้าพรรคจริง เพราะเห็นว่าน่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ แต่จนนาทีนี้ยังไม่ตัดสินใจว่าจะลงสมัครเป็นหัวหน้าพรรคหรือไม่
นายนริศ ขำนุรักษ์ อดีตส.ส.พัทลุง ปฏิเสธว่า ตนเองไม่ได้เป็นหนึ่งในสมาชิกที่ไปร่วมเทียบเชิญนายสุชัชวีร์ ตามที่มีการระบุ เพราะขณะนี้ตนไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค และได้ยุติบทบาทในฐานะแกนนำ จึงไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะไปเทียบเชิญได้ อย่างไรก็ตามเห็นว่าในสถานการณ์เช่นนี้จำเป็นต้องมีผู้เข้ามากอบกู้พรรค ฉะนั้น ใครที่อาสาเข้ามาตนก็พร้อมให้การสนับสนุน และเห็นว่าบุคคลที่ปรากฏชื่อทุกคนมีความเหมาะสมทั้งสิ้น ยืนยันว่าตนพร้อมสนับสนุนทุกคนที่พรรคให้ความเห็นชอบ
เมื่อถามว่าส่วนตัวมองนายสุชัชวีร์ มีความเหมาะสมหรือไม่ นายนริศกล่าวว่า เข้าใจว่านายสุชัชวีร์ ติดในเรื่องคุณสมบัติตามข้อบังคับที่ระบุว่า ต้องสังกัดพรรคไม่น้อยกว่า 5 ปี แต่เชื่อว่าสามารถยกเว้นข้อบังคับได้ ที่ผ่านมาก็ดำเนินการมาแล้ว 2-3 ครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีเพียงนายอลงกรณ์ พลบุตร รักษาการรองหัวหน้าพรรคตามภารกิจ คนเดียว ที่ประกาศตัวชัดเจนว่าจะลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคแน่นอน
