เมื่อวันที่ 26 ก.พ. นายวิญญัติ ชาติมนตรี เลขาธิการสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิเสรีภาพ (สกสส.) กล่าวว่า ในวันที่ 27 ก.พ. เวลา 13.00 น. ตนจะเดินทางไปยื่นหนังสือต่ออธิบดีอัยการคดีพิเศษที่สำนักงานอัยการคดีพิเศษ ถ.รัชดาภิเษก เพื่อขอให้ติดตามตัวผู้ต้องหาที่เหลืออีก 34 คน ที่ถูกกล่าวหาว่าร่วมกระทำความผิดกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ซึ่งพนักงานอัยการได้นำตัวส่งฟ้องศาลไปก่อนหน้านี้แล้วรวม 9 คนต่อศาลอาญา เป็นคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ. 247/2561 และศาลได้นัดในวันที่ 19 มี.ค. ทั้งนี้ คดีดังกล่าวพนักงานอัยการได้สั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมดรวม 58 คน ซึ่งรวมถึงผู้ต้องหาที่เหลืออีก 34 คนที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ทั้งหมดมีพฤติการณ์สมคบร่วมกันกระทำความผิดในลักษณะแบ่งแยกหน้าที่กันทำ ดังนั้นเพื่อประโยชน์ต่อรูปคดีในการพิจารณาคดีในศาลมิให้คดีล่าช้า จึงควรรีบนำตัวไปฟ้องโดยเร็ว อีกทั้งตนทราบว่าพนักงานอัยการได้นัดหมายผู้ต้องหาที่เหลืออีก 34 คน เป็นครั้งที่ 2 ภายในวันที่ 14 มี.ค. ซึ่งหากนับระยะเวลาจากวันที่ 24 ม.ค.ซึ่งผู้ต้องหาที่เหลือรับทราบการนัดหมายครั้งที่ 2 ล่วงหน้าถึง 1 เดือนเศษ
นายวิญญัติ กล่าวอีกว่า เมื่อคำนึงถึงสถานะ อาชีพ และการปฏิบัติที่ผ่านมาของผู้ต้องหาที่เหลือ หลายรายที่ไปปรากฏตัวในที่ต่างๆ ทั้งที่ทราบกำหนดนัดของพนักงานอัยการแล้ว บางรายก็รับรู้การนัดหมายของพนักงานอัยการแล้ว ด้วยเหตุนี้หากภายในวันที่ 14 มี.ค.ผู้ต้องหาที่เหลืออีก 34 คนดังกล่าวไม่มาพบพนักงานอัยการ ตนในฐานะผู้กล่าวหาขอเรียกร้องให้อธิบดีอัยการคดีพิเศษและคณะทำงาน ยื่นคำร้องต่อศาลตามกฎหมายในการออกหมายจับผู้ต้องหาที่เหลือ 34 คน มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เพื่อพิสูจน์ว่าบ้านเมืองนี้ทำกฎหมายให้ศักดิ์สิทธิ์ บังคับใช้กับทุกคนเท่าเทียมกัน ไม่เลือกปฏิบัติต่อผู้หนึ่งผู้ใด และจะดูว่าองค์กรอัยการจะรักษาไว้ซึ่งหลักนิติธรรมหรือไม่ และขอเรียกร้องให้ผู้ต้องหาที่เหลือทั้ง 34 คนเคารพกฎหมาย มีความกล้าหาญที่จะเข้าพิสูจน์ความบริสุทธ์ของตนตามกระบวนการยุติธรรม เพราะในอดีตที่ผ่านมาผู้ต้องหากลุ่มนี้ชุมนุมเรียกร้องให้มีการปฏิรูปกฎหมายและปฏิรูปประเทศ จึงควรเริ่มต้นที่ตนเองก่อน ไม่ต้องหาวิธีการหรือแสดงพฤติการณ์ใดๆ ที่ส่อไปในทางที่จะประวิงคดีให้ล่าช้าต่อไปอีก
